คปภ.ภูเก็ตเผย จ่ายเบี้ยประกันให้ญาติผู้เสียชีวิตแล้ว 28 คน ย้ำรีบยื่นเอกสารภายใน 24 ก.ค.นี้

เมื่อวานนี้ (14 ก.ค. 61) ที่ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยภัยเรือล่มจังหวัดภูเก็ต ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ได้จัดให้มีการแถลงข่าวความคืบหน้าเหตุเรือล่มจังหวัดภูเก็ต

นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตกล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกในการจัดตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่มจังหวัดภูเก็ต ณ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจะเป็นศูนย์หลักในการกระจายข้อมูลข่าวสารและเป็นศูนย์ถาวรในการบริหารงาน

ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการค้นหาส่วนหน้าจะอยู่ที่ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ตัวเลขของผู้ประสบภัยในวันนี้ยังคงจำนวนเท่าเดิมคือมีผู้เสียชีวิตจำนวน 46 คน ยืนยันตัวตนและเรียบร้อยแล้ว 46 คน ญาตินำศพกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาจำนวน 7 คน

ด้านการจัดการศพ ในวันนี้จะมีการฌาปนกิจครบจำนวน 39 ศพ ซึ่งกระบวนการการจัดการศพนั้นได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่จัดการอย่างครบถ้วนทุกกระบวนการจนถึงกระทั่งการเก็บกระดูก

พลเรือโท สมนึก เปรมปราโมทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวถึงความคืบหน้าในการกู้ร่างของนักท่องเที่ยวที่ติดอยู่ใต้ท้องเรือฟีนิกซ์ว่า ยังคงมีความร่วมมือกันเป็นอย่างดีระหว่างนักประดาน้ำของทัพเรือและทีมของจีน

โดยยังคงมีการค้นหาร่วมกันอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องยอมรับว่าแม้สภาพทั่วไปท้องฟ้าโปร่ง แต่บริเวณจุดเรือจมซึ่งเป็นร่องน้ำช่องเดินเรือทำให้มีกระแสน้ำและลมแรงมาก และเป็นอุปสรรคต่อการทำงานค่อนข้างมาก แต่เราก็จะยังดำเนินการในกู้ร่างขึ้นมาให้ได้โดยเร็วภายใน 1-2 วันนี้

ในส่วนของมาตรการควบคุมการเดินเรือท่องเที่ยวตามอำนาจของ ศรชล.เขต 3 ซึ่งมีหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง 6 หน่วยงานหลัก บูรณาการการทำงานร่วมกัน และจากการประชุมหารือร่วมกันได้ข้อสรุปว่า

จะบูรณาการเจ้าหน้าที่จากทัพเรือภาคที่ 3 เจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ตและ ตำรวจน้ำ จัดกำลังเพิ่มเติมบริเวณท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยว เพื่ออำนวยความสะดวกก่อนที่นักท่องเที่ยวจะขึ้นเรือและเรือจะออกจากฝั่ง

เบื้องต้นเริ่มต้นที่เรือขนาดตั้งแต่ 60 ตันกรอสขึ้นไป โดยเริ่มดำเนินการใน 4 ท่าเรือหลัก ได้แก่ท่าเรืออ่าวฉลอง ท่าเรือรัษฎา ท่าเรืออ่าวปอแกรนด์มารีน่า และท่าเรือวิศิษฐ์พันวา

ซึ่งแม้ว่าปกติจะมีเจ้าหน้าที่ของเจ้าท่าฯ รับผิดชอบตรวจสอบความพร้อมของเรืออยู่แล้ว แต่ทางเราจะเป็นกำลังไปเสริม เพื่อควบคุมจัดระเบียบเรือท่องเที่ยวอย่างเข้มงวด

โดยตรวจสอบในเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลงเรือแต่ละลำ เรือนำนักท่องเที่ยวไปบริเวณใด ความพร้อมของกัปตันเรือ สภาพเรือ อุปกรณ์ช่วยชีวิตในเรือหากเกิดเหตุไม่คาดคิด ผู้ดูแลนักท่องเที่ยว

และได้เน้นย้ำในส่วนของผู้ดูแลนักท่องเที่ยวที่จะไปดำน้ำจะต้องเป็นไปตามที่กฎหมาย หากไม่เป็นไปตามกฎหมายกำหนดจะไม่มีการปล่อยเรือออกจากท่าโดยเด็ดขาด ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด

ด้านนายสมพงษ์ ปิ่นภักดี ผู้อำนวยการคปภ.จังหวัดภูเก็ตกล่าวว่า จากจำนวนผู้เสียชีวิต 47 คน ขณะนี้มีญาติของผู้เสียชีวิตมาติดต่อขอรับสินไหมทดแทนแล้วจำนวน 36 คน รับเบี้ยประกันแล้ว 28 คน 8 คนอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบเอกสาร อีก11 คนยังไม่ยื่นเอกสารและเอกสารยังไม่ครบ

ซึ่งได้ประสานกับสำนักงานกงสุลจีนประจำจังหวัดสงขลาให้ย้ำกับญาติผู้ประสบภัยนำเอกสาร และยื่นภายในวันที่ 23 -24 กรกฎาคม 2561 โดยจะมีเจ้าหน้าที่อยู่ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตตลอด 24 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม ทางคปภ.จังหวัดภูเก็ตยังคงเร่งรัดให้บริษัทประกันเร่งจ่ายสินไหมทดแทนให้กับผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน