ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนประหารชีวิต "อดีตผู้ใหญ่บ้าน" คดีฆาตกรรม "น้องสโนว์ "
(17 ก.ค.) ที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ นายกฤษณ์ และ นางลำไย พ่อแม่ของ น.ส.ฤดีวัลย์ หรือ น้องสโนว์ พร้อมกับญาติ ได้เดินทางมายังศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อร่วมฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 4 คดีหมายเลขดำที่ อ. 2112/2559 และคดีหมายเลขแดงที่ อ.1381/2560 กรณีโจทก์ พนักงานอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ และ นางลำไย ฟ้อง นายกฤติเดช ระเวงวรรณ อดีตผู้ใหญ่บ้านสีถาน ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย โดยเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2560 ผ่านมา ศาลชั้นต้นจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ตัดสินประหารชีวิต นายกฤติเดช จำเลย และให้ชดใช้ค่าสินไหม จำนวน 2,390,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2558 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ แต่จำเลยได้ใช้สิทธิ์ในการยื่นอุทธรณ์ปฏิเสธ
>> ศาลชั้นต้นสั่งประหารชีวิต อดีตผู้ใหญ่บ้านฆ่าน้องสโนว์
โดยศาลได้เริ่มอ่านคำพิพากษาศาลชั้นอุทธรณ์ตั้งแต่เวลา 10.00 น. พนักงานอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ และ นายลำไย โจกท์ ร่วมที่ 1 ได้เข้าไปนั่งรอรับฟังการพิจารณาคดี แต่เนื่องจากคดีนี้ นายกฤติเดช ระเวงวรรณ จำเลย ถูกนำตัวฝากขังที่เรือนจำคลองไผ่ จึงไม่ได้นำตัวมาแต่ได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไปแล้ว โดยสาระสำคัญในส่วนจำเลย ซึ่งได้ยื่นอุทธรณ์มานั้น มีการนำสืบพยานแวดล้อมและประจักษ์พยาน รวมถึงการหาข้อโต้แย้งในส่วนหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยโดยสรุปว่าไม่สามารถรับฟังได้ แต่ในส่วนของโจทก์ ถึงแม้จะไม่มีประจักษ์พยานแน่ชัดแต่ปรากฏพยานแวดล้อมที่ให้การสอดคล้องกันร่วมถึงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะรอยแผลที่บริเวณนิ้วมือ ซึ่งเป็นฟันของมนุษย์และลูกอัณฑะ เป็นร่องรอยที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้ ที่ได้รับคำยืนยันจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางนิติวิทยาศาสตร์
ศาลอุทธรณ์จึงตัดสินยืนโทษประหารชีวิต นายกฤติเดช ระเวงวรรณ จำเลย และให้ชดใช้ค่าสินไหม ตามศาลชั้นต้น ซึ่งพอศาลอ่านคำตัดสินเสร็จทำให้เหล่าบรรดาพ่อแม่พี่สาวและญาติๆที่มารอฟัง ต่างรู้สึกดีใจที่ศาลยังคงตัดสินประหารชีวิตนายกฤติเดช ซึ่งแม่ของน้องสโนว์กล่าวขอบคุณความยุติธรรมของการตัดสิน พร้อมทั้งบอกน้องสโนว์ว่าลูกสาวแม่จะต้องไม่ตายฟรี คนทำไม่ดีกับน้องควรได้รับผลกรรมที่ก่อขึ้น พร้อมทั้งขอบคุณคนไทยทั่วประเทศที่คอยให้กำลังใจตั้งแต่วันเกิดเหตุ จนสามารถจับคนร้ายได้และศาลได้ตัดสินประหารชีวิตในที่สุด
ด้าน น.ส.ภัทรานิฐ อายุ 31 ปี พี่สาวน้องสโนว์ กล่าวว่า ขอบคุณทุกภาคส่วน และขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้กำลังใจครอบครัวพลประสิทธิ์และที่สำคัญขอบคุณกระบวนการยุติธรรมที่ทำให้ความยุติธรรมมีจริง ทำให้ผู้บริสุทธิ์ไม่ตายฟรี ฟ้ามีตา ใครทำอะไรผลกรรมก็จะได้รับแบบนั้น ทั้งนี้อยากบอกน้องสโนว์ว่าครอบครัวสู้เพื่อน้องมาตลอด และขณะนี้ก็ได้รับความเป็นธรรมแล้ว ไม่ต้องห่วงพี่จะดูแลพ่อกับแม่เอง
สำหรับคดีฆาตกรรม น.ส.ฤดีวัลย์ หรือ น้องสโนว์ อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนร่องคำ อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งถูกคนร้ายตามถีบรถจักรยานยนต์ล้ม ก่อนจะทุบตีทำร้าย และพยายามข่มขืน แต่เหยื่อฮึดสู้จนถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2558 ที่ริมถนนบ้านสีถาน-โนนเมือง ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งคดีนี้มีการจับกุมและส่งฟ้อง นายกฤติเดช ระเวงวรรณ ผู้ใหญ่บ้านสีถาน หมู่ที่ 15 ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ต่อศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ และผู้ต้องหาให้การปฏิเสธและต่อสู้คดีมาโดยตลอด กระทั่งศาลจังหวัดกาฬสินธุ์มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2560 ให้ประหารชีวิตนายกฤติเดช ระเวงวรรณ และวันนี้ 17 กรกฎาคม 2561 ศาลอุทธรณ์ได้ยืนตามศาลชั้นต้นคือตัดสินประหารชีวิต
>> เด็กสาวสู้โจรรอดข่มขืนแต่เจ็บสาหัส วอนบริจาคเลือดช่วย
>> เผยนาทีน้องสโนว์ถูกโจรฉุดหวังข่มขืน มีสติโทรหาพ่อแม่ให้ช่วย