วิสาระดี หมิ่นศาลรธน.ยอมความไม่ได้

วิสาระดี หมิ่นศาลรธน.ยอมความไม่ได้

วิสาระดี หมิ่นศาลรธน.ยอมความไม่ได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รองเลขาธิการสำนักงานศาลรธน.เผยคดี วิสาระดี หมิ่นศาลรธน. ต้องรอให้ปิดสมัยประชุมสภาก่อน ลั่นคดีนี้ยอมความไม่ได้ ต้องเดินหน้าให้ถึงที่สุด ระบุต้องการทำให้เป็นบรรทัดฐานให้สังคมรู้ เตือนเสธ.แดง ดูแลเวปไซต์ตัวเองด้วย หลังพบข้อความหมิ่นเหม่ละเมิดศาล พร้อมเข้าพบ ผบ.ตร.หาทางสร้างความเชื่อมั่นหลังสถานการณ์วุ่นวาย ด้านเลขาฯประธานฯแย้มรู้ตัวผู้ก่อเหตุ ยิงที่ทำการศาล รธน.แล้ว ย้ำจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

(7พ.ค.) นายเชาวนะ ไตรมาศ รองเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับน.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ที่ได้ฟ้องร้องดำเนินคดีกรณีการอภิปรายพลาดพิงถึงผลการพิจารณาของ คณะตุลาการและสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้เกิดความเสียหาย ว่า กรณีน.ส.วิสาระดี มีสถานะเป็น ส.ส.ซึ่งระหว่างนี้อยู่ในสมัยประชุมสภา ได้รับการคุ้มครองอยู่ แต่หากหมดสมัยประชุมสภาก็จะมีการดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามน.ส.วิสารดี ก็ยังไม่เคยได้ติดต่อหรือประสานขอไก่เกลี่ย หรือยอมความแต่อย่างใด ซึ่งคดีดังกล่าวนี้จะเป็นคดีอาญา และเนื่องจากคดีนี้ทางสำนักงานเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษจึงไม่สามารถที่จะไกล่เกลี่ยขอยอมความได้

ด้านนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ เลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวเพิ่มเติมในกรณีเดียวกันว่า ทางสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจะต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด และเพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไปว่าการที่จะกล่าวพาดพิงถึงสถาบันศาลก็ต้องมีความระมัดระวัง หรือแม้กระทั่ง ในเว็ปไซต์เสธ.แดง ก็ได้มีการใช้คำพูดที่ไม่ดี ต่อศาลรัฐธรรมนูญ

"พล.ต.ขัตติยะ สวัดิผล ควรที่จะแก้ไข ซึ่งก็ได้โทรศัพท์มาผมแล้วบอกว่าจะแก้ไข พร้อมกับบอกว่า อาจจะมีพวกมือดีเข้ามาแฮ๊ก โพสต์ใส่ลงไป ผู้ที่ดูแลเว็ปไซต์นั้นๆจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งเราก็ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีแล้ว ก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ ส่วนจะมากน้อยเพียงใดก็ต้องแล้วแต่ แต่สิ่งที่ปรากฏข้อความในเว็ปไซด์เสธแดง เป็นสิ่งที่น่าคิด เช่น ที่ล่าสุดมีคำพูดหลายประโยคที่ไม่น่าเกิดขึ้น เช่น วันนี้ยิงศาล  พรุ่งนี้ยิงตุลาการ  ซึ่งศาลก็ถูกยิงตามที่โพสต์ลงในว็ปไซด์ แหมอะไรมันจะแม่นยำเหลือเกิน " นายพสิษฐ์ กล่าว

นายพสิษฐ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีต่อเวป็ไซต์เสธ.แดง ในข้อหาความผิดหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และดูหมิ่นศาล ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 236 , 238 และ198 สำหรับโทษจะถึงขนาดไหนก็ต้องแล้วแต่กระบวนการยุติธรรม แต่ในส่วนของพล.ต. ขัตติยะ นั้น อย่าลืมว่าศาลได้มีคำพิพากษามาแล้วให้รอลงอาญา 2 ปี หากมีการทำซ้ำจะเป็นอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ก็กำลังอยู่กับศาลยุติธรรมจะเห็นว่าอย่างไร และพล.ต.ขัตติยะเองรู้หรือไม่ว่า เว็ปไซด์ดังกล่าวนี้ได้มีข้อความหมิ่นทั้ง 3 ศาลเลย การที่เรามีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดี แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่า สิ่งที่เราต้องการคือการให้นำผู้กระทำผิดมาลงโทษ ซึ่งเราจะทำดำเนินการจนถึงที่สุดยอมความไม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโทษมาตรา 328 ระบุว่า ถ้าความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ หรือภาพหรือตัวอักษร ที่ทำให้ปรากฎไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ แผ่นเสียง หรือสิ่งบันทึกเสียง บันทึกภาพ หรือบันทึกอักษร กระทำโดยการกระจายเสียง กระจายภาพ หรือโดยกระทำโดยป่าวประกาศ ด้วยวิธีอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 2 แสนบาท มาตรา 326 ระบุ ผู้ใดใส่ความผู้อื่น ต่อบุคคลที่ 3 โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิด หมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา198 ระบุว่า ผู้ใดดูหมิ่นศาล หรือผู้พิพากษาในการพิจารณาหรือ พิพากษา คดีหรือกระทำการขัดขวางการพิจารณา หรือพิพากษาของศาล ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-7 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2พันบาทถึง 14 , 000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

รองเลขาฯศาลรธน.เข้าพบผบ.ตร.ขอความคืบหน้าศาลรนธ.ถูกยิงถล่ม

นายเชาวนะ กล่าวภายหลังการเข้าพบพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ว่า ตามที่เหตุการณ์ด้านต่างๆ เกิดขึ้นในห้วงเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีเหตุการณ์หลายเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อศาลรัฐธรรมนูญ ได้แก่การปาระเบิดบ้านพักตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ การยิงระเบิดใส่ที่ทำการศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงการดูหมิ่นศาลและการข่มขู่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าว ยังได้สร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับข้อมูลข่าวศาล ที่อาจก่อให้เกิดการความสับสน ซึ่งอาจเป็นเหตุต่อเนื่องที่ทำให้สังคมเกิดความหวั่นไหวและไม่มั่นใจว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะกระทบต่อการทำหน้าที่ในการดำรงความยุติธรรมของศาลรัฐธรรมนูญต่อไปในอนาคต หรือไม่ และจะกระทบต่อการทำหน้าที่รักษาหลักนิติธรรมของสังคมในการพิจารณาคดีความตามกรอบของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ

นายเชาวนะ กล่าวต่อว่า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและขวัญกำลังใจที่ดีแก่สังคมและประชาชนทั่วไป และเพื่อเป็นการคลี่คลายปัญหาความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจากข้อมูลข่าวศาลที่อาจทำให้เกิดความสับสน ทางสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้มอบหมายให้ตนได้เข้าพบและปรึกษาหารือกับพล.ต.อ.พัชรวาท เพื่อประมวลข้อเท็จจริง และแนวทางในการดำเนินการในเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญให้ประชาชนได้รับทราบ เพราะศาลรัฐธรรมนูญมีความมุ่งมั่นที่จะนำพาประเทศไปสู่ความสันติสุข ความดีงามตามกรอบของหลักนิติธรรม และสร้างความเจริญก้าวหน้าและเกียรติภูมิให้เกิดแก่ประเทศตามแนวทางของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขสืบไป

ขณะที่นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ เลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่าการเข้าพบ.ผบ.ตร.ก็ได้รับทราบความคืบหน้าเกี่ยวกับการสอบสวนคดี ว่าเบื้องต้นได้รู้ตัวบุคคลที่ดำเนินการก่อเหตุแล้วว่าจะเป็นกลุ่มใด ขอให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนดำเนินการตนไม่สามารถที่จะมาพูด ณ ที่นี้ได้ ขอให้มั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะปฏิบัติงานได้เป็นที่น่าพอใจ ซึ่งทางสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้คาดหวังว่า ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถที่จะหาตัวผู้กระทำผิดมาได้ และจะได้ทราบถึงเหตุผลว่าทำไปเพื่ออะไร มีการเกี่ยวโยงกับเรื่องอะไร เป็นการเมือง หรือมีความเกี่ยวโยงกับนาย สนธิ ลิ้มทองกุล หรือไม่ อย่างไร

เมื่อถามว่า การที่ต้องไปพบ.ผบ.ตร.จะเป็นการไปกดดันเจ้าหน้าที่หรือไม่ นายพสิษฐ์ กล่าวว่า ไม่ได้เป็นการกดดันเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด แต่เป็นการไปสอบถามความคืบหน้า ซึ่งขณะนี้ก็เป็นไปตามกระบวนการขั้นตอนที่น่าพอใจ ส่วนคนกลุ่มที่ยิงเป็นกลุ่มเดียวกับยิงนายสนธิหรือไม่ต้องไปถามผบ.ตร.เอง

เมื่อถามว่า ตอนนี้มีการข่มขู่ตุการศาลรัฐธรรมนูญบ้างหรือไม่ นายพสิษฐ์ กล่าวว่า ประเด็นดังกล่าวนี้ตนไม่ขอตอบ เพราะต้องหารือกับตุลาการก่อนว่าจะนำมาเปิดเผยได้หรือไม่ ซึ่งยืนยันว่าตุลาการฯ ทุกคนไม่มีความหวั่นไหว พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ให้คงไว้ซึ่งความยุติธรรมยิ่งกว่าเดิม

"ทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นคดีหมิ่นประมาทศาลรัฐธรรมนูญทำให้เกิดความเสื่อมเสีย หรือคดีที่สำนักงานศาลฯ ถูกเอ็ม 79 ยิงใส่ จะมีการดำเนินคดีให้ถึงที่สุดไม่สามารถที่จะยอมความได้เพราะคดีอาญา " นายพสิษฐ์ กล่าว และว่า อย่างไรก็ตามเราไม่ได้ขออะไรเพิ่มเติมในส่วนการดูแลคณะตุลาการ เพราะมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างเพียงพอและเป็นอย่างดีแล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook