“ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์” เผยข่าวดีให้ชื่นใจ ประเทศไทยมีลุ้นเป็นเจ้าภาพจัดเวทีประกวดมิสยูนิเวิร์ส

ไม่ค่อยได้ออกสื่อมาให้แฟนๆ ได้เห็นเท่าไหร่ สำหรับ ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก นางสาวไทย ปี พ.ศ. 2531 และยังได้ครองตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สปี 1988 อีกด้วย

ล่าสุดในงานมอบทุนการศึกษาให้แก่น้องๆ เยาวชน ในนามมูลนิธิ แองเจิลส์ วิงส์ ฟาวน์เดชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ มีก็โอกาสพาลูกสาว น้องโซฟี ไซมอน มาพบเจอสื่อมวลชน พร้อมเปิดใจถึงเรื่องเวทีกองประกวดมิสยูนิเวิร์ส ที่มีกระแสข่าวลือออกมาหนาหูว่า ในปีนี้ประเทศไทยมีลุ้นที่จะได้เป็นเจ้าภาพจัดเวทีต้อนรับนางงามทั่วทั้งโลก

>>"ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์" พาลูกสาว และ ลูกชาย กลับมาเที่ยวบ้านเกิด สุดอบอุ่น

“ขอบคุณน้องๆ สื่อมวลชนทุกคน ที่มาสนับสนุนโครงการ Angels Wing Foundation โครงการนี้เป็นโครงการที่อยู่ในหัวใจพี่ และดีใจทุกครั้งที่ได้มอบรางวัลการศึกษาในกับเด็กๆ รู้สึกปลื้มใจและประทับใจที่ได้ทำความฝันได้เป็นความจริง ขอบคุณสื่อมวลชนที่มาสนับสนุนในวันนี้ มาทำข่าว ทำให้น้องๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือได้รับข่าว ก็ขอบคุณที่ช่วยพี่ ทำประโยชน์ให้ประเทศไทย เราเป็นพี่น้องกัน เราต้องหาวิธีช่วยกัน ไม่ว่าจะช่วยอย่างไรเล็กหรือน้อย เราก็ต้องพยายาม เราถือว่าหน้าที่ที่จะช่วยกัน เป็นหน้าที่ของทุกๆ คนไม่ใช่หน้าที่พี่คนเดียว เพราะฉะนั้นอยากจะขอบคุณสื่อมวลชนและก็อยากเชิญชวนผู้ชมที่บ้าน เราต้องคอยดูแลกัน ชีวิตบางทีก็ลำบาก แต่ถ้าเราช่วยกัน ภูมิใจที่เราเป็นคนไทย ทุกอย่างจะดีขึ้นค่ะ”

มีการคัดเลือกน้องๆ ในการรับทุนการศึกษาอย่างไรบ้าง ?
“เรื่องการคัดเลือก ต้องไปที่คุณครู เพราะคุณครูจะรู้ความสามารถของเด็กมากกว่าพี่ เราก็เขียนจดหมายถึงที่โรงเรียนต่างๆ เพราะอยากให้เด็กทั่วประเทศมีโอกาสที่จะรับรางวัล ก็ให้ท่านผุสดี เป็นคนช่วยแนะนำโรงเรียนที่เด็กเขาต้องการความช่วยเหลือ เด็กที่เขาเก่งแต่ด้อยโอกาส พี่ก็ดูผลการเรียนของเด็ก เห็นเขาเรียนเก่งมาก เราก็ดีใจที่จะช่วยเขา เพราะรู้ว่าเขาจะช่วยสังคมมากมาย เขามีความสามารถ เขาน่าจะเรียนต่อ โครงการ Angels Wing Foundation ก็พยายามที่จะให้โอกาสเขา กะไว้ว่าจะมอบรางวัลเพิ่มขึ้นทุกปีค่ะ ปีนี้ก็แจก 30 ทุน เท่ากับ ครบรอบ 30 ปีที่ได้ตำแหน่งนางงามจักรวาลค่ะ ก็รู้สึกว่าแก่ขึ้น (หัวเราะ) แต่ก็ภูมิใจเหมือนเดิมค่ะ ทุกครั้งที่มาเมืองไทยก็มีโอกาสที่จะใกล้ชิดต้องๆ น้องๆ และได้มาทักทายสื่อมวลชน ก็รู้สึกว่าปลื้มใจ พูดกับลูกตลอดว่าเราโชคดีมาก ที่ได้เกิดเป็นคนไทยค่ะ”

อยากให้กำลังใจน้องๆ ที่ไม่ได้รับทุนอย่างไรบ้าง ?
“ก็ถ้าเขามีความสามารถ เขาต้องพยายามนะคะ เราถึงดีใจที่สื่อทำให้น้องๆ ได้รู้จักโครงการนี้ แล้วก็อยากเชิญชวนคนอื่นที่บางทีอยากช่วยแต่ไม่รู้จะช่วยยังไง อยากเป็นตัวอย่างว่าการช่วยเหลือไม่ยากเท่าไหร่ แต่เราต้องหาคนที่จะช่วยแนะนำและไปเก็บข้อมูลให้เรา แต่ก็หวังว่าพี่น้องที่อยู่ที่เมืองไทยจะทำง่ายกว่าเราได้ เพราะเราอยู่ที่อเมริกา ทุกคนมีโอกาสที่จะช่วยน้องเพราะทุนการศึกษาไม่แพงเท่าไหร่ แต่สำหรับน้องๆที่ขาดโอกาสอันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากกับเขา”

โครงการ Angels Wing Foundation ทำมากี่ปีแล้ว ?
“ทำมา 20 ปีแล้วค่ะ แต่ก่อน โครงการ Angels Wing Foundation ก็มีทุนของ พรทิพย์ ค่ะที่ทำมาตลอด ก็พยายามที่จะช่วยเหลือเด็กกำพร้า หลังจากแต่งงานก็คิดว่าอยากทำอะไรที่จะช่วยอนาคตของประเทศชาติ ก็ถือโอกาสที่จะให้ทุนเด็กเรียน เพราะอันนี้จะเป็นสิ่งที่จะช่วยสังคมเรามากที่สุด และง่ายที่สุด และเร็วที่สุดค่ะ”

ได้เห็นเด็กๆ ที่รับทุนจากเราไป โตขึ้นและประสบความสำเร็จ รู้สึกอย่างไรบ้าง ?
“น่ารักมาก ก็มีเด็กที่เขาเรียนจบแล้วเป็นครูแล้ว ปีที่แล้วได้ไปที่ภูเก็ต ก็ได้เชิญเขามาทานข้าวกลางวันกัน แล้วก็ได้ฟังข่าวว่าเขาได้เป็นครูแล้ว เหมือนที่เขาฝันไว้ ก็ภูมิใจและดีใจที่ทำสำเร็จค่ะ”

 ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ และลูกสาว น้องโซฟี ไซมอน

ล่าสุดเห็นโพสต์อินสตาแกรมให้กำลังใจน้องๆ ทีมหมูป่าอะคาเดมี ?
“ใช่ ก็สงสารเขามาก แต่ทั่วโลกก็ดีใจที่น้องเขาได้ออกมาปลอดภัย และปุ๋ยก็ภูมิใจที่เขาออกมาแล้วทำให้ทั่วโลกเห็นว่าการเป็นไทยคืออะไรจริงๆ เราเป็นคนอดทน เป็นคนเคารพ เป็นประเทศที่น่าเอ็นดู และภูมิใจมากค่ะ”

ถามถึงข่าวก่อนหน้านี้กับเหตุการณ์ไฟป่าไหม้บ้านที่แคลิฟอร์เนีย ?
“อ๋อ น่าสงสารมาก เข้าบ้านไม่ได้เกือบเดือนหนึ่ง แต่บ้านโอเค แค่สงสารชาวบ้านหลายคนที่ไม่มีบ้าน คิดว่าต้องใช้เวลาถึง 5 ปีถึงจะกลับมาเหมือนเดิม”

