จากงานบุญเป็นงานโศก "นาค" นั่งเก้าอี้ท้ายกระบะแห่ไปบวช รถเบรกร่วงหัวฟาดดับอนาถ

จากงานบุญเป็นงานโศก "นาค" นั่งเก้าอี้ท้ายกระบะแห่ไปบวช รถเบรกร่วงหัวฟาดดับอนาถ

จากงานบุญเป็นงานโศก "นาค" นั่งเก้าอี้ท้ายกระบะแห่ไปบวช รถเบรกร่วงหัวฟาดดับอนาถ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นาควัย 45 ปี นั่งท้ายกระบะรถแห่ไปบวชเป็นพระ ขบวนเกือบถึงวัด คนขับเหยียบเบรกกะทันหัน นาคร่วงจากเก้าอี้พลาสติกตกรถหัวฟาดพื้นเสียชีวิตคาที่ ชาวบ้านประหลาดใจตกจากรถสูงเพียงเมตรเศษ แต่สภาพศพเลือดนองเต็มพื้น

วันที่ 15 ก.ค. 61 พ.ต.ท.อนิรุทธิ์ ผดุงดี สารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านโพธิ์ดอนหวาย ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ว่ามีคนตกจากรถกระบะ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ในขบวนแห่นาค จึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ ร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นถนนกลางหมู่บ้าน บริเวณหน้าโรงเรียนโพธิ์ดอนหวาย ต.กระสัง อ.เมือง พบชาวบ้านกำลังมุงดูศพชาย ทราบชื่อ คือนายเศียร ใจสิงห์ อายุ 45 ปี ใส่ชุดนาค โกนหัว ใส่เสื้อแขนยาวสีขาว นุ่งโสร่ง สภาพนอนหงายกลางถนน มีเลือดไหลนองพื้นถนน เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

ใกล้กันพบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บธ - 7936 บุรีรัมย์ ภายในรถพบเก้าอี้พลาสติก สีแดงแบบมีพนักพิงหลัง จำนวน 1 ตัว ตั้งอยู่ท้ายกระบะที่มีเสื่อปูรองอยู่ด้วย

สอบถามญาติผู้ตาย ทราบว่า ผู้ตายมีกำหนดเข้าบวชอุปสมบทที่วัดหัวลิง ต.อิสาณ อ.เมือง ในวันนี้ โดยในช่วงเช้าญาติพี่น้องได้ทำการจัดขบวนแห่นาคออกจากบ้าน จะไปบวชที่วัดหัวลิง ห่างจากบ้านประมาณ 3 กม.

ระหว่างที่กำลังแห่นาคออกไปใกล้จะถึงวัดแล้ว จู่ๆ นาคก็ร่วงตกลงจากรถหัวฟาดพื้นถนน มีเลือดไหลนองพื้นเสียชีวิตทันที สร้างความเศร้าโศกให้ญาติพี่น้อง

จากการสอบถาม นายนรินทร์ อายุ 36 ปี คนขับรถกระบะบอกว่า เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีคนเดินตัดหน้ารถ จึงเบรกรถกะทันหันแต่ไม่แรง แต่ตอนออกตัวรถอาจจะออกแรงไป คาดว่านาคที่นั่งอยู่บนเก้าอี้พลาสติกท้ายกระบะ อาจจะตั้งหลักไม่ได้แล้วเกิดหงายหลังร่วงลงมาจากรถ ทำให้ศีรษะฟาดพื้นถนนเสียชีวิตดังกล่าว

ขณะที่ชาวบ้านต่างประหลาดใจว่าระดับความสูงที่นาคตกจากรถ ถ้านับจากขอบกระบะถึงพื้นถนน มีความสูงเพียง 120 ซม. โดยปกติแล้วไม่น่าจะถึงกับเสียชีวิต แต่กลับหัวฟาดพื้น มีเลือดไหลออกจากศีรษะเป็นจำนวนมาก โดยไม่มีโอกาสช่วยเหลือ ทั้งที่รถก็ขับอย่างช้าๆ

ทั้งนี้ ตำรวจจะนำตัวคนขับรถไปสอบสวนหารายละเอียดและสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง เบื้องต้นแจ้งข้อหาคนขับว่า “ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook