แจ้ง 5 ข้อหา หนุ่มคัมรี่คว้าดาบฟันรถป้าย่านสาทร แค้นไม่ให้แทรกเลน
จากกรณีโลกโซเชียลเผยแพร่คลิปวิดีโอ หนุ่มหัวร้อน คว้าอาวุธมีดขู่ฟันรถคู่กรณี บริเวณสามแยกเทคนิคกรุงเทพ ถนนสวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพ เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ที่ผ่านมา นายสิทธิพร อายุ 42 ปี หนุ่มหัวร้อนตามคลิป เข้าพบ พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยมีผู้เสียหาย วัย 64 ปี ผู้เสียหายพร้อมญาติให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม
ผู้เสียหายระบุว่า คืนนี้คู่กรณีได้ทางเข้าพบตำรวจ และเอ่ยปากขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อ้างว่า วันเกิดเหตุทะเลาะกับแฟนสาว จึงทำให้เกิดอารมณ์โมโห จึงได้บันดาลโทสะ ใช้อาวุธมีดที่พกมาฟันไปที่กระจกข้างฝั่งคนขับ จำนวน 2 ครั้ง ตามที่ปรากฎในคลิป ถึงจะมีการขอโทษแล้วแต่ก็ยืนยันจะดำเนินคดีให้ที่สุด ทั้งนี้ขอฝากไปถึงผู้ใช้รถใช้ถนนควรจะมีน้ำใจ และมีเหตุผล ไม่ควรใช้อาวุธ หรือใช้อารมณ์ ทุกคนจะต้องเคารพกฎหมาย
>> หนุ่มคัมรีสารภาพ "ไม่ตั้งใจ" หลังจอดรถขวางเพราะแทรกเลนไม่ได้ อ้างคว้าดาบเคาะกระจก
เบื้องต้นตำรวจแจ้ง 5 ข้อหา คือ ทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์, ข่มขู่ทำให้ผู้อื่นหวาดกลัว, พกพาอาวุธมีดไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, และ ความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร อีก 2 ข้อหา จอดรถในที่ห้ามจอด, เปลี่ยนช่องทางกระทันหัน ซึ่งตำรวจนัดรายงานตัวที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ในวันที่ 21 ก.ค. นี้
ล่าสุด พ.ต.อ. ศาสตรา อ่อนรัศมี ผู้กำกับการสถานีตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ เปิดเผยถึงกรณีนายสิทธิพร อายุ 42 ปี คนขับรถยนต์คัมรี สีดำ ที่ขับปาดหน้ารถยนต์ของผู้เสียหายเป็นหญิงอายุ 64 ปี ก่อนจะใช้อาวุธมีดข่มขู่และจะเข้าทำร้ายบริเวณสามแยกเทคนิคกรุงเทพ ถนนสวนพลู เขตสาทร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้น หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัวตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวนตามที่ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความ โดยผู้ต้องหายอมรับว่าได้ก่อเหตุจริง เนื่องจากในช่วงดังกล่าวตนเองได้ออกมาจากปั๊มน้ำมัน พอมาถึงทางร่วมที่ใกล้กับทางแยกจึงพยายามขอทางเข้าไปในเลน แต่ทางผู้เสียหายไม่ยอมให้เข้า ตัวเองกลัวจะผิดกฎจราจรก็เลยเกิดความโมโห ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ จึงได้ก่อเหตุตามคลิปที่มีการเผยแพร่ออกไป ส่วนมีดที่ใช้ก่อเหตุ ผู้ต้องหาอ้างว่าเพิ่งซื้อมาติดไว้ในรถเท่านั้น ไม่ได้มีการเตรียมไว้ก่อเหตุหรือทำร้ายใคร โดยการเข้ามอบตัวในครั้งนี้ตำรวจได้พยายามประสานกดดันและออกหมายเรียกเพื่อให้เข้ามามอบตัว
ทั้งนี้ฝากไปยังประชาชน ขอให้ปฎิบัติตามกฎจราจร ให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับที่จะทำให้ไม่เกิดปัญหา ดีที่ผู้เสียหายป้องกันตัวเองด้วยการล็อครถ เพราะหากไม่เช่นนั้นอาจเกิดเหตุไม่คาคาดคิด เพราะผู้ต้องหาที่อยู่ในอารมณ์ชั่ววูบมีอาวุธ
เบื้องต้นตั้งแต่เช้าตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องที่ศาลแขวงกรุงเทพใต้ ในแจ้ง 5 ข้อหา คือ ทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์, ข่มขู่ทำให้ผู้อื่นหวาดกลัว, พกพาอาวุธมีดไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, และ ความผิดตาม พ.ร.บ. พ.ร.บ.จราจร อีก 2 ข้อหา จอดรถในที่ห้ามจอด, เปลี่ยนช่องทางกระทันหัน
