สนั่นกลางดึก! รถพ่วงบรรทุกหินชนเก๋งกลางสี่แยก อีกรายจยย.ชนท้ายเก๋ง ดับคาที่

วันที่ 17 ก.ค. 2561 เวลา 00.45 พ.ต.ท.ฉายยนต์ ชาวดอน รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.เมืองบึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งชนกับรถพ่วงบรรทุกหินที่บริเวณสี่แยกไฟแดง ถนน 212 บึงกาฬ-บ้านแพง มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ในรถเก๋ง จึงรีบออกไปตรวจสอบพร้อมด้วยชุดสายตรวจ และหน่วยกู้ภัยนทีธรรม

ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีแดง ทะเบียน กล 6593 อุดรธานี ถูกชนอัดขึ้นไปติดอยู่บนเกาะกลางถนน สภาพพังยับมีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ด้านในรถ จึงช่วยกันงัดประตูรถเอาคนเจ็บออกมาได้ ทราบชื่อว่านายลิขิต อายุ 43 ปี ได้รับบาดเจ็บตามลำตัวหลายแห่ง

ส่วนรถคู่กรณีเป็นรถพ่วงบรรทุกหินภูเขามาจาก จ.เลย ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 71-7014 สระบุรี ตัวลูกพ่วงทะเบียน 71-7 015 สระบุรี หลังจากเฉี่ยวชนกับรถเก๋งแล้วเสียหลักวิ่งข้ามเลนไปชนกันเสาไฟฟ้าของแขวงทางหลวงหักไป 1 ต้น

ก่อนที่รถบรรทุกหินหนักกว่า 80 ตันจะเสียหลักตกลงไปร่องน้ำข้างทาง ทำให้ส่วนหัวลากจมน้ำและตัวลูกพ่วงพลิกตะแคงอยู่ไหล่ถนน ส่วนคนขับรถพ่วงได้หลบหนีไปหลังเกิดเหตุ

สอบสวนนายลิขิต คนขับรถเก๋ง ให้การว่า ขณะขับรถจะกลับบ้านถึงสี่แยกไฟแดงกำลังจะเลี้ยวขวา เป็นจังหวะเดียวกันคนขับรถพ่วงบรรทุกหินมาจากหนองคาย ถึงสี่แยกเป็นสัญญาณไฟแดง

ตนเข้าใจว่าจะหยุดแต่กลับพุ่งตรงเข้ามาชนรถตนจนพังได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ไม่มาดูแลช่วยเหลือยังหลบหนีอีกต่างหาก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามตัวมาชดใช้ค่าเสียหายและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อีกรายในเวลาใกล้กัน พ.ต.ท.สุริยา แน่นอุผำ สว. (สอบสวน) สภ.บุ่งคล้า อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ รับแจ้งมีอุบัติเหตุเฉี่ยวชนแล้วหลบหนีบนถนนสาย 212 บึงกาฬ –บุ่งคล้า ตรงทางแยกหน้าโรงเรียนบุ่งคล้านคร มีผู้เสียชีวิต จึงเดินทางไปชันสูตร พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธำรงชัย ไล้ทองดี ผกก.นพ.ชัยพฤกษ์ วรเริ่มสกุล แพทย์เวร รพ.บุ่งคล้า และหน่วยกู้ภัยสว่างศรีวิไล

พบศพนายสมยศ อายุ 27 ปี นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่กลางถนนโดยมีรถจักรยานยนต์สีส้ม-ขาว ทะเบียน 1กฆ 3436 บึงกาฬ ทับลำตัวอยู่ มีบาดแผลที่กรามหักศีรษะแตก

ส่วนจักรยานยนต์ด้านหน้ายุบเข้ามาครึ่งคัน คาดว่าจะขี่จักรยานยนต์ฝ่าสายฝนวิ่งมาอย่างเร็วแล้วพุ่งชนท้ายรถยนต์คันหน้า ก่อนที่ใบหน้าจะชนกระแทกกับท้ายรถยนต์และถูกจักรยานยนต์ตกมาทับซ้ำดับอนาถ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามรถคู่กรณีมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป