"แอมป์ พีรวัศ" ตอบดราม่า ถูกมองเป็นพ่อแม่หวงลูก ห้ามถูกตัว "น้องเทรย์"
ควงแขนกันออกงานพร้อมหน้าครอบครัวเป็นครั้งแรก สำหรับ แอมป์-พีรวัศ กุลนันท์วัฒน์ และภรรยาสาวนอกวงการ เบลล์ ชวัลพัชร์ รวมถึง น้องเทรย์ ลูกชายอารมณ์ดี วัย 5 เดือน ที่พากันมาแชร์ประสบการณ์การเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ในงาน "Pigeon breastfeeding consultation room" ณ โรงพยาบาลวิภาวดี
พร้อมกันนั้น แอมป์ พีรวัศ และภรรยา ยังได้ถือโอกาสนี้เคลียร์ประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้น หลังมีข่าวว่าทั้งคู่เป็นคุณพ่อคุณแม่ที่หวงลูกมาก ถึงขนาดห้ามคนอื่นถูกเนื้อต้องตัว ซึ่งเรื่องนี้หนุ่มแอมป์ก็ได้ชี้แจงรายละเอียดกับเราว่า
>> ภรรยา “แอมป์ พีรวัศ” ขอเป็นแม่ที่ไม่น่ารัก บอกเหตุผลที่ไม่อยากให้ใครจับลูก
แอมป์ - "เราอยากให้จับทุกท่านนะ แต่ด้วยความที่ตอนนี้ลูกผมเขาจะชอบดูดมือตลอดเวลา ดังนั้นเวลาที่คนจะเข้ามาจับ สิ่งแรกที่เขาจับมันไม่ใช่หน้า แต่เป็นมือ ซึ่งถ้าเขาจับแล้วน้องไม่ได้ล้างมือ น้องเขาก็จะดูดมือทันที ผมกับภรรยาก็เลยกังวลว่าอาจจะให้น้องติดเชื้อโรค ซึ่งจริงๆ แล้วเราไม่ได้หวงเลย"
เบลล์ - "เราแค่ห่วงเรื่องความสะอาดนิดหน่อย และมีช่วงหนึ่งด้วยที่น้องเป็นหวัดเพราะเขาเอามือเข้าปากบ่อย เราก็เลยอาจจะต้องระวังนิดหนึ่งเพราะเขายังเล็กมาก"
แอมป์ - "คืออย่างที่บอกเราไม่ได้หวงลูกนะครับ เราแค่เป็นห่วงเรื่องความสะอาดก็เท่านั้นเอง ถ้าหากเขาโตขึ้นกว่านี้อีกสักนิดจะเล่นยังไงก็เต็มที่เลย (ยิ้ม)"
ขณะเดียวกันสำหรับกรณีที่เจ้าตัวเคยโพสต์ข้อความระบายลงบนอินสตาแกรม เกี่ยวกับลูกบ้านร่วมคอนโดที่เปิดหน้าต่างสูบบุหรี่ และทำให้ควันลอยมาถึงในห้อง จนส่งผลถึงสุขภาพของลูกนั้น แอมป์ พีรวัศ ได้อัปเดตว่า
>> "แอมป์ พีรวัศ" สุดทน พึ่งใครไม่ได้ เพื่อนบ้านที่คอนโดสูบบุหรี่กลิ่นตลบ ห่วงลูกอ่อนเป็นอันตราย
แอมป์ - "ผมเคยเป็นคนสูบบุหรี่นะครับ และผมก็เลิกเพราะว่าผมมีลูก แต่การที่คนจะสูบข้างห้อง เอาจริงๆ ผมเองก็ไม่ว่าอะไรเลยนะ แค่เผอิญว่าเขาเปิดหน้าต่างและสูบ จนควันกับกลิ่นมันลอยเข้ามาในห้องเรา ซึ่งที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 3-4 เดือน ผมพูดแล้วขอแล้วตลอด จนกระทั่งล่าสุดผมตัดสินใจจะแจ้งตำรวจ และปรากฏว่าพอคุยไปคุยมาคนดูแลเขาก็ช่วยส่งจดหมายเตือนให้ ตอนนี้ก็ดีขึ้นครับไม่มีอะไรมากมาย"
