เจ้าบ่าววัย 18 หนีวิวาห์ ขอโอกาสสังคม เปิดใจมีแฟนอยู่แล้ว แต่พลาดมีสัมพันธ์คืนเดียว (มีคลิป)
เจ้าบ่าววัย 18 ปี ต้องเป็นประเด็นฉาว ชิ่งหนีพิธีแต่งงาน ออกมาเปิดใจขอโอกาสสังคม ยอมรับมีแฟนอยู่แล้ว แต่เจออีกฝ่ายทางเฟซบุ๊ก และพลาดมีสัมพันธ์คืนเดียว
จากกรณีที่โลกโซเชียลแห่แชร์คลิปภาพพิธีแต่งงานที่ศาลาประชาคมวัดพิกุลทอง ต.พิกุลทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี เจ้าสาวแต่งกายในชุดเจ้าสาวขึ้นพูดผ่านไมโครโฟนบนเวที ขออภัยแขกที่มาร่วมงาน เพราะเจ้าบ่าวไม่มางานแต่ง แต่งานยังคงต้องเดินหน้าต่อไป และเปลี่ยนเป็นงานทำบุญบ้านและงานของครอบครัว กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั้งสังคมนั้น
ล่าสุด นายคิน (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ฝ่ายเจ้าบ่าวในพิธีแต่งงานอื้อฉาวครั้งนี้ ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชน โดยเปิดเผยว่า ตนรู้จักกับทางฝ่ายเจ้าสาวจริง โดยเริ่มจากเมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน มะนาวได้ขอแอดเพื่อนในเฟซบุ๊กมา ตนจึงได้เข้าไปดูโปรไฟล์ของเขา และเห็นว่าเป็นคนน่ารักดีจึงได้รับแอดไว้
หลังจากที่เป็นเพื่อนกันในเฟซบุ๊กแล้ว มะนาวก็ได้ทักทายและพูดคุย ซึ่งก็ได้พิมพ์โต้ตอบกันนาน 1 สัปดาห์ ซึ่งการพูดคุยก็เหมือนทักทายกันของวัยรุ่นหนุ่มสาวทั่วไป จนเกิดความสนิทสนมกัน จากนั้นตนเองก็ได้เอ่ยปากชวนมะนาวไปกินข้าวเย็นกัน หลังจากที่มะนาวเลิกจากงาน
>> หัวใจสลาย เจ้าสาวขึ้นเวทีขอบคุณแขกทั้งน้ำตา หลังเจ้าบ่าวหนีงานแต่ง
จากนั้นก็ไปเที่ยวสถานบันเทิงกันต่อจนดึกและก็ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน แต่ตนก็ยืนยันว่ามีการใส่ถุงยางอนามัย มีความสัมพันธ์กันเพียงครั้งเดียว หลังจากผ่านไป 1 สัปดาห์ตนก็เริ่มที่จะตีตัวออกห่างตามประสาวัยรุ่น อีกทั้งตนก็มีแฟนสาวอยู่แล้ว ตนจึงได้เลิกกับทางฝ่ายมะนาวและก็ห่างกันไป
นายคิน กล่าวต่อว่า หลังจากที่ห่างกันไป นานๆ ก็จะติดต่อกัน จนฝ่ายมะนาวได้บอกกับตนเองว่าท้อง ตนก็นิ่งไปและก็ตกใจว่าท้องได้อย่างไร เพราะตนมั่นใจว่าไม่น่าใช่ เพราะตอนนั้นตนใส่ถุงยางอนามัยป้องกัน แล้วจู่ๆ พ่อของตนได้มาแจ้งกับตนว่า มีหญิงสาวชื่อ มะนาว มาบอกว่าท้องกับลูกตนเองและจะให้ไปสู่ขอ
โดยที่ทางมะนาวตกลงว่าจะเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องสินสอดทองหมั้นทั้งหมด และให้ไปตกลงกับทางบ้าน ซึ่งทางครอบครัวก็เดินทางไปตกลงกับทางฝ่ายเจ้าสาว ก็ยกกันไป 7 คน มีการพูดคุยตกลงกันตามที่มะนาวให้ข้อมูลไว้ ก่อนที่จะเดินทางกลับ
ตนเองก็ยืนยันว่าไม่มีเงินมากขนาดนั้น อีกทั้งตนเองก็เลิกกับทางฝ่ายมะนาวไปแล้ว แต่ที่มีตกลงแต่งงานกันนั้นเพราะมะนาวบอกว่าต้องแต่งกับตน ทั้งๆ ที่ตนเองไม่ได้รักและหมดใจไปแล้ว และให้ตนเองไปถ่ายภาพพรีเว็ดดิ้ง ตนเองก็เดินทางไป
จากนั้นก็ตกลงกับทางมะนาวว่า จะยอมแต่งให้แต่งเสร็จก็เลิกกัน แต่เมื่อถึงวันงาน ด้วยความที่ทางฝ่ายเจ้าสาวให้ตนเองหาเงิน 1 แสนบาทมาเป็นเงินสินสอด ตนไม่มีเงินจึงเกิดความเครียด เพราะผิดจากที่ตกลงไว้ในครั้งแรก เมื่อถึงวันงานตนจึงหลบหนีไป
ทั้งนี้ อยากวอนสังคมเข้าใจตนเองบ้าง เพราะตนเองไม่ได้รักฝ่ายเจ้าสาว เป็นความสัมพันธ์แค่คืนเดียว และได้เลิกราไปแล้ว แต่ที่มาแต่งเพราะเข้าใจว่าทางฝ่ายสาวท้อง ตนจึงแสดงความรับผิดชอบมาแต่งงานดังกล่าว แต่ก็มาถูกบีบด้วยเงินค่าสินสอดดังกล่าว
ขณะที่ นายอเนก พ่อของเจ้าบ่าว กล่าวว่า ตนเองต้องขอโทษทางฝ่ายเจ้าสาวผู้เสียหาย และอยากขอความเห็นใจจากสังคมด้วย เมื่อวันงานตนเองและญาติๆ ก็ได้เตรียมความพร้อม ทั้งต้นกล้วย ต้นอ้อย ผ้ารับไหว้ ซองผ่านประตู 40 ซอง และเงินสดอีกจำนวน 60,000 บาท ตามที่ทางฝ่ายเจ้าสาวตกลงไว้
>> เปิดใจ "น้องมะนาว" วิวาห์ไร้เจ้าบ่าว ต้องฝืนกลั้นน้ำตาจัดพิธีต่อให้เสร็จ
ซึ่งตั้งแต่วันแรกตนก็ทำตามที่ทางฝ่ายเจ้าสาวบอก ทั้งในเรื่องของเงินสินสอดทองหมั้นที่ทางฝ่ายสาวจะเป็นผู้เตรียมไว้ให้ แต่เมื่อถึงเวลาจริงกลับให้เราต้องมาออกเอง ก่อนจะตกลงกันก่อนวันงานเพียงไม่กี่ชั่วโมง ต่อรองกันจนเหลือ 60,000 บาท แต่ก็ไม่ได้แจ้งลูกชายได้ทราบ เพราะคิดว่าคนสองคนจะคุยกันแล้ว
เมื่อถึงช่วงค่ำปรากฏว่าลูกชายหายไป ตนก็ได้ออกตามหาตั้งแต่ 5 ทุ่ม โทรไปไม่รับสาย จนเวลา 03.00 น. ตนเองได้โทรตามอีกก็โทรไม่ติดและไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ทั้งนี้ตนก็ได้ให้ญาติติดต่อไปฝ่ายเจ้าสาวเพื่อแจ้งให้ทราบว่าลูกชายหายไป และต้องการยืนยันว่าจะยกขันหมากไปแต่ก็ได้รับการปฏิเสธ
ซึ่งตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรก็ได้แต่เสียใจและเดินทางไปยัง สภ.เมืองราชบุรี เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ตนอยากขอโทษทางฝ่ายเจ้าสาวแทนลูกชายและครอบครัว หากทางฝ่ายเจ้าสาวจะดำเนินคดีอย่างไรก็ต้องพูดคุยกันอีกครั้งซึ่งทางครอบครัวก็ยินดีที่จะหันหน้าเข้าเจรจากัน