นอภ.ประกาศงดเล่นน้ำ หลังชาวบ้านแหลมพบ "จระเข้" ลอยกลางแม่น้ำเพชรบุรี
นายอำเภอบ้านแหลม ประกาศเขตอันตรายห้ามเล่นน้ำ หลังชาวบ้านแหลมพบจระเข้ลอยกลางแม่น้ำเพชรบุรี
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 16 ก.ค. 61 นายศรีธรรม ราชแก้ว นายอำเภอบ้านแหลม นายประพันธ์ ลีปายะคุณ ประมงจังหวัดเพชรบุรี นายสุธีร์ ศรีเพชร หัวหน้าหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดเขื่อนแก่งกระจาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางตะบูน เจ้าหน้าที่ทหารร้อย รส.มทบ.15
เข้าตรวจสอบอุปกรณ์มาดักจับจระเข้ที่แม่น้ำเพชรบุรี ห่างจากท่าเทียบเรือ หมู่ 4 บ้านคุ้งตำหนัก ต.บางตะบูนออก ประมาณ 100 เมตร หลังได้รับแจ้งจากนายเทียนชัย ชัยชาญ ผู้ใหญ่บ้านว่ามีลูกบ้านพบจระเข้ว่ายลอยคออยู่ในแม่น้ำ
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้ลวดผูกมัดกับตะขอปลายแหลมขนาดใหญ่เกี่ยวด้วยโครงไก่จำนวน 6 โครง วางล่อเพื่อจับ เมื่อตรวจสอบพบว่าตะขอเบ็ดเกี่ยวโครงไก่หายไป 1 ตัว และมีร่องรอยโครงไก่ถูกกระชากหายไป 2 โครง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ประเมินจากลักษณะการกินเหยื่อ คาดว่ามีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงว่าจะเป็นจระเข้ เนื่องจากตัวเบ็ดมีขนาดใหญ่ ปลา และสัตว์ปกติไม่สามารถกินเหยื่อหมดได้ในครั้งเดียว
นายศรีธรรม ราชแก้ว นายอำเภอบ้านแหลม เปิดเผยว่า แม้จะยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าใช่จระเข้หรือไม่ แต่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ และเร่งค้นหาให้พบโดยเร็ว เนื่องจากแม่น้ำเพชรบุรีช่วงที่พบจระเข้อยู่ใกล้แหล่งชุมชน ชาวบ้านใช้น้ำในแม่น้ำ และมีเรือขนาดเล็กวิ่งสัญจรจำนวนมาก
ขณะนี้ได้สั่งการให้กำนันผู้ใหญ่บ้านจัดทีมค้นหาตรวจสอบในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำบางตะบูน พร้อมให้ทีมงานประมงร่วมค้นหา ขณะนี้ยังไม่พบตัวแต่ได้ประกาศแจ้งชาวบ้านที่พักอาศัย และนักท่องเที่ยวในพื้นที่เชื่อมต่อ พื้นที่ใกล้เคียง ให้งดลงเล่นน้ำ และใช้ประโยชน์จากแม่น้ำอย่างระมัดระวัง
ด้านนายประพันธ์ กล่าวว่า ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีมีฟาร์มเลี้ยงจระเข้จำนวน 3 แห่ง 1 แห่งอยู่ที่ อ.ชะอำ และอีก 2 แห่ง ที่ อ.บ้านลาด ซึ่งมีระยะทางห่างจากพื้นที่นี้มากจึงไม่น่าจะเป็นจระเข้ที่หลุดลอดออกมาจากฟาร์ม
อย่างไรก็ตามพื้นที่บริเวณนี้ตั้งอยู่ใกล้กับจังหวัดสมุทรสงคราม จึงได้ประสานไปทางสำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อตรวจสอบข้อมูลการเลี้ยงจระเข้ว่ามีการจดทะเบียนตั้งฟาร์มอยู่ในบริเวณใกล้เคียงหรือไม่ พร้อมทั้งสืบหาว่ามีการลักลอบเลี้ยงจระเข้ในพื้นที่ใกล้เคียงหรือไม่
ถึงแม้จระเข้จะเป็นสัตว์ที่อยู่ในบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองที่สามารถเพาะพันธุ์และอนุญาตให้เลี้ยงได้ แต่ก็ยังเป็นสัตว์ป่าคุมครอง ที่ผู้เลี้ยงต้องจดทะเบียนแจ้งกับกรมประมง หากฝ่าฝืนหรือลักลอบเลี้ยงจะมีความผิดตามกฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท