มาร์ค งง! จตุพร กุเรื่องไม่อยู่ในรถตอนถูกทุบที่มหาดไทย
"อภิสิทธิ์"แปลกใจ"จตุพร"กล่าวหาไม่อยู่ในรถถูกทุบที่มหาดไทย ย้อนแล้วใครที่ปราศรัยให้ไล่ล่านายกฯ ซัดกลับทำร้ายคนอื่นแล้วยังสร้างเรื่องบิดเบือนอีก ระบุ ภาพหลักฐานชัด แต่ไม่อยากเปิดเดี๋ยวถูกครหาสร้างความเกลียดชัง ส่วนเปิด ดีสเตชั่น อ้าง กทช.
(8พ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ระบุว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้อยู่ในรถที่ถูกทุบที่กระทรวงมหาดไทยว่า ตนก็ไม่เข้าใจ เพราะมีคนจำนวนมากที่อยู่ในเหตุการณ์ ทราบดีว่าเกิดอะไรขึ้น ตนก็อยู่ในรถ หลายคนก็รู้ว่าตนอยู่ในรถ ตนก็แปลกใจทำไมหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา ไม่มีเหตุผลที่จะสร้างความสับสนในเรื่องนี้อีก ตนอยากให้นี้นักการเมืองทุกคนมานั่งคิดถึงเรื่องที่จะเดินไปข้างหน้าว่าจะสร้างความปรองดองได้อย่างไร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีคณะกรรมการที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมที่จะมาประมวลก็ไปใช้เวทีตรงนั้นจะดีที่สุด
เมื่อถามว่า เป็นเพราะว่านายจตุพร ต้องการขยายผลเพื่อการชุมนุมเสื้อแดงวันที่ 10 พ.ค.ที่วัดไผ่เขียวหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงห้ามไม่ได้ แต่น่าจะตั้งคำถามความน่าเชื่อถือ เพราะมีการหยิบยกประเด็นที่คนเขาเห็นชัดๆ ว่าอะไรเกิดขึ้น แต่พยายามจะทำให้เป็นอย่างอื่น
"จะเป็นเรื่องการสร้างสถานการณ์ได้อย่างไร ในเมื่อการปราศรัยบนเวที 2-3 วันก่อนหน้านั้น พูดถึงการที่จะจับตัวผม ผมคงไม่สามารถไปทำให้แกนนำพูดอย่างนั้นบนเวที แล้วมีการวางแผนไปที่พัทยาบ้าง มหาดไทยบ้าง ผมคงไม่มีความสามารถที่จะไปทำตรงนั้นได้เลย" นายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทกับนายจตุพรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าใครทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินคดีไป ตนยังไม่ได้ยินนายจตุพรกล่าวหาว่าอะไร คิดว่า ทุกคนรู้ข้อเท็จจริงดี และเป็นเรื่องแปลกแทนที่เขาจะแสดงความรับผิดชอบ กับกลุ่มคนที่แสดงเจตนาไปทำร้ายคนอื่นกลับมากล่าวหาคนที่จะถูกทำร้ายเป็นเรื่องที่แปลกมาก
เมื่อถามว่า นายจตุพร ระบุว่า ทหารสวมรอยใส่เสื้อแดงทุบรถนายกฯ นายกฯ กล่าวย้อนว่า สรุปแกนนำสั่งทหารได้ใช่ไหมครับ แกนนำบนเวทีเป็นใครละครับ ทุกคนก็เห็นอยู่ มีหมายจับอยู่ เพราะฉะนั้นตนคิดว่าอย่าสร้างความสับสนเพิ่มเติม มาร่วมกันแก้ปัญหาดีกว่า
เมื่อถามว่า การใช้ข้อมูลแบบนี้จะเป็นการปลุกประชาชนขึ้นมาเกลียดชังรัฐบาลหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ประชาชนคงจะมองเห็นความน่าเชื่อถือ และความไม่น่าเชื่อถือของคนมากกว่า เพราะข้อเท็จจริงมันชัดเจน พยานหลักฐานอะไรต่างๆ มีพร้อมอยู่แล้ว ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไปหยิบเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงกัน และความจริงมีพยานหลักฐานต่างๆ พร้อมอยู่แล้ว ซึ่งเราก็ไม่อยากนำบางภาพขึ้นมา เพราะเดี๋ยวจะหาว่า สร้างความเกลียดชัง แต่ภาพบนเวทีพูดถึงการไล่ล่าตนมีอยู่แล้ว
ส่วนกรณีที่นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำคนเสื้อแดงรุ่นที่ 2 ระบุว่า หากรัฐบาลไม่คืนสถานนีโทรทัศน์ ดีสเตชั่น อาจส่งผลทำให้เกิดความรุนแรง นายกฯ กล่าวว่า เรื่องดีสเตชั่นมี 2 ส่วนคือ เรื่องของอุปกรณ์ก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย และจากการสอบถามเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ก็ทราบว่า ยังไม่มีการยึดอุปกรณ์ใดๆ แต่ถ้าจะมีการยึดต้องมีกฎหมายรองรับ แต่การยึดก็หมายความว่า สิ่งของที่ใช้ทำผิดกฎหมาย ไม่ใช่อยู่ดีๆ ไปยึดของเขา ซึ่งส่วนนี้เป็นแนวทางที่รัฐบาลได้พูดชัด
นายกฯ กล่าวว่า การเปิดสถานนี ดีสเตชั่นถูกต้องได้รับอนุญาตตามกฎหมายทั้งหมดหรือไม่ ที่กทช.ชี้แจงคือการอัพลิงค์ในประเทศไทยขณะนี้ไม่มีใครมีใบอนุญาต แต่ถ้าอัพลิงค์ที่อื่นหรือดำเนินการเทคโนโลยีอะไรก็แล้วแต่ทีไม่ขัดต่อกฎหมายก็ทำได้ ขณะเดียวกันเมื่อออกอากาศแล้วต้องไม่มีพฤติกรรมที่ผิดกฎหมาย เช่นการยุยงให้คนทำผิดกฎหมาย เช่น เผาทำลายทรัพย์สินราชการ ทำร้ายผู้อื่น แต่ถ้าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ตำหนิรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับรับบาลทำได้ตลอดเวลา ขอยืนยันว่าจุดยืนรับบาลเป็นอย่างนี้
เมื่อถามว่า คิดว่าจะใช้สาเหตุนี้ไปจุดชนวนรอบใหม่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนอยากให้ทุกคนมีความเข้าใจตรงกันว่า จุดยืนรัฐบาลคือสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก มีแน่นอน แต่ต้องอยู่ขอบเขตของกฎหมาย แต้ถ้าพูดไม่เป็นกลาง ไปยุยงให้คนทำผิดกฎหมายไม่สามารถทำได้