อภิสิทธิ์ เตรียมประชุมสุดยอดอาเซียน-เกาหลีที่เกาะเจจู
อภิสิทธิ์ เตรียมประชุมสุดยอดอาเซียน-เกาหลี ที่เกาะเจจู 1-2 มิ.ย.นี้ กระชับสัมพันธ์สองประเทศ พร้อมบินต่อฮ่องกง 15 พ.ค.หารือนักธุรกิจชั้นนำกระตุ้นลงทุนในไทย กษิต เผย บัวแก้วประสานตำรวจสากลตามตัว ทักษิณ ดำเนินคดีแล้ว เชื่ออังกฤษ-ยุโรป ไม่ออกวีซ่าให้ แม้ว ช่วยจำกัดการเดินทาง "ประวิตร"เครียดถกหน่วยงานความมั่นคงรับมือม็อบป่วนอาเซียน
เมื่อเวลา 17.20 น.6 พ.ค. นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า หลังจากการประชุมปลัดกระทรวงการต่างประเทศอาเซียน ระหว่างวันที่ 6-8 พ.ค.นี้ ที่ประเทศอินโดนีเซีย จะมีความชัดเจนว่าผู้นำประเทศใด จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาบ้าง ซึ่งในครั้งนี้รัฐบาลไทยยืนยันในการรักษาความปลอดภัยดีที่สุด
นอกจากนี้ในโอกาสครบรอบ 20 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-เกาหลีใต้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเดินทางเยือนสาธารณรัฐเกาหลี ในวันที่ 1-2 มิถุนายน และจะเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-เกาหลีใต้ ที่เกาะเจจู ส่วนการดำเนินงานเพื่อขยายการค้าการลงทุนนั้น นายกรัฐมนตรีจะเดินทางเยือนเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ในวันที่ 15 พ.ค.นี้ โดยนายกรัฐมนตรีจะกล่าวสุนทรพจน์ในระหว่างการพบปะนักธุรกิจฮ่องกงทั่วไป และมีกำหนดการพบปะกับผู้บริหารเกาะฮ่องกง พร้อมทั้งจะพบปะชุมชนคนไทยในฮ่องกง นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์จะนัดพบหารือกันเป็นการภายในกับนักธุรกิจชั้นนำของฮ่องกง 15 คน ที่มีอำนาจในการตัดสินใจลงทุนธุรกิจในไทยด้วย
ส่วนกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังเดินทางอยู่แถบประเทศตะวันออกกลาง และเคลื่อนไหวโจมตีการเมืองภายในของไทยนั้น นายกษิต กล่าวว่า สิ่งที่ย้ำบอกกับประเทศต่างๆ ว่ามีความห่วงกังวลกับการดำเนินการใดๆ ทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเราจะไม่ยินยอมให้บุคคลใดใช้ประเทศไทยเป็นแหล่งเคลื่อนไหวทางการเมือง และหวังว่าประเทศอื่นก็คงไม่ยินยอมให้ พ.ต.ท.ทักษิณทำเช่นเดียวกัน อย่าง 2-3 วันที่ผ่านมา ก็มีชาวพม่าจำนวนหนึ่งจะจัดเวทีสัมมนาในประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลก็ไม่ยินยอมให้งานดังกล่าวเกิดขึ้น
ส่วนการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงเดินทางเข้าออกในประเทศแถบตะวันออกกลาง นายกษิต กล่าวว่า ในแง่การดำเนินคดีอาชญากรรม ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานไปยังตำรวจสากลให้ติดตามในเรื่องนี้ ผู้สื่อถามว่า กระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการอย่างไรในการจำกัดพื้นที่การเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ นายกษิต กล่าวว่า การที่ไม่มีหนังสือเดินทางไทยและมีบางประเทศเช่น อังกฤษ ไม่ออกวีซ่าไม่อนุญาตให้เข้าประเทศก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะจำกัดการเดินทาง และยังคิดว่าหลายประเทศในสหภาพยุโรปก็ปฏิบัติในแนวทางนี้เช่นกัน
"ประวิตร"เครียดถกหน่วยงานความมั่นคงรับมือม็อบป่วนอาเซียน
แหล่งข่าวจากกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ตามคำสั่งของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ 120/52 ให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2552 โดยมีพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานคณะกรรมการ ผบ.เหล่าทัพ เสนาธิการแต่ละเหล่าทัพ ส่วนราชการฝ่ายความมั่นคง เช่น กระทรวงยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กระทรวงต่างประเทศ กระทรงมหาดไทย เป็นกรรมการรวม 29นาย และมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก ในฐานะเลขานุการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เป็นกรรมการ และเลขานุการ
แหล่งข่าวยังเปิดเผยอีกว่า พล.อ.ประวิตร ในฐานะประธานกรรมการจึงได้เรียกคณะกรรมการเข้าร่วมประชุมเป็นครั้งแรกในวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้หน่วยงานแต่ละส่วนมารับทราบรายละเอียด และนำไปจัดทำแผนรักษาความ ปลอดภัยในการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ซึ่งคาดว่า อีก 7 - 8 วันน่าจะจัดทำแผนเสร็จเรียบร้อย และจะมีการแถลงถึงแผนรักษาความปลอดภัย ทั้งนี้ในที่ประชุมได้หยิบยกถึงปัญหาข้อขัดข้องเกี่ยวกับการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ผ่านว่า เกิดปัญหาขึ้นได้อย่างไร และจะมีแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างไร โดยที่ประชุมใช้เวลาในการหารือร่วม 3 ชั่วโมง
แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า ภายหลังจากที่คณะฝ่ายความมั่นคงประกอบด้วย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ประวิตร พล.อ. อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการเหล่าทัพได้เดินทางไปหารือ และลงตรวจในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งในการลงตรวจพื้นที่ครั้งนั้นได้มีการหารือถึงมาตรการในการรักษาความปลอดภัย โดยจะห้ามไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใกล้บริเวณสถานที่ในการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในรัศมี 5 กิโลเมตรโดยรอบ
ทั้งนี้หน่วยงานความมั่นคงต้องการให้มีการประกาศบังคับใช้กฎหมายเพิ่มเติม และพิจารณาให้มีการประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคงในจ.ภูเก็ตทั้งจังหวัด นอกจากนี้จะมีการประเมินสถานการณ์ หากมีแนวโน้มว่าจะมีพื้นที่อื่นในจังหวัดอื่นใกล้เคียงที่เกิดความสุ่มเสี่ยงว่าจะเกิดความรุนแรง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาดูแลควบคุมสถานการณ์ และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายเหมือนการประชุมสุดยอดอาเซียนที่ จ.ชลบุรี โดยเบื้องต้นจะมีการเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อให้มีการพิจารณาต่อไป