แฉหนุ่มโกง ธอส. ซื้อหวยฟอกเงิน!!
ตำรวจหิ้วตัวหนุ่มผู้ช่วยผู้จัดการธอส. ยักยอกเงิน 400 ล้านฝากขังศาล พร้อมค้านประกันตัวแฉอาจมีพฤติกรรมเข้าข่ายฟอกเงิน เพราะนอกจากนำเงินที่โกงไปซื้อบ้าน-รถยนต์ และ เล่นพนันบอลแล้ว ยังเอาไปทุ่มซื้อลอตเตอรี่งวดละหลายสิบล้านบาท จนเป็นที่รู้จักดีในหมู่พ่อค้าแม่ค้าลอตเตอรี่หน้ากองสลาก เผยเคยซื้อมากสุดถึง 32 ล้านบาท และถูกรางวัลได้เงินกลับมา 38 ล้านบาท แต่เล่นไปเล่นมาเสียเงินไปกับการพนันทั้งบอล-หวย รวมแล้ว เกินร้อยล้าน ธอส.เร่งตรวจสอบเงินที่ยักยอกไป สงสัยอาจมากกว่า 400 ล้าน
จากกรณีธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือธอส. ประสานงานตำรวจกองปราบปรามจับกุมตัวนายสมเกียรติ ปัญญาวรคุณเดช อายุ 33 ปี ผู้ช่วยผู้จัดการธอส. สาขาเซนต์ หลุยส์ 3 ที่ได้ยักยอกเงินจากบัญชีดอกเบี้ยของธนาคารไปเป็นมูลค่ารวมประมาณ 400 ล้านบาทนั้น ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 พ.ค. ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป. สั่งการให้ พ.ต.ท. พงษ์ไสว แช่มลำเจียก พงส.(สบ 3) กลุ่มงานสอบสวนกองปราบปราม นำตัวนายสมเกียรติ ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์นายจ้างไปผัดฟ้องฝากขังครั้งแรกที่ศาลอาญา ถนนรัชดา ภิเษก
โดยพนักงานสอบสวนยื่นคำร้องต่อศาล ขอฝากขังผู้ต้องหาต่อไปอีกเป็นเวลา 12 วัน คือตั้งแต่วันที่ 2-13 พ.ค. พร้อมกันนี้ยังยื่นคำร้องขอคัดค้านการประกันตัวด้วย เนื่อง จากเป็นคดีที่มูลค่าความเสียหายสูง จึงเกรงว่าผู้ต้องหาอาจหลบหนี ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุ ญาตให้ฝากขังได้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวนายสมเกียรติขึ้นรถไปควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯต่อไป
สำหรับการสอบสวนขยายผลการดำเนินคดีนั้น นายสมเกียรติให้การรับสารภาพว่า ได้ขโมยเงินจากบัญชีดอกเบี้ย ซึ่งเป็นเงินกองกลางของธนาคารที่เตรียมไว้สำหรับจ่ายดอกเบี้ยให้กับลูกค้าทั่วประเทศ มาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2550 โดยจะทำแทบทุกเดือน เดือนละหลายครั้ง โดยขณะนี้ทาง ธอส. กำลังรวบรวมข้อมูลอยู่ ว่านายสมเกียรติกระ ทำผิดทั้งหมดมาแล้วกี่ครั้ง และมีมูลค่าความเสียหายมากกว่าที่ตรวจสอบพบหรือไม่ เมื่อพบแล้วจะนำมามอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป
พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป. กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่าขโมยเงินจากบัญชีดอกเบี้ยของธนา คารมา 300 กว่าล้านบาท แต่ทางตำรวจยัง ไม่ปักใจเชื่อ นอกจากนี้ ยังทราบอีกด้วยว่าเงินที่ผู้ต้องหาได้มานั้น นอกจากจะนำไปใช้หนี้พนันบอลแล้ว ผู้ต้องหายังขโมยเงินออกมาอีกเรื่อยๆ เนื่องจากเห็นว่าไม่มีใครจับได้ ทั้งนี้ นอกจากจะมีพฤติกรรมติดพนันบอลแล้ว ผู้ต้องหายังชอบเสี่ยงโชคด้วยการเล่นหวยอีกด้วย โดยยอมรับว่ามักไปตระเวนซื้อลอตเตอรี่บริเวณแหล่งค้าหน้าสำนักงานสลาก กินแบ่งรัฐบาลงวดละหลายสิบล้านบาท จนเป็นที่รู้จักกันดีของพ่อค้าแม่ค้าลอตเตอรี่ในย่านนั้นในเรื่องของความกระเป๋าหนัก ทราบว่าครั้งหนึ่งผู้ต้องหาเคยไปกว้านซื้อลอตเตอ รี่รวมเป็นเงินถึง 32 ล้านบาท และถูกรางวัลได้เงินมา 38 ล้านบาท ก็เหมือนกับเป็นการฟอกเงิน คือมีเงินรายได้จากการถูกรางวัลสลากกินแบ่งฯ แต่เล่นไปเล่นมานายสมเกียรติยอมรับว่าเสียเงินไปกับการพนันทั้งสองอย่างรวมแล้วเกินร้อยล้านบาท
พ.ต.อ.พรศักดิ์กล่าวต่อว่า สำหรับการตรวจสอบทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้ต้องหาที่เชื่อว่าน่าจะได้มาจากการกระทำผิดนั้น นอกจาก เงินสดที่พบจำนวนกว่า 13 ล้านบาทแล้ว ยังมีรถยนต์หรู 2 คัน มูลค่า 10 ล้านบาท บ้านมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท นาฬิการาคาแพงอีกหลายเรือนแล้ว ยังทราบว่าผู้ต้องหานำเงินจำนวน 145 ล้านบาท ไปซื้อกองทุนของธนาคารแห่งหนึ่งเก็บเอาไว้อีกด้วย ส่วนบัญชีธนาคารอื่นๆ ของผู้ต้องหานั้น ทางธนาคารอาคารสงเคราะห์จะประสานไปยังธนาคารต่างๆ เพื่อให้อายัดบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบอีกครั้ง