สุดจะทนแล้ว! ชาวบ้านกอก อาบน้ำ ดำนากลางถนนชำรุด หลังทนลำบากร่วม 20 ปี

วันที่ 22 ก.ค. 2561 สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล พร้อมผู้นำชุมชน และชาวบ้านพื้นที่บ้านกอก ม.9 ต.พุทไธสง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ได้รวมตัวกันนำแห สุ่ม และสวิงจับปลากลางถนน ทั้งนำต้นข้าวมาปักดำ และนั่งอาบน้ำกลางถนนสายบ้านท่างาม ต.พุทไธสง–บ้านแวงดง อ.ยางสีสุราช

ซึ่งเป็นถนนเชื่อมต่อ 2 จังหวัดคือ จ.บุรีรัมย์กับ จ.มหาสารคาม ที่มีสภาพชำรุดเสียหายเป็นหลุมเป็นบ่อขนาดใหญ่และมีน้ำขังตลอดทั้งสายระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร

เพื่อเป็นการประชดหน่วยงานภาครัฐให้เร่งเข้ามาสำรวจซ่อมสร้างถนนสายดังกล่าวใหม่ หลังจากที่ผ่านมาชาวบ้านต้องทนสัญจรไปมาด้วยความยากลำบาก และเกิดอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บจากการสัญจรผ่านถนนสายนี้มานานร่วม 20 ปี โดยเฉพาะบุตรหลานที่ต้องเดินทางไปเรียนยังตัวอำเภอต้องเสี่ยงอันตราย และเปรอะเปื้อนโคลน แต่ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาเหลียวแลแก้ไข

ที่ผ่านมาผู้นำชุมชน และชาวบ้านเคยไปสอบถามทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ก็ได้รับคำตอบว่าถนนสายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบ อบต. เมื่อสอบถามไปยังทาง อบจ. และทางหลวงชนบท ก็ได้รับคำตอบในลักษณะเดียวกันว่าถนนสายนี้ ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานตัวเอง

จึงอยากเรียกร้องให้ทางจังหวัด หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้ามาสำรวจว่าจริงแล้วอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานไหน และเร่งหาแนวทางช่วยเหลือโดยการสร้างเป็นถนนลาดยางใหม่ เพื่อให้สามารถสัญจรไปมาได้สะดวก ไม่เสี่ยงอุบัติเหตุ และบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วนด้วย

นางสมควร อายุ 61 ปี และนายสำรวญ อายุ 64 ปี ตัวแทนชาวบ้านพื้นที่บ้านกอก อ.พุทไธสง กล่าวว่า ถนนสายดังกล่าวมีสภาพชำรุดเสียหายเป็นหลุมเป็นบ่อตลอดทั้งสาย หน้าฝนมีน้ำขัง หน้าแล้งฝุ่นฟุ้งกระจาย

บางช่วงมีเหล็กโผล่ขึ้นกลางถนน ทำให้ชาวบ้านต้องสัญจรไปมาด้วยความยากลำบาก และเสี่ยงอันตราย เดือดร้อนมานานกว่า 20 ปี แต่ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาเหลียวแลช่วยเหลือ

ซึ่งปีที่ผ่านมาชาวบ้านต้องเรี่ยไรลงขันกันเอง เพื่อนำเงินไปซื้อหินคลุกมาเทตามจุดที่เป็น เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าแต่พอหน้าฝนก็ชำรุดเสียหายเหมือนเดิมอีก

จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ โดยสำรวจซ่อมสร้างถนนลาดยางให้ใหม่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ที่ใช้ถนนสายดังกล่าวด้วย

ด้านนางวนิดา กิจไธสง สมาชิก อบต.พุทไธสง กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนชาวบ้านหลังรับทราบปัญหาความเดือดร้อนในการใช้ถนนสัญจรไปมา ถนนที่ชำรุดเสียหายเป็นหลุมเป็นบ่อเกือบตลอดทั้งสาย ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจที่ผ่านมาก็สอบถามไปยัง อบต. และหน่วยงานระดับจังหวัดแล้ว

แต่ก็ไม่มีหน่วยงานใดแสดงความรับผิดชอบว่าถนนสายดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของตัวเอง จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ทราบชัดเจนว่าถนนสายนี้อยู่ในความดูแลของหน่วยใด

ชาวบ้านจึงได้ร่วมกันออกมาร้องเรียนเพื่อสะท้อนให้ถึงความลำบาก พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าสำรวจช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านโดยเร่งด่วนด้วย