ตุ๋น 300 ล้าน! รวบแก๊งชวนเหยื่อขายทุเรียนส่งออก พบเงินสะพัดในบัญชีมหาศาล
( 13 ก.ค. 61 ) ที่สำนักงานตำรวจภูธร ภาค 2 จังหวัดชลบุรี พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้ร่วมแถลงข่าวการจับกุม นางนภัสสร อายุ 47 ปี และ น.ส.สุนทรี อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งได้มีการขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดชลบุรีแล้ว นอกจากนี้ยังมีผู้ที่หลบหนีไปอีก 2 คนคือ น.ส.ชนัดดา อายุ 36 ปี และ นายลักษณ์ อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน
สำหรับเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อประมาณเดือนกันยายน 2560 น.ส.ชนัดดา และ นายลักษณ์ สามีภรรยา , นางนภัสสร แม่ของ น.ส.ชนัดดา และ น.ส.สุนทรี ได้ร่วมกันหลอกลวงประชาชนประมาณ 30 คน โดยชักชวนร่วมลงทุนขายทุเรียนอบแห้งชนิดบรรจุถุง เพื่อส่งออกไปขายต่างประเทศและในประเทศ
โดยมีคนหลงเชื่อและเข้าร่วมลงทุนเป็นเงินสดรวมแล้วประมาณ 273,917,400 บาท (สองร้อยเจ็ดสิบสามล้านเก้าแสนหนึ่งหมื่นเจ็ดพันสี่ร้อยบาทถ้วน) โดยมีการโอนเงินผ่านบัญชีไปที่ผู้ต้องหาหลายครั้ง หลายเวลา
หลังจากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาให้ทำทีโอนเงินคืนให้ในลักษณะเป็นเงินกำไร เงินปันผลที่ได้นำเงินมาร่วมลงทุนในระยะแรกๆ ซึ่งกิจการขายทุเรียนอบแห้งชนิดบรรจุถุงไม่ได้มีการดำเนินการผลิตแต่อย่างใด ซึ่งเป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งตำรวจจะได้ติดตามผู้ต้องหาที่หลบหนีมาดำเนินคดีต่อไป
โดยก่อนหน้านี้ นายรุ่งรัตน์ พร้อมด้วยเพื่อนร่วมโรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ชลบุรี หลายคนได้รวมตัวกันเข้าแจ้งความที่ สถานีตำรวจภูธรเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ว่า ถูก น.ส.ชนัดดา ชักชวนให้ร่วมลงทุนเกี่ยวกับการส่งผลไม้อบแห้งไปจำหน่ายในต่างประเทศ อาทิ เกาหลี ญี่ปุ่น รวมทั้งประเทศในแถบยุโรป และในประเทศไทย
โดยให้ผลตอบแทนกับผู้ลงทุนร้อยละ 10 ต่อเดือน บางคนได้รับผลตอบแทนเป็นเปอร์เซ็นต์จากการขายเป็นถุง นอกจากนี้ยังได้มีการสร้างกลุ่มไลน์ เฟซบุ๊ก ชักชวนชาวบ้านให้ร่วมลงทุนอีกหลายกลุ่ม คาดว่าจะมีผู้หลงเชื่อและร่วมลงทุนจำนวนมาก ช่วงแรกได้ผลตอบแทนดีมากต่อมาช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2561 น.ส.ชนัดดาได้หลบหนีไป ตำรวจจึงเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อมูลกลุ่มบุคคลดังกล่าวพบว่าเป็นการหลอกลวง และสามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้จำนวนหนึ่ง