สลดใจ! พบซาก "เต่าตนุ" ถูกคลื่นซัดเกยหาดเกาะสมุยเป็นตัวที่ 9 ในรอบ 2 เดือน

วันที่ 18 ก.ค. 2561 เมื่อเวลา 10.30 น. อาสาสมัครกู้ภัยกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ที่อยู่ริมชายหาดบ้านหน้าทอน ใกล้สถานีตำรวจน้ำเกาะสมุยว่าพบซากเต่าตนุขนาดใหญ่ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นริมชายหาด จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ

จากตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นเตาตนุขนาดใหญ่ ไม่ทราบเพศ อายุประมาณ 35 ปี น้ำหนัก 70-80 กิโลกรัม กระดองยาว 80 เซนติเมตร ดูจากสภาพคาดว่าน่าจะตายมาแล้วประมาณ 4-5 วัน ก่อนโดนคลื่นซัดมาเกยที่ริมชายหาด เบื้องต้นไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้าย

ทางด้าน นายธีระศักดิ์ ลำสวย อาสาสมัครกู้ภัยกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย เปิดเผยว่า ซากเตาตนุที่พบล่าสุดตัวนี้ เป็นซากเต่าตนุตัวที่ 9 ที่พบซากเต่าตนุถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นบริเวณชายหาดเกาะสมุย ในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมานี้

ซึ่งก็เป็นที่น่าเสียดาย ที่สัตว์ทะเลหายากชนิดนี้ได้ตายลงอย่างต่อเนื่อง โดยทางอาสาสมัครกู้ภัยกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย ได้นำซากเต่าตนุตัวนี้ไปฝั่งไว้ก่อน เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่มาผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายของเต่าตัวนี้อีกครั้ง

ขณะที่ทางด้าน น.ส.วัชรา สากรวิมล นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.ชุมพร เปิดเผยว่า

จากการผ่าพิสูจน์ซากเต่าตนุ ที่ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นชายหาดเกาะสมุย ส่วนใหญ่พบว่าสาเหตุที่ทำให้เต่าตนุตายอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดจากสาเหตุอาการป่วยของเตาตนุ

บวกกับช่วงนี้เป็นช่วงมรสุม คลื่นลมในทะเลมีกำลังค่อนข้างแรง เมื่อเต่าตนุมีอาการป่วย ก็จะไม่สามารถว่ายน้ำต้านทานต่อกระแสคลื่นได้ จนถูกคลื่นซัดเข้าฝั่งและตายลงในที่สุด

ส่วนอีกปัจจัยก็เกิดจากปัญหาขยะในทะเลเช่น เศษอวน เศษตาข่าย และถุงพลาสติก รวมถึงเครื่องทำประมง ที่เต่าตนุกินเข้าไป แล้วทำให้ลำไส้ไม่สามารถย่อยสลายได้ จนทำให้เต่าตนุป่วยและตายลงในที่สุด ทั้ง 2 ปัจจัยสำคัญนี้ จึงยังเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เต่าตนุตายลงอย่างต่อเนื่องในระยะนี้