แล้งก็ต้องสู้! ชาวบ้านรวบรวมเงินกันซื้อน้ำมันสูบน้ำเข้านา หวังต่อชีวิตต้นข้าว

แล้งก็ต้องสู้! ชาวบ้านรวบรวมเงินกันซื้อน้ำมันสูบน้ำเข้านา หวังต่อชีวิตต้นข้าว

แล้งก็ต้องสู้! ชาวบ้านรวบรวมเงินกันซื้อน้ำมันสูบน้ำเข้านา หวังต่อชีวิตต้นข้าว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แล้งขยายวงกว้างหนัก ฝนทิ้งช่วงร่วม 2 เดือน ชาวบ้านช่วยตัวเองด้วยการรวบรวมเงินกันคนละ 100 บาท ซื้อน้ำมันสูบน้ำเข้านา เพื่อต่อชีวิตต้นข้าวที่กำลังแห้งเฉาตาย

วันนี้ (11 ก.ค. 61) ผู้สื่อข่าวได้ออกสำรวจภัยแล้งในพื้นที่อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ หลังพบว่าชาวนาในพื้นที่ จ.สุรินทร์ กำลังประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง ทำให้ต้นกล้าข้าวที่กำลังเติบโตต้องขาดน้ำ เริ่มเหี่ยวเฉา และบางพื้นที่ต้นกล้าข้าว ยืนต้นตายเพิ่มมากขึ้น

ซึ่งในเขตพื้นที่อำเภอสำโรงทาบเป็นอีกพื้นที่ที่กำลังประสบกับปัญหาภัยแล้งคุกคาม ไม่มีน้ำเข้านา จนทำให้ต้นกล้าข้าวที่หว่านเอาไว้ เกิดแห้งเหี่ยวเฉาตายเช่นเดียวกับพื้นที่อื่นๆ

โดยเฉพาะชาวนาในพื้นที่ ต.เกาะแก้ว อ.สำโรงทาบ ที่กำลังนำเครื่องสูบน้ำคูโบต้า ทำการสูบน้ำจากอ่างเก็บน้ำบ้านเกาะแก้วเข้านาระยะทางเกือบ 2,000 เมตร หลังฝนทิ้งช่วงยาวนานร่วม 2 เดือนแล้ว และไม่มีวี่แววว่าจะตกลงมา

ชาวนาจึงช่วยตัวเองด้วยการพากันรวบรวมเงินคนละ 100 ถึง 200 บาท ไปซื้อน้ำมันและนำเครื่องสูบน้ำลงมาสูบที่อ่างเก็บน้ำบ้านเกาะแก้ว จนทำให้ในทุ่งนามีน้ำไหลเข้านา เพื่อยืดอายุต้นกล้าข้าวต่อไป ตลอดจนได้มีการปักดำทดแทนกล้าข้าวที่ตายไปก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้ออกตะเวนไปในเขตพื้นที่อำเภอศีขรภูมิ อำเภอสำโรงทาบ อำเภอสนม และอำเภอศรีณรงค์ พบต้นกล้าส่วนใหญ่เริ่มแห้งเหี่ยว เตรียมที่จะเฉาตายเป็นจำนวนมาก หาก 1-2 สัปดาห์นี้ฝนยังคงไม่ตกลงมา ชาวบ้านในพื้นที่ต่างก็พยายามที่จะใช้เครื่องสูบน้ำไปสูบน้ำจากแหล่งที่พอจะมีน้ำขัง แต่ไม่สามารถสูบได้ เพราะน้ำไม่เพียงพอ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook