เปิดใจ "น้องมะนาว" วิวาห์ไร้เจ้าบ่าว ต้องฝืนกลั้นน้ำตาจัดพิธีต่อให้เสร็จ
จากกรณีที่โลกโซเชียลแห่แชร์คลิปภาพพิธีแต่งงานที่ศาลาประชาคมวัดพิกุลทอง ต.พิกุลทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี เจ้าสาวแต่งกายในชุดเจ้าสาวขึ้นพูดผ่านไมโครโฟนบนเวที ขออภัยแขกที่มาร่วมงาน เพราะเจ้าบ่าวไม่มางานแต่ง แต่งานยังคงต้องเดินหน้าต่อไป และเปลี่ยนเป็นงานทำบุญบ้านและงานของครอบครัว กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั้งสังคม
ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปพบกับ "น้องมะนาว" เจ้าสาวผู้เสียหายที่บ้าน และเป็นที่อยู่ที่ระบุไว้ในการ์ดงานแต่งที่ออกเชิญแขกเพื่อมาร่วมงาน โดยบรรยากาศภายในบ้านยังมีการประดับตกแต่งซุ้มและเครื่องอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบพิธีมงคลสมรส รวมไปถึงบรรดาเครื่องครัวที่ใช้ในงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสด้วย
จากการสอบถาม น้องมะนาว ออกมาเปิดใจถึงเรื่องราววิวาห์ล่มในครั้งนี้ว่า ตนรู้จักกับทางเจ้าบ่าวผ่านเฟซบุ๊กเนื่องจากฝ่ายผู้ชายหน้าตาดีและชอบขับรถยนต์แต่ง ซึ่งก็ตรงกับตนที่ทำงานเป็นฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของบริษัทรถยนต์แบรนด์หนึ่งใน จ.ราชบุรี ด้วยความที่มีความรู้และความชอบคล้ายๆ กัน จึงคุยกันถูกคอและเกิดความสัมพันธ์ลึกซึ้ง และได้มีการตกลงที่จะแต่งงานกัน
>> หัวใจสลาย เจ้าสาวขึ้นเวทีขอบคุณแขกทั้งน้ำตา หลังเจ้าบ่าวหนีงานแต่ง
โดยที่ทางฝ่ายเจ้าบ่าว ประกอบด้วย พ่อแม่และญาติรวม 7 คน ได้เดินทางมาพูดคุยตกลงค่าสินสอดกับทางพ่อ แม่ของตนเองที่บ้าน โดยมีญาติอยู่ด้วย การเจรจาสู่ขอก็เป็นไปด้วยดี เงินค่าสินสอดจำนวน 2 แสนบาท ทองหมั้นอีก 4 บาท จากนั้นได้ตกลงกันว่าทางฝ่ายเจ้าสาวเป็นผู้ที่ไปดูฤกษ์แต่งเอง จนได้ฤกษ์ตรงกับวันที่ 22 กรกฎาคม 2561 จึงได้โทรบอกทางฝ่ายเจ้าบ่าวให้รับทราบ
น้องมะนาว กล่าวต่อว่า จากนั้นตนและเจ้าบ่าวก็ได้ไปถ่ายพรีเวดดิ้งด้วยกัน เพื่อที่จะนำภาพมาใช้ภายในงานและโชว์ให้เพื่อนๆ ได้ชมความสวยงามของภาพ และหลังจากที่ตนได้โพสต์ภาพพรีเวดดิ้งของตนเอง จู่ๆ ก็มีภาพปรากฏผ่านหน้าฟีดของทางเจ้าบ่าว เป็นภาพของเจ้าบ่าวโพสต์คู่กับหญิงสาวอื่นที่ไม่ใช่ตนเอง
อีกทั้งยังมีข้อความที่ส่อไปในเชิงความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ทำให้ตนเองก็รู้สึกตกใจและได้เช็คข้อมูลจนทราบว่า ฝ่ายชายกับหญิงสาวรายนี้มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ทำให้ตนเองตัดความสัมพันธ์และไม่ได้ติดต่อกันอีก
แต่เนื่องจากงานได้กำหนดไปแล้วมีการออกการ์ดเชิญแขกไปแล้ว รวมไปถึงติดต่อหาเครื่องไฟ เครื่องดนตรี รวมไปถึงโต๊ะจีนด้วย เกรงว่าจะเกิดความเสียหายจึงได้ตกลงกับทางฝ่ายชายเพื่อให้มาเข้าพิธีจนจบงาน โดยตนเองได้ตกลงกับทางเจ้าบ่าวว่า “ให้มาแต่งตามกำหนด แต่งเสร็จก็เลิกรากันไป” ซึ่งต่างฝ่ายก็ตกลงตามนั้น
