สหรัฐฯ เริ่มจำกัดวีซ่า "ลาว-เมียนมา" ส่วน "ไทย" จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง

สหรัฐฯ เริ่มจำกัดวีซ่า "ลาว-เมียนมา" ส่วน "ไทย" จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง

สหรัฐฯ เริ่มจำกัดวีซ่า "ลาว-เมียนมา" ส่วน "ไทย" จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มใช้มาตรการจำกัดการออกวีซ่าให้กับพลเมืองลาวและเมียนมา ซึ่งเป็นสองประเทศที่อยู่ในรายชื่อ “ประเทศผู้ดื้อรั้น” ไม่ยอมรับผู้ลี้ภัยที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายมายังสหรัฐฯ กลับสู่ประเทศตัวเอง

กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิของสหรัฐฯ หรือ Department of Homeland Security (DHS) มีคำแถลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า “เมียนมาและลาวได้ปฏิเสธหรือจงใจชะลอการรับพลเมืองของพวกเขากลับประเทศโดยไม่มีเหตุผลเพียงพอ”

และในวันเดียวกันนั้น กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้มีคำสั่งให้สถานกงสุลในสองประเทศดังกล่าว เริ่มจำกัดการออกวีซ่าบางประเภทให้กับพลเมืองชาวเมียนมาและชาวลาวแล้วเช่นกัน โดยมีข้อกำหนดดังนี้

เมียนมา: ระงับการออกวีซ่าประเภท B1 สำหรับทำงานในสหรัฐฯ และ B2 สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในสหรัฐฯ สำหรับเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ระดับอธิบดีขึ้นไปของกระทรวงแรงงาน กระทรวงคนเข้าเมืองและประชากร และกระทรวงกิจการภายในประเทศของเมียนมา ตลอดจนวีซ่าที่ออกให้กับสมาชิกครอบครัวของเจ้าหน้าที่เหล่านั้น

ลาว: ระงับการออกวีซ่าประเภท B1, B2 และ B1/B2 สำหรับเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ระดับอธิบดีขึ้นไปของกระทรวงความมั่นคงประชาชนของลาว ตลอดจนวีซ่าที่ออกให้กับสมาชิกครอบครัวของเจ้าหน้าที่เหล่านั้น รวมทั้งวีซ่าประเภท A3 และ G5 ที่ให้กับนักการทูตและลูกจ้างขององค์กรระหว่างประเทศของลาวด้วย

ทางกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิของสหรัฐฯ ระบุด้วยว่า หากไม่มีการตอบสนองที่เหมาะสมจากรัฐบาลลาวและเมียนมา มาตรการนี้อาจขยายผลรวมไปถึงประชาชนลาวและเมียนมาด้วย โดยจะมีผลบังคับใช้จนกว่าทางกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิของสหรัฐฯ พิจารณาแล้วว่าทั้งสองประเทศนี้ให้ความร่วมมือกับทางการสหรัฐฯ ในระดับที่ยอมรับได้

ทั้งลาวและเมียนมา ต่างอยู่ในรายชื่อของประเทศที่รัฐบาลสหรัฐฯ จัดว่าเป็น “ประเทศผู้ดื้อรั้น” ที่ไม่ยอมรับผู้ลี้ภัยที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายมายังสหรัฐฯ กลับสู่ประเทศตนเอง ซึ่งมีทั้งหมด 9 ประเทศ ตามการจัดทำรายชื่อล่าสุดของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

ในจำนวนนี้ 4 ประเทศ ได้แก่ คิวบา เอริเทรีย อิหร่าน และจีน ถูกระบุในรายชื่อที่ว่านี้มาตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ส่วนอีก 5 ประเทศที่ถูกเพิ่มเข้ามาในสมัยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คือ กัมพูชา ฮ่องกง ลาว เมียนมา และ เวียดนาม

นอกจาก 9 ประเทศในรายชื่อประเทศผู้ดื้อรั้นดังกล่าวแล้ว สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ ยังได้ระบุรายชื่อประเทศที่มีความเสี่ยงที่จะไม่ให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯ ในการรับตัวคนเข้าเมืองผิดกฎหมายกลับประเทศ ทั้งหมด 47 ประเทศ ซึ่งหนึ่งในมีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย

ก่อนหน้านี้มีมากกว่า 10 ประเทศ ที่ยอมตกลงหลังการเจรจาเพื่อให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯ ในการรับตัวพลเมืองของตัวเองกลับประเทศ และเรื่องนี้จะเป็นผลให้รัฐบาลสหรัฐฯ สามารถส่งตัวบุคคลต่างๆ ราวหนึ่งแสนคน กลับประเทศถิ่นฐานเดิมของตนได้

อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับข้อตกลงที่สหรัฐฯ ทำขึ้นกับประเทศต่างๆ เพื่อให้ประเทศเหล่านี้ยอมรับการส่งตัวกลับบุคคลที่ทางการสหรัฐฯ ไม่ต้องการ หรือไม่พึงประสงค์ให้อยู่ในประเทศอีกต่อไป

โดยปกติแล้ว บุคคลใดก็ตามที่อยู่ในสหรัฐฯ อาจไม่เป็นที่ต้องการและอยู่ในข่ายถูกเนรเทศ หรือถูกส่งตัวกลับประเทศเดิมของตนได้ หากบุคคลนั้นเป็นพลเมืองของต่างประเทศซึ่งละเมิดเงื่อนไขของวีซ่าเข้าสหรัฐฯ เป็นบุคคลที่ไม่มีเอกสารเข้าประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หรือถูกศาลสหรัฐฯตัดสินว่ามีความผิดในอาชญากรรม

โดยหากบุคคลนั้นถูกตัดสินในคดีอาชญากรรม กระบวนการส่งตัวกลับประเทศ หรือ deportation นี้ มักจะเกิดขึ้นหลังจากที่รับโทษในคุกของสหรัฐฯ แล้ว

แต่ถ้าบุคคลดังกล่าวถูกควบคุมตัวไว้จากการฝ่าฝืนกฎระเบียบเรื่องการเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ก็อาจควบคุมตัวไว้ได้ 180 วัน เพื่อดำเนินกระบวนการส่งตัวกลับประเทศเหล่านี้ต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook