หนุ่มจีน ผู้รอดชีวิต เล่าวินาทีเรือล่มที่ภูเก็ต ลูกเรือไม่แจ้งเตือนอะไรเลย

หนุ่มจีน ผู้รอดชีวิต เล่าวินาทีเรือล่มที่ภูเก็ต ลูกเรือไม่แจ้งเตือนอะไรเลย

หนุ่มจีน ผู้รอดชีวิต เล่าวินาทีเรือล่มที่ภูเก็ต ลูกเรือไม่แจ้งเตือนอะไรเลย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีเรือล่มที่กลางทะเลอันดามัน จ.ภูเก็ต เมื่อเย็นวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 3 เหตุการณ์ ได้แก่ เรือท่องเที่ยวฟีนิกซ์ มีผู้ประสบเหตุจำนวน 105 คน เรือท่องเที่ยวเซเรนาต้า มีผู้ประสบเหตุจำนวน 42 คน และเจ็ตสกีของนักท่องเที่ยว มีผู้ประสบเหตุ 2 คน

จนกระทั่งเจ้าหน้าที่มีการระดมกำลังค้นหา จนสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเรือเซเรนาต้าและเจ็ตสกีได้ทุกคน ขณะที่ผู้ประสบภัยที่โดยสารเรือฟีนิกซ์บางส่วนเจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือได้แล้ว อีกส่วนหนึ่งยังคงสูญหายและมีรายงานผู้เสียชีวิต

>> เปิดภาพ "เรือฟีนิกซ์" จมดิ่งใต้ทะเลอันดามัน

นายหวงจวินซง หนึ่งในผู้ประสบภัยเรือล่มที่จังหวัดภูเก็ต เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะเรือเผชิญกับพายุฝนกลางทะเลว่า “ลูกเรือไม่ได้บอกให้ผู้โดยสารที่อยู่ในเคบินออกไปที่ดาดฟ้าเรือ จนกระทั่งเรือเริ่มเอียงไปเยอะแล้ว

กว่าพวกเขาจะบอกให้ออกไปเรือก็เอียงไปข้างหนึ่งแล้ว คนก็รีบวิ่งออกไปโดยไม่มีการควบคุมและวิ่งออกไปทางที่เรือเอียงต่ำ ทำให้เรือยิ่งเอียงมากกว่าเดิมและเริ่มมีน้ำไหลเข้ามา จากนั้นเรือก็จมลง น้ำก็ไหลเข้ามา ผู้โดยสารบางคนเข้าไปหลบในเคบิน”

ส่วนนายหวงนั้นเป็นหนึ่งผู้โดยสารที่อยู่ด้านนอกเคบิน เขาเล่าว่า พวกเขาปีนขึ้นไปบนจุดสูงสุดของเรือ บางคนก็เลือกกระโดดลงน้ำ และจังหวะนั้นเองลูกเรือก็เริ่มปล่อยเรือชูชีพ

“ตอนเราออกจากฝั่งอากาศยังดีอยู่ แต่ตอนขากลับเราเจอกับคลื่นลูกใหญ่จำนวนมาก พวกเขารู้ว่าอากาศไม่ดี แต่ทำไมยังจะออกจากฝั่ง” นายหวงกล่าว

ด้าน นายหลินหงเจิ้ง ผู้รอดชีวิตอีกหนึ่งราย ระบุว่า “ตอนเราออกจากฝั่ง เมฆครึ้มก็อยู่ข้างหลังเราแล้ว” เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า “มีเมฆครึ้มตอนขากลับใช่ไหม?” นายหลินตอบว่า “มีเมฆครึ้มมาตั้งแต่ตอนเราขึ้นเรือแล้ว เราก็ได้แต่ทำตามที่พวกเขาว่า

หลังจากนั้นก็นั่งเรือกันไปประมาณ 1 ชั่วโมง ผู้โดยสารในเคบินต่างกลัวคลื่นที่ซัดสูง เพราะคลื่นพวกนั้นสูงเท่าตึกได้ ตอนผมขึ้นไปที่ชั้น 2 ของเรือ บนชั้น 2 ก็เต็มไปด้วยน้ำแล้ว ส่วนชั้น 1 มีหน้าต่างกระจกปิดอยู่จึงไม่มีน้ำเข้าไป”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนั้นรู้สึกอย่างไร นายหลินตอบว่า “ไร้ที่พึ่งครับ เวลาอยู่กลางทะเลเราไม่มีทางทำอะไรได้เลย”

นายหลินระบุว่าเมื่อไกด์บอกให้ทุกคนสวมเสื้อชูชีพ ก็เริ่มมีผู้โดยสารร้องไห้ ตะโกน ส่วนเขาปีนออกจากเคบินขึ้นไปบนชั้น 2 ได้หลังจากเรือเริ่มจมแล้ว และเขาก็หาใครไม่เจอเลย ทุกอย่างก็โกลาหลมาก

นายหลินจำไม่ได้ว่าเขาลอยคออยู่กลางทะเลนานเพียงได้ จำได้แต่เพียงรู้สึกว่านานมาก และหนาวมาก เพราะลมในทะเลหนาวเย็น และฝนก็ตกจนเขาตัวสั่นไปหมด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook