กทม.ได้ฤกษ์ลุยจับช้างเร่ร่อน พบที่ห้วยขวาง 3 เชือก
ตั้งเป้าเห็นผลใน 1 สัปดาห์ ลุยห้วยขวางที่แรกพบ 3 เชือก เล็งเพิ่มงบค่าอาหารช้างจากทส.และมูลนิธิเกี่ยวกับช้าง พร้อมเพิ่มเงินเดือนใหควาญช้าง เฉลี่ยเดือนละ 2 หมื่นบาท
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม. ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปแนวทางและวางแผนการดำเนินการแก้ไขปัญหาช้างเร่ร่อน-ขอทานในเขตพื้นที่กทม.ตามโครงการ ช้างยิ้ม ที่ได้เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า นอกเหนือจากการรอให้รัฐบาลและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ดำเนินการแก้ไขข้อกฎหมายตลอดจนการหาทางแก้ไขปัญหาในระดับชาติแล้ว ในส่วนของกทม.ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหาควบคู่กันไป โดยจะเริ่มสำรวจจำนวนช้างเร่ร่อน-ขอทานทั่วพื้นที่กทม.ทั้ง 50 เขตตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยใช้กำลังจากเจ้าหน้าที่เทศกิจเป็นหลัก สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่สารวัตรกรมปศุสัตว์ ก.เกษตรฯ ร่วมดำเนินการอย่างเข้มข้นและจริงจังเข้าถึงตัวผู้กระทำผิดและแหล่งที่ใช้เป็นสถานที่พักอาศัยกบดาน โดยตั้งเป้าภายใน 1 สัปดาห์เริ่มเห็นผล
นายธีระชน กล่าวว่า สำหรับการดำเนินการสำรวจช้างเร่ร่อน กทม.จะใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักตามประกาศกรุงเทพมหานคร ปีพ.ศ.2546 สมัย นายสมัคร สุนทรเวช เป็นผู้ว่าฯกทม. ซึ่งจะมีการออกหนังสือประชาสัมพันธ์ประกาศแจ้งเตือนผู้ที่นำช้างมาเดินเร่ร่อนให้นำช้างออกจากพื้นที่เขตกทม.ทันทีตั้งแต่มีการประกาศ จากนั้นหากพบผู้ใดฝ่าฝืนจะดำเนินการจับกุมทันทีในข้อหากระทำผิดต่อ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ ตลอดจนพ.ร.บ.อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมออกคำสั่งกักตัวช้างให้อยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงาน ณ สถานที่ที่ได้จัดเตรียมไว้ระหว่างส่งสำนวนฟ้องและรอคำพิพากษาจากศาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. นายธีระชน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เทศกิจ และเจ้าหน้าที่จากกรมปศุสัตว์ ตรวจแหล่งพักช้างย่านถนนพระราม 9 เขตห้วยขวาง โดยกล่าวว่า จากการลงพื้นที่เพื่อสำรวจการนำช้างมาเร่ร่อนในพื้นที่เขตห้วยขวาง เจ้าหน้าที่ตรวจพบช้างจำนวน 3 เชือก โดยเจ้าหน้าที่จากกรมปศุสัตว์ ได้ทำการแต้มสีแดงที่ใบหูช้างและทำการจดทะเบียนรูปพรรณช้างไว้แล้ว ซึ่งจากการที่ได้พูดคุยกับควาญช้าง พบว่าแนวทางของกทม.ที่จะจ้างควาญช้างเดือนละ 8,000 บาท ไม่ให้นำช้างมาเร่ร่อนในเมืองนั้นไม่เพียงพอ เนื่องจากควาญช้างให้ข้อมูลว่าเฉพาะค่าอาหารช้างก็ตก 10,000 บาทต่อเดือน ดังนั้น กทม. จะเพิ่มเติมงบประมาณในเรื่องค่าอาหารช้าง โดยอาจจะของบจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และมูลนิธิที่เกี่ยวกับช้าง ให้จัดแสดงคอนเสิร์ต ใช้จ่ายเป็นค่าอาหารช้าง ซึ่งตนคาดว่าการจะเพิ่มเงินเดือนและจ้างให้ควาญช้างกับไปอยู่ที่บ้านได้นั้น จะต้องใช้เงิน 20,000 บาทต่อเดือน
