บุกทลาย "แหล่งชำแหละรถยนต์" รายใหญ่ รวบสามพ่อลูกครอบครัวโจร!

นครบาลบุกทลายแหล่งชำแหละรถยนต์รายใหญ่ย่านบางปะกง รวบสามพ่อลูกครอบครัวโจรได้ยกแก๊ง อึ้ง! เช่าบ้านหรูบังหน้า พบของกลางรถยนต์ถูกสับเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่และสวมแผ่นป้ายทะเบียน 4 คัน ซากชิ้นส่วนรถยนต์ถูกชำแหละแล้วมากถึง 9 คัน

วันที่ 23 ก.ค. 61 เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลนำโดย พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง บบ.ช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส. บช.น. ได้นำกำลังจำนวนกว่า 50 นายบุกเข้าตรวจค้นยังบ้านพักหรู ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางโค้งท่าไข่ ริมถนนสิริโสธร (314) ฉะเชิงเทรา-บางปะกง ห่างจากสี่แยกท่าสะอ้านเพียง 500 เมตร

ก่อนพบของกลางเป็นชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์กระบะยี่ห้อดังเป็นจำนวนมาก และรถยนต์กระบะที่ยังไม่ได้ถูกแยกชิ้นส่วนอีกจำนวน 4 คัน สามารถทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาได้จำนวน 3 คน ประกอบด้วย นายธีรภัทร อายุ 58 ปี นายจิรยุทธ อายุ 32 ปี และนายสงกรานต์ อายุ 18 ปี สามพ่อลูก และครอบครัวซึ่งเป็นภรรยาและบุตรสาวของนายธีรภัทรและนายจิรยุทธ อยู่ในบ้านอีก 3 คน

ซึ่งทั้งสามคนได้ให้การรับสารภาพว่าได้ออกตระเวนโจรกรรมรถยนต์ทั้งหมดนี้มาจาก จ.นครปฐม และสมุทรปราการ ด้านฝั่ง อ.พระประแดง และ กทม. ย่านฝั่งธนบุรี

โดยสาเหตุที่โจรกรรมแต่เพียงรถยนต์กระบะยี่ห้อนี้เพียงยี่ห้อเดียว เพราะระบบกุญแจล็อกนั้นสามารถทำลายได้ง่าย เพียงใช้เหล็กแข็ง โดยจะเลือกก่อเหตุเฉพาะรถที่ไม่ได้มีการติดตั้งระบบสัญญาณกันขโมยเพิ่มเติม

ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร รอง ผบช. ภ.2 และ พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะกง และเจ้าหน้าที่จากกองกำกับการสืบสวน ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้เดินทางมาร่วมทำการตรวจสอบยังในที่เกิดเหตุด้วย 

ผู้ต้องหารายนี้เพิ่งหลบหนีการประกันตัวมาจากศาลอาญาธนบุรีในคดีโจรกรรมรถเมื่อปี 2560 และมาเช่าบ้านพักหลังดังกล่าวนี้อยู่ได้เพียง 3 เดือน ก่อนที่จะหวนกลับไปก่อเหตุโจรกรรมรถ และนำกลับมาชำแหละชิ้นส่วนอะไหล่ขายยังที่บ้านหลังนี้ จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลขยายผลติดตามมาจับกุมตัวได้ในที่สุด

ขณะเดียวกันชาวบ้านข้างเคียงเล่าว่า เดิมบ้านหรูหลังนี้เป็นของ นางโก้ ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจรถน้ำ โดยวิ่งขนส่งน้ำทะเลไปขายให้ยังบ่อเลี้ยงกุ้งเลี้ยงปลากะพง ต่อมาได้ป่วยและเสียชีวิตลงไปด้วยโรคชรา จึงไม่มีใครเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ เนื่องจากบุตรหลานได้แยกย้ายไปอยู่ที่อื่นกันหมด

จึงได้มีการติดป้ายประกาศขายบ้านหลังนี้บนเนื้อที่ประมาณ 3 งาน ในราคาหลายล้านบาทเมื่อหลายปีก่อน แต่ยังไม่มีใครมาซื้อ จนมีคนเข้ามาเช่าอาศัยอยู่แต่ชาวบ้านไม่ทราบว่าคนเช่านั้นเป็นใคร จนมาทราบว่ากลายเป็นแหล่งชำแหละรถยนต์รายใหญ่หลังจากที่ตำรวจเข้ามาบุกทลายจับกุมได้ในวันนี้