เสื้อแดงลั่นให้ 5แสน! จับคนพยายามฆ่านายกฯ มาร์ค ซัดกล่าวหามั่วหวิดตายจริง
เปิดซีดีกลางม็อบเสื้อแดง เผยข้อพิรุธ"มาร์ค"ไม่อยู่ในรถ "จตุพร"เชื่อรัฐบาลจัดฉากเหตุรุนแรง ลั่นให้ 5 แสน คนพยายามฆ่านายกฯ ที่มหาดไทย อ้างมีทหาร 9-10 คน ร่วมก่อเหตุ "อภิสิทธิ์"ยันไม่มีสร้างสถานการณ์ หวิดตายจริง ซัดกล่าวหามั่วอีก โฆษกปชป.โชว์ภาพยืนยันชัด อัด"ตู่"ปั้นน้ำเป็นตัว
เปิดซีดีทุบรถนายกฯอ้างไม่เห็นคนนั่งเบาะหลัง
เวลา 20.15 น. วันที่ 10 พฤษภาคม นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย (พท.) และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นช.) หรือคนเสื้อแดง กล่าวปราศรัยว่า ตั้งแต่ 12 - 14 เมษายน ที่พัทยา ที่กระทรวงมหาดไทย และที่อื่นๆ รัฐบาลจัดฉาก โดยที่พัทยาเอาตำรวจมาใส่เสื้อน้ำเงินยิงหนังสติ๊กใส่เสื้อแดง จากนั้นเป็นกรณีการเสียชีวิตของพลทหารอภินพ เครือสุข ซึ่งคนสงสัยว่าถูกท้ายปืนตีไม่ใช่ล้มในห้องน้ำที่บ้านพักแม่ทัพภาค 1 จากนั้นนายกฯ อยู่ในค่ายทหาร กลับมาประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินที่กระทรวงมหาดไทย ที่ตำรวจออกหมายจับ 21 คนจากเหตุการณ์ที่กระทรวงมหาดไทยนั้น มีจำนวนหนึ่งไม่มามอบตัว เพราะไม่ใช่เสื้อแดง โดยมีแหล่งข่าวแจ้งว่า มีทหาร 9-10 มาสร้างสถานการณ์ ใครจับได้ คนเสื้อแดงตัวจริง จะให้รางวัลนำจับคนละ 1 แสนบาท
นายจตุพรกล่าวว่า นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ไม่อยู่ในรถประจำตำแหน่ง โดยมีทีวีฉายภาพ นายอภิสิทธิ์ขึ้นรถพร้อมนายสุเทพ แต่เป็นอีกคันที่ขับออกไปก่อนที่เสื้อแดงจะมากระทรวงมหาดไทย มีข้อสังเกตุที่ว่า เป็นรถเปล่าคือ 1.ปล่อยให้เสื้อแสดงเข้ากระทรวงง่าย 2. รปภ.มาเปิดประตูฝั่งประตูที่อ้างว่า นายกฯนั่งอยู่ ซึ่งโยนของให้ ซึงผิดปกติของระบบ รปภ. 3. ตอนแรก รปภ.เหมือนจะห้าม แต่สุดท้ายปปล่อยให้ประชิดรถโดยง่าย 4. มองทะลุมุมไหนก็ไม่เห็นคนนั่งเบาะหลัง
จากนั้นนายจตุพร เปิดซีดีชื่อ "คนไทยทั้งประเทศถูกหลอก ทุบรถที่มหาดไทย อภิสิทธิ์คนลวงโลก" ซึ่งระหว่างเปิดนั้นซีดีนั้นมีการตั้งข้อสังเกตุที่ผิดปกติ โดยเฉพาะรถของนายกฯที่ถูกทุบมีความยาวประมาณ 15 นาที
"มีแนวคิดที่จะเปิดโทรทัศน์ดี สเตชั่น อีก 2 ช่อง ขณะนี้ อยู่ระหว่างศึกษาว่า ทำยังไงที่เปิดแล้วจะไม่ถูกปิดอีก ถ้าถูกปิดอีก 2 ก็จะเปิดอีก 4 ช่อง หลังจากนี้ จะไปชุมนุมที่สนามหลวง แต่ให้ชายตาทำเนียบรัฐบาลไว้ โดยตราบใดที่บ้านเมืองยังไม่เป็นประชาธิปไตยก็จะต่อสู้ต่อไป"นายจตุพร กล่าว
เสื้อแดงกระเจิงหนีฝนถล่ม
