จับโจรแสบ-ลุยเดี่ยวซิ่งมอเตอร์ไซค์ชิงทรัพย์ทั่วเมือง วันเดียวโดนไป 5 ราย

วันที่ 17 ก.ค. 2561 ที่ห้องสืบสวนสถานีตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม พล.ต.ต.อภิศักดิ์ เดชะคำภู ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วย พ.ต.อ.พานทอง สุวรรณจูฑะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม พ.ต.อ.ชัยโรจน์ นาคราช ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม พ.ต.ท.สุนทร เพ็ญจันทร์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองมหาสารคาม และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม

ร่วมกันจับกุมนายกฤษณะ หรือมอส อายุ 23 ปี ภายหลังที่ผู้ต้องหาก่อเหตุชิงทรัพย์ในพื้นที่ สภ.เมืองมหาสารคาม เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมาวันเดียวถึง 5 ราย

พล.ต.ต.อภิศักดิ์ เดชะคำภู ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. คนร้ายได้ก่อเหตุชิงทรัพย์ที่บริเวณหน้าวัดธัญญาวาส ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม

ซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิดหน้ารถคันหนึ่งจับภาพคนร้ายขณะเกิดเหตุได้อย่างชัดเจน โดยคนร้ายสวมเสื้อแขนยาวสีเหลือง กางเกงยีนขายาว ทรัพย์สินที่ได้ไปเป็นเงินสดจำนวน 300 บาท และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง

ซึ่งก่อนหน้านั้นคนร้ายรายนี้ได้ก่อเหตุชิงทรัพย์อีก 4 จุด จุดที่ 1 หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง บริเวณถนนศรีสวัสดิ์ดำเนิน จุดที่ 2 หน้าร้านหนังสือ ใกล้แยกอนุบาลมหาสารคาม จุดที่ 3 หน้าตลาด ริมคลองสมถวิล จุดที่ 4 หน้าโชว์รูมอีซูซุ บ้านค้อ ได้ทรัพย์สินเป็นเงิน 20 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ก่อนจะมาก่อเหตุจุดที่ 5 หน้าวัดธัญญาวาส

จากการสอบถาม ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง โดยเล่าว่าก่อนหน้านี้มีอาชีพทำงานรับจ้างทั่วไป ได้เงินวันละ 300 บาท ภายหลังตกงานจึงไม่มีเงินใช้อยู่หลายวัน

จนวันที่ก่อเหตุก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปเรื่อยๆ ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่เมื่อมาเห็นคนเดินข้างถนนจึงตัดสินใจจะจี้เพื่อหวังได้เงินเพียงเล็กน้อยไปซื้อเหล้ามาดื่มแต่ 3 ครั้งแรกที่ลงมือไม่ได้เงินเพราะผู้เสียหายขัดขืน

จึงก่อเหตุต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 4 ได้เงิน 20 บาท ครั้งที่ 5 ได้เงินเพียง 300 บาทเท่านั้น ซึ่งเมื่อได้เงินจนพอใจแล้วจึงหยุด โดยเงินที่ได้ก็ไปซื้อเหล้ามาดื่มและซื้อยาบ้ามาเสพ

เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป