ลุงตู่ช่วยด้วย! ชาวบ้านโนนป่ายางเดือดร้อนหนัก เหตุไม่มีที่ทำกิน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 กรกฎาคม 2561 ที่วัดบ้านโนนแย้ ตำบลหญ้าปล้อง อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ชาวบ้านจาก 2 ตำบล 5 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านโนนแย้, บ้านโนนหล่อ, บ้านโนนสำนัก, ชุมชนโนนสำราญ และชุมชนกุดหวาย จำนวนกว่า 2,000 คน
นำโดยนางทองคำ อายุ 74 ปี ในนามคณะกรรมการศูนย์ประสานงานที่ทำกินที่อยู่อาศัย “พื้นที่โนนป่ายาง” ได้มาชุมนุมประชาคมเพื่อรับฟังข้อคิดเห็นของประชาชนผู้เดือดร้อนในเรื่องที่ดินทำกินที่อยู่อาศัย และติดตามความคืบหน้ากรณีที่ได้เคยเรียกร้องให้ทางการเข้ามาแก้ไขในปัญหาเดือดร้อนของประชาชน
นางทองคำ กล่าวว่า ที่ดินสาธารณประโยชน์โนนป่ายาง เดิมเป็นที่ทำเลเลี้ยงสัตว์ตำบลหญ้าปล้อง มีพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ไม่ชัดเจน ชาวบ้านได้เข้ามาอยู่ก่อนปี พ.ศ. 2462 ถึง 2464
ก่อนที่จะมีการสร้างทางรถไฟสายนครราชสีมา-อุบลราชธานี มีหลักฐานพิสูจน์ได้คือหลักฐานการเวนคืนที่ดินที่จะสร้างทางรถไฟ ที่สาธารณประโยชน์โนนป่ายาง หรือที่ทำเลเลี้ยงสัตว์ตำบลหญ้าปล้องขึ้นทะเบียนไว้เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2468 ซึ่งเป็นการขึ้นทะเบียนหลังจากที่ชาวบ้านเข้ามาอยู่อาศัย
นางทองคำกล่าวต่อไปว่า ปี พ.ศ. 2497 ราษฎรแจ้งครอบครองที่ดิน และ ได้เอกสาร สค.1 เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2498 ต่อมา ราษฎรขอออกโฉนดในที่ สค. 1 ไม่สามารถออกได้
ราษฎรจึงร้องเรียนไปทางจังหวัดศรีสะเกษเพื่อขอให้ช่วยเหลือในเรื่องนี้ แต่เรื่องก็เงียบไม่ได้รับการช่วยเหลือ ต่อมา พ. ศ. 2532 ได้มีพระราชบัญญัติปฏิรูปที่ดินเข้ามาแก้ไขปัญหา โดยถอนสภาพที่ดินโนนป่ายางทั้ง 4,125 ไร่
แต่เจ้าหน้าที่รัฐไม่แจ้งให้ราษฎรได้รับทราบ จากนั้นปีพ.ศ 2538 คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินรัฐ (กปร.) จังหวัดศรีสะเกษสั่งให้ กปร.อำเภอ ไปจัดทำเขตที่ดินโนนป่ายางอีกครั้ง เพื่อจะกันไว้เป็นที่สาธารณะรอบที่ 2
ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ทำโดยพลการ ไปกั้นที่ดินของราษฎรโดยไม่แจ้งให้เจ้าของทราบล่วงหน้า ไม่มีการทำประชาคม และดำเนินการในเนื้อที่ 1,531 ไร่ 2 งาน 4 ตารางวา
จึงเกิดการร้องเรียนของราษฎรขึ้นอีกในปีพ.ศ. 2539 มีการประชุมคณะกรรมการ สภาตำบลหญ้าปล้องและสภาตำบลหนองไผ่ ให้ราษฎรลงชื่อลงมติรับแผนที่แนวเขตที่สาธารณประโยชน์ รอบ 2 ดังกล่าว
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจะออกนสล.แล้วให้ราษฎรเช่า จึงเกิดการคัดค้านของราษฎรในพื้นที่ เพราะเห็นว่าราษฎรทั้งหมดอาศัยอยู่ในที่ดินของตัวเองมาตลอดจึงไม่ต้องการให้มีการเก็บค่าเช่า
นางทองคำกล่าวอีกว่า ล่าสุดพวกเราได้ประชุมประชาคมกันไปเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2561 และเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2561 ก็ได้ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ขอให้เข้ามาแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ แต่เรื่องก็ยังเงียบไม่มีอะไรคืบหน้า
การประชุมในวันนี้ เพื่อติดตามเรื่องการทำงานของทางราชการ พวกเราต้องการให้ทางหน่วยงานราชการที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบขอบเขตที่ดินพื้นที่โนนป่ายางให้ถูกต้องโปร่งใส ชัดเจนและเป็นธรรม
โดยได้ทำหนังสือเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ, นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ, เจ้าหน้าที่ทหาร, ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดและปฏิรูปที่ดินจังหวัด แต่ไม่มีใครมาแม้แต่คนเดียว
ตอนนี้ทางราชการจะให้ชาวบ้านพิสูจน์สิทธิ์ ก็คือจะต้องมีเอกสารทางราชการในการครอบครองที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยก่อนปี 2468 ซึ่งไม่มีราษฎรคนไหนมีเอกสารเลย พวกเราชาวบ้านจึงไม่ยอมในการพิสูจน์สิทธิ์เพราะจะทำให้เสียสิทธิ์ในที่ดินที่ได้ทำกินและอยู่อาศัย
"ขอเรียนเชิญท่านนายกลุงตู่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงมาพิสูจน์พื้นที่นี้ด้วยตัวท่านเอง ตั้งแต่ 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอนเชียงราย ยังระดมคนจากทั่วโลกมาช่วย
แต่พวกเราชาวบ้านกว่าสองหมื่นคนติดอยู่ในพื้นที่โนนป่ายางทำไมไม่มีคนมาช่วย ขอวอนให้ท่านนายกลุงตู่มาช่วยเหลือดูแลพวกเราสองหมื่นคนด้วย เด็ก 13 คนติดในถ้ำยังช่วย นี่สองหมื่นคนขอให้ช่วยด้วย 13 คนช่วยได้ สองหมื่นคนไม่ช่วย ขออย่า 2 มาตรฐาน" นางทองคำกล่าว