สาวรถคว่ำตกหน้าผาไม่มีใครรู้ ดื่มน้ำจากหม้อน้ำรถยนต์ประทังชีวิตเป็นสัปดาห์

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หญิงสาวคนหนึ่งถูกพบว่ายังมีชีวิตอยู่และได้รับบาดเจ็บ หลังจากเธอประสบอุบัติเหตุรถขับรถตกหน้าผ้าริมทะเล โดยที่ไม่มีใครเห็นและช่วยเหลือเป็นเวลาสัปดาห์เต็มๆ รอดตายได้เพราะการดื่มน้ำในหม้อน้ำรถยนต์ประทังชีวิต

แองเจลา วัย 23 ปี ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยท้องถิ่น เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 ก.ค.) หลังจากที่นักปีนเขาได้แจ้งว่าพบซากรถจี๊ปตกอยู่พื้นด้านล่างของหน้าผา เขตบิ๊กเซอร์ ทางตอนใต้ของนครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย และยังพบว่ามีคนรอดชีวิต ติดอยู่ที่ด้านล่าง ไม่สามารถขึ้นมาเองได้

เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานขอเฮลิคอปเตอร์จากโรงพยาบาลใกล้เคียง บินมาช่วยเหลือและรับตัวหญิงสาวคนดังกล่าวไปรักษา เบื้องต้นพบว่าสาวจากรัฐออริกอนรายนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเฉพาะที่กระดูกหัวไหล่ และยังพบภาวะขาดสารอาหาร แม้ว่าเธอจะยังคงมีสติในขณะที่ทำการช่วยเหลือ

ตามรายงานระบุว่า แองเจลาได้รับรถจิ๊ปมาจากเมืองพอร์ทเแลนด์ เพื่อไปยังนครลอสแองเจลิส ระหว่างที่เธอขับรถไปตามถนนทางหลวงหมายเลข 1 เลียบชายฝั่งแปซิฟิก ได้เฉี่ยวชนกับสัตว์บางชนิด ทำให้รถเสียหลักและพลิกคว่ำตกลงจากหน้าผาสูง 60 เมตร

เบื้องต้นพบว่า หญิงสาวหมดสติไปข้ามวันหลังจากเกิดเหตุ เธอพยายามหนทางส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ แต่ด้านล่างผานั้นดูสิ้นหวังไปทุกอย่าง เธอดื่มน้ำจากหม้อน้ำรถยนต์เพื่อประทังชีวิต นับว่าเคราะห์ดีที่เธอยังรอดชีวิต และไม่ถูกคลื่นแรงจากมหาสมุทรซัดไป

ทั้งนี้ ทางครอบครัวของแองเจลา ได้แจ้งว่าเธอหายตัวไปและติดต่อไม่ได้หลายวัน เบาะแสสุดท้ายที่มีคือวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา ระหว่างเธอเติมน้ำมันที่ปั๊มแห่งหนึ่งในเมืองคาร์เมล ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไปราวๆ 80 กิโลเมตร กระทั่งมาพบว่าเธอรอดชีวิตอยู่ที่ด้านล่างของหน้าผา