สืบจนเจอศพ! เสี่ยฟาร์มโคขุนหายตัวจากบ้าน คนร้ายสารภาพฆ่าหมกบ่อขยะ

จากกรณี นายประสงค์ หรือ เสี่ยสงค์ อายุ 59 ปี เจ้าของฟาร์มโคขุน อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี หายตัวจากบ้านเมื่อกลางดึกวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุญาติได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนเจดีย์ ให้ช่วยติดตามตัวแต่ไร้วี่แวว กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่พบรถยนต์ของนายประสงค์ จอดทิ้งในป่าละเมาะ ท้ายหมู่บ้านห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 10 กม.

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.กษณะ แจ่มสว่าง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี ลงพื้นที่ สภ.ดอนเจดีย์ เรียกประชุมชุดทำงานร่วมกับ พ.ต.อ.ยิ่งยศ เขินอำนวย ผกก.สภ.ดอนเจดีย์ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเสี่ยฟาร์มวัว น่าจะถูกอุ้ม จึงสั่งการให้ชุดทำงานประสานกำลังชุดสืบสวนภ.7 ลงพื้นที่สืบหาเบาะแสของคนร้าย กระทั่งได้เบาะแสว่าก่อนที่นายประสงค์ จะหายตัวไปได้มีผู้ต้องสงสัยขับรถกระบะเข้าไปในบ้าน จากนั้นนายประสงค์ ก็หายตัวไปจากบ้านพร้อมกับวัวขุน อีก 4 ตัวเจ้าหน้าที่จึงออกสืบหาเบาะแสของคนร้ายอย่างต่อเนื่องและกดดันคนร้าย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ทราบว่า นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี คือวัยรุ่นต้องสงสัยมีส่วนร่วมก่อเหตุจึงควบคุมตัวมาสอบสวน และนายเอ ได้เปิดปากรับสารภาพว่าร่วมกับ นายประสงค์ อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นญาติกันก่อเหตุฆ่านายประสงค์ เจ้าของฟาร์มวัวจริงหลังก่อเหตุได้นำศพไปหมกที่บ่อขยะ ในพื้นที่ ต.สระกระโจม

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 18 ก.ค. พล.ต.ต.กษณะ แจ่มสว่าง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พล.ต.ต.สมชาย รักเสนาะ ผบก.ศสส.ภ.7 พ.ต.อ.วฤทธิ์พงษ์ ทัฬหวรงค์ ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.สุพรรณบุรี พร้อมแพทย์เวร รพ.ดอนเจดีย์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ได้เดินทางไปยังบ่อขยะของเทศบาลตำบลสระกระโจม อยู่ริมถนนสายหนองแจง – สระกระโจม หมู่ 3 ต.สระกระโจม เพื่อตรวจสอบสภาพศพนายประสงค์ หลังจากนายเอ ผู้ต้องสงสัยได้มาชี้จุดที่ฝังศพซึ่งอยู่บนกองขยะด้านท้ายเจ้าหน้าที่จึงขุดศพขึ้นมาตรวจพิสูจน์เบื้องต้นไม่สามารถตรวจสอบบาดแผลได้จึงส่งศพไปตรวจชันสูตรอย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวชฯ

พล.ต.ต.กษณะ แจ่มสว่าง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี กล่าวว่าหลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.ดอนเจดีย์ และสืบสวน ภ.7 ลงพื้นที่สืบหาเบาะแสของค้นร้ายกระทั่งทราบว่าก่อนเกิดเหตุมีพยานเห็นนายเอ (นามสมมุติ) และ นายประสงค์ อายุ 46 ปี ได้ขับรถกระบะมาที่บ้านของผู้ตายจึงติดตามตัวนายเอ ได้ที่บ้าน ใน ต.หนองสาหร่าย มาสอบสวนรับสารภาพว่า นายประสงค์ ซึ่งเป็นญาติกันประกอบอาชีพรับซื้อของเก่าและเคยซื้อขายวัวมาก่อน ได้ชวนไปหาผู้ตายเพื่อขอยืมเงินจากผู้ตาย แต่ผู้ตายไม่ให้จึงมีปากเสียงทะเลาะกันและนายประสงค์ ได้ใช้ท่อนไม้ตีจนผู้ตายแน่นิ่ง จึงช่วยกันหามใส่รถกระบะของผู้ตายพร้อมกับต้อนวัว 4 ตัวขึ้นรถกระบะ

จากนั้นนายประสงค์ ได้ขับรถของผู้ตายนำศพมาทิ้งในบ่อขยะ ส่วนตนได้ขับรถกระบะบรรทุกวัว ตามมารับหลังจากฝังศพเสร็จ และได้นำวัวไปขายในเขต อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี จากนั้นนายประสงค์ ได้หลบหนี ส่วนตนได้กลับมาอยู่บ้านทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตามมาจับที่บ้าน ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับติดตามจับตัวนายประสงค์ พ่อค้ารับซื้อของเก่ามาดำเนินคดี