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงก่อนนี้ ที่เปิดเวที "รวมพลคนเสื้อแดง" ขึ้นเป็นครั้งแรก หลังเหตุสลายการชุมนุมในช่วงเหตุการณ์ที่วัดไผ่เขียว ย่านดอนเมือง กรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 พฤษภาคม ว่า ผู้ชุมนุมเริ่มทยอยมายังบริเวณด้านหลังวัด โดยจับจองพื้นที่หน้าเวที ที่มีการตั้งจอโปรเจ็คเตอร์ 3-4 จอ มีร้านค้าขายอาหาร เครื่องดื่ม มาตั้งขายอย่างคึกคัก ในการชุมนุมยังมีการขายซีดีชื่อ "รัฐบาลทรราชฆ่าประชาชน" และ "ความจริงวันที่ 13 เมษา 2552 สงครามเลือด" แผ่นละ 20 บาท ที่มีการนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์สลายม็อบบริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง
เวลา 17.00 น. บรรดาแกนนำคนเสื้อแดง มาร่วงานอย่างพร้อมเพรียง อาทิ นายวีระ มุสิกพงศ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายมานิตย์ จิตจันทร์กลับ, นายการุณ โหสกุล, นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ โดยมีผู้ชุมนุมมาร่วมฟังการปราศรัยจำนวนมาก ต่อมาเกิดฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ทำให้ประชาชนที่มาร่วมงานต่างวิ่งหนีหลบฝนกันจ้าละหวั่น ขณะที่พื้นที่ชุมนุมเฉอะแฉะ น้ำท่วมประมาณข้อเท้า
ผู้ชุมนุมร่วมหมื่นฟังปราศรัย
หลังพายุฝนเริ่มสงบ นายสุภรณ์กล่าวปราศรัยบนเวที กล่าวหาโจมตีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่าใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา และกล่าวหาว่าการก่อความไม่สงบในกระทรวงมหาดไทย ไม่ใช่ฝีมือของคนเสื้อแดง ถ้าหากเป็นกลุ่มคนเสื้อแดงจริง ก็ต้องเข้ามอบตัว เพราะแกนนำทุกคนเข้ามอบตัวหมดแล้ว
ระหว่างการปราสัยนายสุภรณ์ นำชายไม่ทราบชื่อ 2 คน ขึ้นบนเวที พร้อมระบุว่า ได้รับบาดเจ็บจากการสลายการชุมนุมบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง โดยทั้งสองคนระบุว่าถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่ขา
เวลา 19.00 น. พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 กล่าวว่า เบื้องต้นประเมินมีผู้ชุมนุมประมาณ 10,000 คน แต่ตัวเลขยังไม่แน่นอน เพราะว่าฝนตกหนักมาก ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนหลบอยู่ตามที่ร่ม และยังมีผู้ชุมนุมบางส่วนทยอยเดินทางเข้ามาชุมนุม
"ตู่" ให้5แสนจับคนจ้องฆ่านายกฯ
ก่อนหน้านี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย (พท.) และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นช.) หรือคนเสื้อแดงให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ก่อนไปร่วมชุมนุมคนเสื้อแดง ที่วัดไผ่เขียว ย่านดอนเมือง กรุงเทพฯ ว่า จะเปิดเผยข้อเท็จจริงเรื่องที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี บอกว่าอยู่ในรถคันที่โดนทุบที่กระทรวงมหาดไทย ทั้งที่เมื่อดูภาพจากด้านหลังรถแล้วไม่มีคนนั่ง และก่อนหน้านี้นายอภิสิทธิ์ยังเปลี่ยนรถก่อนที่จะออกจากทำเนียบรัฐบาลด้วย เหมือนกับการเปลี่ยนรถที่พัทยา โดยจะมีภาพมาแสดงด้วย เป็นภาพที่ช่อง 9 อสมท เคยออกอากาศ คือภาพที่นายกฯได้เปลี่ยนรถจากเบนซ์กันกระสุน มาขึ้นรถปราโด้พร้อมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ จะเห็นได้ว่าเมื่อนายอภิสิทธิ์เริ่มโกหกแล้วก็คงจะโกหกกันต่อไป
นายจตุพรกล่าวว่า ให้กลุ่มเสื้อแดงที่ถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่านายกฯ ว่าหากเป็นเสื้อแดงจริงขอให้ออกมามอบตัว แล้วแกนนำจะช่วยประกันตัวให้ แต่หากไม่มีใครออกมามอบตัว เราจะตั้งรางวัลนำจับให้ทั้งจุดที่นางเลิ้ง มัสยิด และศาลรัฐธรรมนูญ โดยตั้งรางวัลนำจับจุดละ 500,000 บาท เรื่องนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯฝากมาบอกกลุ่มเสื้อแดงว่าจะต้องทำความจริงให้ปรากฏให้ได้ พวกเราเองก็จะแสวงหาข้อเท็จจริงให้ได้
"มาร์ค" งงถูกหาไม่อยู่ในรถที่มท.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายจตุพรระบุว่า วันเกิดเหตุที่กระทรวงมหาดไทยไม่อยู่ในรถ ว่า ตนไม่อยากเชื่อว่ายังมีความพยายามทำอย่างนี้กันอยู่ ตนงงมาก มากล่าวหาว่าสร้างสถานการณ์ ถามว่าจะสร้างสถานการณ์เพื่ออะไร เหตุการณ์เกิดหลังประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จะสร้างสถานการณ์เพื่อประกาศ พ.ร.ก.ก็ไม่ใช่ และการพูดบนเวทีเปิดเผยมาตลอดว่ามีทีมไล่ล่า และคนที่มาบัญชาการหน้ากระทรวงมหาดไทยเป็นแกนนำชัดเจนและประกาศชัดให้ทำอะไร ขณะนี้ก็มีหมายจับ
"ผมประกาศ พ.ร.ก.เสร็จ เดินลงมาก็มีสื่อมวลชนรอสัมภาษณ์ หากขึ้นรถช้ากว่านั้นก็ถึงตัวผมแล้ว คนจำนวนมากเห็นผมอยู่ในรถ เลขานายกฯก็ถูกทำร้ายขนาดนั้น ลงทุนขนาดนั้นหรือ การทำร้ายคนอื่นแย่อยู่แล้ว แต่การมากล่าวหาคนที่ถูกทำร้าย ไม่น่าจะเป็นแนวทางการเมืองที่ควรได้รับการสนับสนุนส่งเสริม คิดต่างไม่เป็นไร แต่ขอให้อยู่ในข้อเท็จจริง" นายกฯกล่าว
นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สื่อและสังคมไม่ควรเสียเวลา เพราะแกนนำเสื้อแดงมีพฤติกรรมโกหกหน้าด้านๆ สร้างเรื่อง ก่อให้เกิดความรุนแรง สื่อควรคว่ำบาตร เรื่องที่เป็นเรื่องโกหกก็ไม่ควรเสนอ สื่อเองก็เห็นอยู่แล้วว่า มีแกนนำให้ข้อมูลเพื่อก่อความรุนแรงอย่างไร ขอให้ช่วยกันขจัดสิ่งไม่ดีออกจากระบบ
"เทพไท" ซัด"ตู่" ปั้นน้ำเป็นตัว
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำภาพถ่ายรถเบนซ์สีดำของนายกฯและของทีม รปภ.ที่กระทรวงมหาดไทยมาแสดงระหว่างการแถลงข่าว ว่า ที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ออกมาพูดว่า นายกฯไม่อยู่ในรถประจำตำแหน่งที่กระทรวงมหาดไทย ซึ่งนายกฯยืนยันแล้วว่า อยู่จริง คนทั้งประเทศก็เห็น ที่ออกมาพูดจึงเป็นการปั้นน้ำเป็นตัว หรือกุข่าว เมื่อสื่อเอาภาพออกมาแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะจำนนหรือไม่ หรือนายจตุพร อาจเข้าใจผิด เพราะนายกฯ นั่งอยู่ในรถเบนซ์สีดำซึ่งคล้ายกับรถเบนซ์ของทีม รปภ. ซึ่งรถของนายกฯมีตำรวจติดตามนั่งหน้า และนายกฯนั่งหลัง และที่ไม่เห็นเพราะติดฟิล์มดำและเป็นรถกันกระสุน ส่วนรถของทีม รปภ.ไม่ได้กันกระสุน และยังไม่มีคนมานั่ง ทำให้นายจตุพรเข้าใจคลาดเคลื่อน
