สูบเท่าไหร่ก็ไม่แห้ง "น้ำใต้พิภพถ้ำหลวง" เล็งพลิกวิกฤตเป็นประโยชน์

(13 ก.ค.) แม้ว่าปฎิบัติช่วยเหลือเยาวชน 13 ชีวิตทีมหมูป่า อะคาเดมี แม่สาย ซึ่งติดภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้สำเร็จลุล่วงแล้ว แต่ทางกรมวนอุทยาน สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยังไม่อนุญาตให้บุุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปยังบริเวณหน้าถ้ำและที่ทำการวนอุทยานในระยะนี้ พร้อมทั้งมีการกั้นและดูแลเส้นทางเข้าออกอย่าเข้มงวด เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการขนย้ายเครื่องจักรและอุปกรณ์ออกจากบริเวณถ้ำ ซึ่งพบว่ายังคงมีการขนย้ายตลอดทั้งวัน

โดยนาย พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ ผู้บังคับการมณฑลทหารบกที่ 37 เปิดเผยว่าภารกิจของส่วนเจ้าหน้าที่ทหารได้หมดแล้วหลังจากที่ช่วยเหลือทีมหมูป่าออกมาทั้ง 13 คน และได้เริ่มถอนกำลังจากศูนย์อำนวยการ่วมออกมาและส่งมอบต่อให้กับทางผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการขั้นพื้นฟู ซึ่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากรกระทรวงมหาดไทย กำลังเล็งเห็นความสำคัญของน้ำใต้พิภพที่อยู่ในขุนเขานางนอน ซึ่งเป็นจุดที่ตั้งของถ้ำหลวง ที่ระหว่างภารกิจช่วยเหลือทีมหมูป่า เคยมีการสูบน้ำออกจำนวนมหาศาลแต่น้ำก็ไม่แห้ง

พล.ต.บัญชา กล่าวว่าน้ำดังกล่าวไม่จำเป็นที่ต้องสร้างเขื่อนหรือทำอะไรสำหรับกั้นน้ำ เพียงแค่นำน้ำทั้งหมดที่มีอยู่ในถ้ำหรือใต้ถ้ำปล่อยเข้าสู่ระบบชลประทาน ซึ่งทางนายกรัฐมนตรีกำลังมีบัญชาการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานกับตน เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับการเอาน้ำใต้พิภพออกมาจากถ้ำ เพื่อจะนำวิกฤตดังกล่าวเปลี่ยนมาเป็นโอกาสในการที่จะช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้องประชาชนในพื้นที่อ.แม่สาย และ อ.แม่จัน ซึ่งอยู่บริเวณข้างเคียงให้เกิดประโยชน์ต่อไป