ที่บ้านเราเองได้รับผลกระทบหรือความเสียหายอะไรไหม ?
“ถ้าเทียบกับคนอื่น เราไม่มีอะไร ทุกอย่างโอเค บ้านเป็นเรื่องเล็กถ้าเราเทียบกับชาวบ้านคนอื่นค่ะ เราบ่นไม่ได้ (ยิ้ม)”

ถามถึงกระแสที่จะมีการจัดมิสยูนิเวิร์สที่ประเทศไทย เราพอทราบไหม ?
“ค่ะ พอดีปุ๋ยก็ถามเขา เพราะปุ๋ยก็รู้จักหัวหน้าที่อเมริกา เขาก็บอกว่าเขาอยากมา ตอนนี้ก็กำลังเตรียมรายละเอียด แค่เขาบอกเขาอยากมาค่ะ ส่วนโอกาสที่จะเป็นไปได้นั้น เขาบอกมีมาก เดี๋ยวจะไปตามเรื่องให้ (ยิ้ม)”

ใจเราก็อยากให้ไทยเป็นเจ้าภาพด้วยใช่ไหม ?
“ใช่ เขาก็อยากมา แต่ตอนนี้อยู่ที่ความพร้อมที่ทางทีมไทย ก็ต้องพยายามทำให้ทุกอย่างโอเค เขาบอกว่าถ้าเขามาเมืองไทยไม่ได้ เขาจะอยู่เวกัส แต่เวกัสเราเบื่อแล้ว เขาก็อยากมาที่ไทยค่ะ”

ส่วนตัวได้มีส่วนช่วยประสานงาน หรือเชียร์อะไรไหม ?
“เชียร์อยู่แล้วค่ะ เขาพูดแล้วว่าเขาอยากมาค่ะ”

ถ้าได้มาจัดที่ประเทศไทยจริง เวทีประกวดจะช่วยเผยแพร่ภาพลักษณ์ที่ดีของบ้านเรายังไงบ้าง ?
“อันนี้อยู่ที่ทีมงาน แต่เมืองไทยมีหลายอย่างที่น่าเอ็นดู ไม่ว่าจะเป็นวัด หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่เพื่อนทุกคนจะพูดเสมอว่าสิ่งที่เขาประทับใจมากที่ประเทศไทย ก็คือคนไทย 100 เปอร์เซ็นต์ เขาบอกคนไทยมีน้ำใจไม่เหมือนคนอื่น อันนี้ยิ่งทำให้พี่ปลื้มใจ”

อยากบอกเคล็ดลับอะไรกับคนที่จะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยในงานประกวดครั้งนี้ไหม ?
“โอ้ว มันอยู่ที่ความมั่นใจ ยิ่งตอนนี้ประกวดยากมาก เวลาตอบคำถามก็สำคัญพอสมควร ให้เขาอ่านหนังสือ ดูทีวี ให้รู้ข่าวทั่วโลกเป็นยังไง เขาต้องเน้นข่าวที่อเมริกา เพราะกรรมการส่วนใหญ่จะมาจากอเมริกา เราต้องรู้ว่าปีนี้เขาเน้นอะไรบ้าง อันนี้จะช่วยได้เยอะ และรู้จักข่าวเด่นที่ประเทศไทยด้วย เพราะเรามีโอกาสที่จะให้ทั่วโลกรู้จักเมืองไทยเพิ่มขึ้น ถ้าเขาภูมิใจในตัวเอง ถ้าเขาเน้นในสิ่งที่สำคัญของประเทศไทย รู้จักข่าวทั่วโลก อันนี้จะทำให้เขามั่นใจและมีความสตรอง ส่วนเรื่องคำถามไม่มีคำว่าผิดหรือถูก กรรมการแค่อยากรู้ว่าน้องคิดยังไงกับข่าว เพราะข่าวแต่ละเรื่องไม่มีข้อเดียวที่ถูก เราต้องรู้จักว่าเรามีความรู้สึกยังไงกับข่าวนั้น และมีความมั่นใจในตอนพูดด้วยค่ะ”