แอมป์ - "จริงๆ เราอยู่ร่วมกันตึกเดียวกันมันก็น่าจะช่วยกันหน่อย ซึ่งถ้าผมไม่มีลูกนะ ผมจะไม่ว่าอะไรเลยจริงๆ แต่อันนี้ต้องขอร้องเลยครับ เพราะกลิ่นมันวิ่งมาตามลมตามช่องได้ แต่ก็อย่างที่บอกตอนนี้ทุกอย่างจบลงด้วยดี เจอกันก็ยิ้มแย้มแจ่มใส"
แอมป์ - "อีกอย่างผมไม่ได้คิดจะหาห้องใหม่ด้วยเพราะตั้งใจจะให้เขาเรียนโรงเรียนแถวๆ คอนโด เวลาไปไหนมาไหนเขาจะได้สะดวกสบายเรื่องการเดินทาง แต่ถามว่าอยากอยู่บ้านไหม อยากครับ แค่ต้องรอเวลาสักหน่อยหนึ่งขอหาเงินก่อน (หัวเราะ)"
นอกจากนั้นหนุ่มแอมป์ก็ยังเผยต่ออีกว่า ตอนนี้เจ้าตัวได้ตัดสินใจขายรถบิ๊กไบค์คันโปรดของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเหตุผลที่ทำแบบนี้ก็เพราะเป็นห่วงอนาคตของลูกเรื่องการขับขี่รถที่มีความเร็ว
แอมป์ - "เหตุผลที่ผมขายเพราะผมอยากอยู่กับลูกนานๆ ซึ่งจริงๆ ก่อนหน้านี้คุณพ่อผมก็เคยห้ามผมนะว่าห้ามขับบิ๊กไบค์ แต่ตอนนั้นผมไม่เข้าใจ และตอนนี้ผมเข้าใจแล้วครับว่าหัวใจของผมคือลูก ดังนั้นสิ่งไหนที่ผมไม่อยากให้ลูกทำ ผมจะไม่ทำให้เขาเห็น ถึงแม้การขับบิ๊กไบค์จะเป็นความฝันของผม แต่ความฝันนั้นมันก็สามารถทิ้งได้ เพราะว่าผมมีความฝันใหม่ที่สำคัญกว่า"
แอมป์ - "ถามว่าผมกลัวเรื่องอะไรที่สุด ผมกลัวเรื่องอันตรายเป็นหลักครับ ง่ายๆ เลยถ้าเกิดเขาเห็นผมขับจนชิน เขาก็อาจจะคิดได้ว่าโตขึ้นเขาจะอยากขับให้ได้แบบผม ถึงแม้ผมจะขับแบบระมัดระวังก็จริง แต่ถ้าเป็นลูกขับเราก็เป็นห่วงเขาเนอะ ไม่อยากสูญเสียเขา ดังนั้นยอมขายฝันตัวเองดีกว่า"
เบลล์ - "ดีใจนะคะที่เขาเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างเพื่อลูก แต่เรื่องบิ๊กไบค์ตอนแรกก็บอกเขาว่าอย่าขายเลยเพราะมันสวย และด้วยความตั้งใจของเขาเนอะ สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจขายเอง"
แอมป์ - "รถบิ๊กไบค์ถึงมีไว้แล้วช่วยให้ดูเท่ก็จริง แต่ถ้าจอดไว้เฉยๆ โดยที่ไม่ได้สตาร์ท ทุกครั้งที่คิดจะสตาร์ทเราต้องซ่อมครับ มันก็เลยยิ่งทำให้รู้สึกว่าเป็นของฟุ่มเฟือย ดังนั้นขายไปเลยดีกว่าจะได้จบ หากอยากได้ใหม่ค่อยซื้อเอา อีกอย่างตอนนนี้เพื่อนๆ ในกลุ่มก็เริ่มทยอยมีครอบครัวกันหมดแล้ว หันมาขับรถครอบครัวดีกว่า ปลอดภัยที่สุดเซฟชีวิตตัวเอง"
>> "น้องเทรย์" ลูกชาย "แอมป์ พีรวัศ" จัดเต็มความฮา อายุครบ 1 เดือนแล้ว
อัลบั้มภาพ 18 ภาพ