นายเทพไทกล่าวว่า ที่นายจตุพรระบุว่ามีทหารใส่เสื้อสีแดงเข้ามาสร้างสถานการณ์ โฆษกกองทัพบกก็ออกมาแถลงข่าวแล้วว่าไม่มี นายจตุพร ควรดูข้อมูลให้ชัดเพื่อไม่ให้กองทัพเสียหาย
เย้ยเสื้อแดงชุมนุมเลี้ยงอำลา
นายเทพไทกล่าวว่า กรณีที่กลุ่ม นปช.ชุมนุมที่วัดไผ่เขียว น่าจะเป็นการเลี้ยงปลอบขวัญผู้ที่ก่อความรุนแรงแล้วถูกควบคุมโดยทหาร เป็นการเลี้ยงอำลาก่อนที่จะแยกย้ายกันไป เพราะวันนี้ทุกภาคส่วนเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยุดการเคลื่อนไหว ซึ่งพรรคก็หวังเช่นนั้น ถ้ากลุ่มเสื้อแดงหยุด บรรยากาศการเมืองในประเทศจะดีขึ้น วันนี้ นปช.ขาดความชอบธรรม เพราะสังคมไม่ยอมรับเนื่องจากเคลื่อนไหวไม่สงบ ก่อความรุนแรง
นายเทพไทกล่าวว่า ส่วนที่นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยออกมาระบุว่า รัฐบาลควรเอาเวลาไปหารายได้มากกว่าตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะดีกว่านั้น นายกฯและ ครม.ได้ทำงานหนักตลอดเวลา เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้แน่นอน เพียงแต่ขอให้คนในระบอบทักษิณยุติการเคลื่อนไหวเพื่อให้รัฐบาลนำประเทศชาติฝ่าวิกฤตไปให้ได้ อย่ามือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ทั้งนี้ความพยายามทุกวิถีทางเพื่อนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณกลับมารับโทษ เป็นการดำเนินการเพื่อรักษาหลักนิติรัฐ เมื่อคนทำความผิดย่อมต้องตามคนมารับโทษ
"พท." ชี้ขบวนการปชช.มิติใหม่
นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่ามีขบวนการจรยุทธ์ของพรรคคอมมิวนิสต์เข้ามาต่อสู้และจะใช้ความรุนแรงในเมืองว่า ความจริงแล้วคนที่เคยเข้าป่า เป็นพรรคคอมมิวนิสต์ทุกวันนี้ มีทั้งอยู่ในพรรคฝ่ายค้าน พรรคร่วมรัฐบาล ทั้งในภาคประชาชนทั้งเสื้อเหลืองและเสื้อแดง แต่จากข้อมูลเบื้องลึกแล้ว ผู้ที่เป็นผู้บริหารระดับสูงในกรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์ 7 คน ไปอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์และคนเสื้อเหลืองถึง 4 คน แต่ไม่อยู่ในเสื้อแดงแม้แต่คนเดียว เป็นการใส่ร้ายป้ายสีการเคลื่อนไหวภาคประชาชน
นายสงวนกล่าวว่า การเคลื่อนไหวของขบวนการประชาชนและถูกล้อมปราบช่วง 6 ตุลาคม 2519 จนต้องเข้าป่า แต่รวมตัวเข้ามาต่อสู้ทางการเมืองได้ในปี 2521 ต้องใช้เวลาถึง 2 ปี แต่วันนี้การเคลื่อนไหวในเมืองหลังถูกปราบปรามวันที่ 14 เมษายน แต่หลังจากนั้นใช้เวลารวมตัวกันไม่ถึง 10 วันก็เกิดขึ้นในเมืองได้ จึงถือว่าการเคลื่อนไหวในเมืองเป็นมิติใหม่ที่เข้มข้น ไม่ใช่ใครมาสร้างสถานการณ์ได้
จี้"ตุลาการ-ทหาร" กลับที่เดิม
ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่โดนกล่าวหาว่าสองมาตรฐานนั้น หากทหารมีความจริงใจและจะสร้างความสมานฉันท์โดยยึดหลักความเป็นกลางทางการเมือง เลิกแบ่งสี และแบ่งขั้ว หยุดทำร้ายประเทศไทย โดยไม่ใช่อีแอบนั้น พรรคขอเรียกร้องว่า 1.ตุลาการภิวัตน์และผู้พิพากษาต้องกลับศาล 2.ทหารกลับกรมกอง ปล่อยให้การเมืองแก้โดยการเมือง รวมทั้งผู้ใหญ่ในบ้านเมืองต้องเป็นกลางที่แท้จริงได้แล้ว หากเป็นแบบนี้ประชาชนจะยุติความแตกแยก ขอย้ำว่าการเมืองต้องการความปรองดอง ไม่ว่าจะใส่เสื้อสีอะไร หากจะให้การเมืองเดินหน้า บุคคลที่สามควรถอยออกมาและไม่ล่วงละเมิดสิทธิคนอื่น
ตร.ให้แกนนำ"ชม."แจงถูกลักตัว
วันเดียวกัน พล.ต.ต.บรรทป สุคนธมาน รอง ผบช.ภ.5 แถลงข่าวเรียกร้องให้นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำกลุ่มเสื้อแดงเชียงใหม่ที่อ้างว่าถูกกลุ่มคนมีสีอุ้มเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมาก่อนที่จะปล่อยตัวเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ แจ้งความกับพนักงานสอบสวน หากเป็นเรื่องจริงก็จะติดตามดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว แต่หากเป็นแค่การกล่าวอ้าง ไม่ใช่เรื่องจริงถือว่าเป็นการสร้างข่าวที่ทำลายภาพพจน์ของรัฐบาล ทหาร และตำรวจ
พล.ต.ต.บรรทปกล่าวว่า ไม่น่าเป็นไปได้ที่จะมีการลักพาตัวหรืออุ้มแกนนำคนเสื้อแดง หลังมีข่าวว่าตำรวจจะออกหมายจับเพิ่มเติม เพราะพนักงานสอบสวนทำทุกอย่างเปิดเผย ไม่จำเป็นต้องหลบซ่อนหรือนำตัวไปสอบลับ เพื่อปิดเรื่องอะไร ล่าสุดการดำเนินคดีกับนายเพชรวรรตนั้น ได้เรียกประชุมคณะกรรมการสอบสวนเพื่อเร่งรัดคดีให้แล้วเสร็จภายใน เดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อส่งอัยการ ซึ่งข้อหามีทั้ง จ.เชียงใหม่ และจ.ลำพูน คือการจัดให้มีการชุมนุม มั่วสุม และเป็นเจ้าของโรงแรมที่จัดให้มีการประชุมเป็นนิจ
แดงอยุธยา-ปทุมฯ-โคราชร่วม
นางมยุรี เศวตาศัย แกนนำชมรมคนเสื้อแดงอยุธยา กล่าวว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจาก จ.พระนครศรีอยุธยา กว่า 500 คน ทยอยเดินทางเข้าร่วมชุมนุมที่วัดไผ่เขียว ส่วนใหญ่สวมใส่เสื้อหลากหลายสี เนื่องจากเกรงว่าจะถูกตำรวจสกัดกั้น
นายสมบุญ ขุนทองไทย แกนนำเสื้อแดง จ.ปทุมธานี เปิดเผยว่า กลุ่มคนเสื้อแดง จ.ปทุมธานี ทั้งผู้นำชุมชน ประชาชน กำนันผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อบต.และข้าราชการ กว่า 1 พันคน ไปร่วมชุมนุมที่วัดไผ่เขียว ทุกคนสมัครใจไปด้วยตนเอง ไม่มีการว่าจ้าง ทุกคนไปเรียกร้องให้รัฐบาลบริหารจัดการที่ไม่เป็นสองมาตรฐานเหมือนที่ผ่านมา
นายลออ เปียทอง แกนนำกลุ่ม นปช.นครราชสีมา กล่าวว่า กลุ่ม นปช.นครราชสีมา ประมาณ 200 คน เดินทางไปร่วมชุมนุมที่วัดไผ่เขียว เพื่อร่วมทวงคืนระบอบประชาธิปไตยให้กับคนไทยทั้งประเทศและฟังการเปิดโปงกลลวงของรัฐบาล ตลอดจนเรียกร้องให้นำรัฐธรรมนูญฉบับ ปี 2540 ที่เป็นประชาธิปไตยมาใช้