กระทั่งถึงใกล้วันแต่งตนเองและทางญาติก็ได้ติดต่อทางฝ่ายครอบครัวเจ้าบ่าว เพื่อถามถึงเครื่องขันหมากและแจ้งขั้นตอนการจัดงานที่ทางฝ่ายเจ้าสาววางไว้ เมื่อถึงเวลาที่จะต้องซื้อเครื่องขันหมากทาง ตนเองก็ได้แจ้งให้ฝ่ายเจ้าบ่าวทราบว่าต้องจัดซื้อราคาหมื่นบาทเศษ แต่ทางฝ่ายเจ้าบ่าวตอบกลับว่ามีเงินให้ได้เพียง 7,000 บาท ซึ่งฝ่ายตนก็โอเค ให้ทางฝ่ายเจ้าบ่าวโอนเงินมาให้ และตนเองออกสมทบไปอีก 5,000 บาท เพราะอยากให้พิธีออกมาสมบูรณ์ที่สุด
จากนั้นทางฝ่ายเจ้าสาวก็ถามถึงเงินสินสอด ทองหมั้น แต่กลับไม่มีเงินสินสอดตามที่ตกลงกันไว้ ทางฝ่ายเจ้าสาวจึงได้ช่วยหาทางออกโดยขอให้ทางฝ่ายเจ้าบ่าวหาเงินมา 1 แสนบาท และทางฝ่ายเจ้าสาวจะสมทบให้ แต่ฝ่ายเจ้าบ่าวมีให้เพียงแค่ 60,000 บาท ซึ่งทางตนเองและญาติก็ตกลงตามนั้น ฝ่ายเจ้าบ่าวยกมา 60,000 บาท ฝ่ายเจ้าสาวสมทบให้ 140,000 บาท ทองอีก 4 บาท เพื่อให้ครบตามจำนวนที่ได้ตกลงไว้จำนวน 200,000 บาท ทอง 4 บาท
เจ้าสาวกล่าวอีกว่า เมื่อถึงวันงานตนเองก็แต่งหน้าทำผมและใส่ชุดพิธีเช้าด้วยชุดไทย เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา เมื่อเวลา 07.00 น. ตามกำหนดเวลา แต่ปรากฏทางฝ่ายเจ้าบ่าวยังไม่มา และทางฝ่ายเจ้าบ่าวโทรมาแจ้งว่าเจ้าบ่าวหายตัวไป ติดต่อไม่ได้ ตนจึงได้แต่ปลอบใจตัวเอง และต้องฝืนทั้งน้ำตาเพื่อให้งานผ่านไปได้ เนื่องจากกลัวผู้เป็นพ่อที่ป่วยเป็นโรคหัวใจจะอาการทรุดลง
>> อาเจ้าบ่าวหนีงานแต่ง โพสต์ลั่น หลานชายไม่รักจะบังคับทำไม
ต่อมาจึงให้พระสงฆ์ที่นิมนต์มาประกอบพิธีทั้ง 9 รูป สวดทำบุญบ้านแทน ส่วนทางฝ่ายเจ้าบ่าวก็ได้พยายามติดต่อเข้ามาทางญาติของตนเองซึ่งบอกว่าเจ้าบ่าวหายไป แต่ขบวนขันหมากพร้อมที่จะมา แต่ไม่มีเจ้าบ่าวมาด้วยจะยังให้มาไหม ซึ่งญาติก็ได้ตอบกลับไปว่า ถ้าไม่มีเจ้าบ่าวก็ไม่ต้องมา หากจะหาผู้ที่แทนเจ้าบ่าวก็ไม่ถูกต้อง แถมยังมีข้อต่อรองถึงเรื่องต้องมีค่าจ้าง หรือให้นำเงินสินสอดไปให้เพราะคิดว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรมแล้ว เนื่องจากตนเองไม่ได้ผิดอะไร และงานก็ดำเนินการตามทุกขั้นตอนจนจบ
จากนั้นจึงเดินทางไปยังศาลาประชาคมภายในวัดพิกุลทอง เพื่อต้อนรับแขกที่มาร่วมงานและยังไม่ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อตนเองและครอบครัวเดินเก็บซองเสร็จ จึงได้ตัดสินใจขึ้นเวทีกล่าวขอบคุณและขออภัยแขกที่มาร่วมงาน เพราะเจ้าบ่าวไม่มางานแต่ง แต่งานยังคงต้องเดินหน้าจนจบจากการวิวาห์เป็นงานทำบุญบ้านและงานของครอบครัว ตามที่ปรากฏในคลิปข่าวดังกล่าว
ส่วนในช่วงบ่ายทางเจ้าสาวพร้อมด้วยญาติ ได้เดินทางเข้าแจ้งความเอาผิดกับทางฝ่ายเจ้าบ่าวต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี เพื่อให้ทางฝ่ายเจ้าบ่าวชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นตามใบเสร็จจริงทั้งหมด ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะได้เชิญให้ทั้งสองฝ่ายมาเจรจาตกลงกันอีกครั้ง