"ทอมทำร้ายแฟน" อ้างไม่ได้คิดหนี แค่กลับไปพักผ่อนที่บ้าน จ.สุโขทัย
จากกรณีที่สังคมออนไลน์ได้เผยแพร่คลิปภาพเหตุการณ์สาวทอมโหด ทำร้ายแฟนสาวจนได้รับบาดเจ็บ และมีการแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.พหลโยธินนั้น
ต่อมา พ.ต.ท.ประดล สำคัญ รองผกก.สส.สภ.บ้านแก่ง อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ศิริโชติ ธเนศราภา ผกก. เดินทางไปบ้านหมู่ 10 ต.สารจิตร อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย เพื่อพูดคุยกับ น.ส.กาญจนา อายุ 27 ปี สาวทอม และครอบครัว พร้อมขอเชิญตัวไปยังโรงพัก ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
น.ส.กาญจนา กล่าวกับเจ้าหน้าที่ว่า หลังเกิดเหตุไม่ได้คิดจะหลบหนีไปไหน เพียงขอเวลามาเก็บของ และได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธินแล้ว จากนั้นจึงเดินทางกลับมาพักผ่อนอยู่บ้านที่ จ.สุโขทัย และหากมีการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน ตนก็พร้อมเข้าพบ
ซึ่งในขณะอยู่ที่ห้องสอบสวน สภ.บ้านแก่ง นางสาวกาญจนามีสีหน้าเคร่งเครียด และไม่ขอพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต่อมาเจ้าหน้าที่แสดงหมายจับให้ทราบ และควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน เพื่อดำเนินคดีต่อไป
>> เหยื่อทอมโหดเล่านาทีเอาตัวรอด ถูกทำร้ายสาหัส ไม่มีเวลาร้องขอชีวิต
>> สาวชุดดำเผยนาทีช่วย "น้องฟาง" แฉสาวทอมโหดกระทืบสาหัส ยังอ้าง "แค่นี้ไม่แรง"
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างนำตัวมาที่ สน.พหลโยธิน และเมื่อเดินทางมาถึงจะให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำถึงสาเหตุที่ทำร้าย และขอประชุมพนักงานสอบสวนก่อนว่าในวันพรุ่งนี้จะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเลยหรือไม่ เบื้องต้น แจ้งข้อหาทำร้ายผู้อื่นได้รับอันตรายบาดเจ็บสาหัส
คดีนี้ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. เร่งรัดมาและมอบหมายให้มาทำคดี มีการประสานกับหลายฝ่าย ยืนยันดำเนินคดีแบบรอบคอบตรงไปตรงมา
ส่วนคนที่อยู่ในเหตุการณ์แล้วไม่ช่วยผู้เสียหาย จากภาพในคลิป รองผบช.น. ชี้แจงว่า จากการสอบปากคำพยาน ไม่พบว่าเพิกเฉย ทุกคนพยายามที่จะช่วย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รปภ.เห็นตั้งแต่ตอนทำร้ายร่างกาย และมาห้ามปราม แต่ผู้ต้องหาห้ามไม่ให้มายุ่ง จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนผู้ชายที่อยู่ในคลิปอ้างว่าไม่สามารถออกมาช่วยๆได้เพราะไม่มีคีย์การ์ด พร้อมทั้งชื่นชมหญิงสาวคนที่มาช่วยผู้เสียหาย รองผบช.น. อธิบายคดีอื่นๆ หากคนที่อยู่ในเหตุการณ์แล้วไม่ช่วยจะมีความผิดหรือไม่ว่าต้องดูเจตนา เช่น เห็นคนจมน้ำแต่ว่ายน้ำไม่เป็น ก็ไม่มีความผิด แต่หากเจอเหตุเฉพาะหน้าสามารถช่วยได้ แต่ไม่ช่วย อาจจะมีความผิดในคดีลหุโทษ