"เจ็ง" เผยชีวิตคู่เกือบพัง ถูกต่อว่าแรงไม่เหมาะเป็นเมีย "พีท" จนเป็นโรคซึมเศร้า
หากเอ่ยชื่อ พีท ทองเจือ คงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเขาคือพระเอกดังในอดีต และตอนนี้ผันตัวไปเป็นนักแข่งรถ แต่เจ้าตัวก็ยังรับงานละครให้แฟนๆ ได้กรี๊ดกันอยู่บ้าง ซึ่งน้อยคนนักที่จะรู้ว่าภรรยานอกวงการ เจ็ง วิไลลักษณ์ ที่แต่งงานกันมานานถึง 18 ปี ต้องเจอกับแรงกดดันต่างๆ ทั้งเรื่องท้องก่อนแต่ง และหน้าตาที่ไม่เหมาะสมกับระดับพระเอก จนเกือบจะเป็นโรคซึมเศร้ากันเลยทีเดียว
ล่าสุด ทั้งคู่ได้ควงแขนกันมาเปิดใจผ่านทางรายการคุยแซ่บ Show ถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา 18 ปี กว่าจะจับมือกันมาถึงวันนี้ได้พวกเขาเจออุปสรรคอะไรกันมาบ้าง
บทบาทในเรื่องเมีย 2018 เป็นยังไงบ้าง
พีท : "คาแรคเตอร์ก็คือ เรื่องที่เกิดขึ้นมันเกิดที่บริษัทเรา คาแรคเตอร์ตัวนี้ไม่ใช่คาแรคเตอร์หลัก แต่ด้วยกระแสที่ออกมาต้องขอบคุณคนเขียนบทที่ทำให้บทไปโดนใจผู้ชายและสุภาพสตรีที่ดูอยู่ ซึ่งทางช่องก็มีการปรับและเพิ่มบทให้เล่นเรื่อยๆ"
พี่พีทแซ่บขนาดนี้หวงบ้างไหม
เจ็ง : "มีบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าห่วงจริงๆ ก็คงเป็นเรื่องสุขภาพ"
พี่เจนได้ดูเรื่องเมีย 2018 ไหม
เจ็ง : "ตอนแรกไม่ได้ดู เพราะเห็นว่าละครยังถ่ายไม่จบ แต่พอเราออกไปข้างนอกก็มีแต่คนพูดถึงเยอะก็เลยกลับมาดูย้อนหลัง"
แล้วชอบตัวละครไหนในเรื่องไหม
เจ็ง : "ก็ต้องชอบคุณสุชาติสิ"
ความรักเข้าปีที่ 18 แล้วใช่ไหม เจอกันที่ไหน
พีท : "เราเจอที่สยาม วันนั้นเราไม่ได้ถ่ายละครก็เลยไปช้อปปิ้ง ก็เจอกันเขาก็มากับน้อง แล้วเราก็ขอเบอร์เขามา แต่เขาก็ให้เบอร์แม่เขามา"
แล้วทำไมให้เบอร์แม่ไป
เจ็ง : "ตอนนั้นเราเรียนที่ออสเตรเลีย และกลับมาช่วงซัมเมอร์ มันไม่มีโทรศัพท์ใช้ก็เลยให้เบอร์แม่ไป แต่สักพักเราก็กลับไปเรียนต่อ แต่ก็คุยกันตลอด"
กลัวเรื่องความเจ้าชู้ของพีทไหม
เจ็ง : "กลัวนะ อันดับแรกเพื่อนเตือนก่อนเลย เพื่อนบอกอย่ายุ่งพี่พีทเจ้าชู้ เขาก็เล่าให้ฟัง เราก็กลัวนะแต่ด้วยนิสัยส่วนตัวจะต้องรู้เองด้วยไม่ใช่ฟังคนอื่นมา ก็เลยให้โอกาสคุยกัน เขาก็พูดบ่อยว่าแต่งงานกันเถอะ เราก็ฟังนะแต่ไม่เชื่อหมด เพราะว่าตลอดเวลาที่คบกันเราค่อนข้างมีกำแพง เพื่อไม่ให้ตัวเองเสียใจ"
พอคบกันปีนิดๆ ก็แต่ง คนเลยคิดว่าท้องก่อนแต่งหรือเปล่า
เจ็ง : "มันมีสารพัด ทั้งท้องแน่นอน แต่งสักพักเดี๋ยวก็เลิกกัน"
กดดันไหม
เจ็ง : "กดดันนะ เพราะเจ็งไม่ใช่คนของประชาชนไม่ได้อยู่ในวงการนี้เลย ในช่วงนั้นคือเรารับไม่ได้ในระดับหนึ่งแต่ว่าเราใช้วิธีไม่ดูข่าว ตัวพี่พีทเองก็ไม่เอาข่าวมาให้ดูเท่าไหร่ ก็ผ่านช่วงที่แต่งงานไปได้ แต่มีเหตุการณ์แรงๆ ช่วงที่มาใช้ชีวิตด้วยกันนี่แหละ"
แล้วที่โดนวิจารณ์ว่าไม่สวย ไม่เหมาะสมกับพี่พีทตอนนั้นรู้สึกยังไงบ้าง
เจ็ง : "รู้สึกแย่ จริงๆ ตอนนั้นเราเพิ่งเรียนจบเมืองนอกมันก็รู้สึกอ้วนกว่านี้ มันก็อาจจะมีกระแสว่าสาวนอกวงการใครก็ไม่รู้ไม่ใช่ดารา ไม่ใช่นางแบบ หุ่นก็ไม่ดี สารพัด เคยถึงขนาดออกไปเที่ยวด้วยกันเดินด่าอยู่ข้างหลัง ว่าเมียพีทไม่เห็นสวยเลย คือโดนจนรู้สึกจิตตกกลายเป็นโรคซึมเศร้า ในใจเราก็คิดว่า เราก็ไม่ได้ขี้เหร่ขนาดนั้น โปรไฟล์ก็ไม่ได้แย่ ครอบครัวก็ฐานะโอเค ทำไมต้องมาทนให้คนด่า ความรู้สึกตอนนั้นคือเก็บกด"
แล้วมันกระทบความสัมพันธ์ขนาดไหน
พีท : "คือจริงๆ จะบอกเขาว่าเราใช้ชีวิตของเรา เราไม่ควรที่จะไปเอาความคิดของคนอื่นมาเป็นตัวกำหนดในการดำเนินชีวิตของเรา ก็พยายามบอกเขา"
แต่ก็มีคำนี้หลุดออกมานะ "เลิกกันเถอะ"
เจ็ง : "ใช่ เวลาทะเลาะกันเจ็งจะเป็นคนที่อารมณ์จะแรง ทะเลาะกันจนเราทนไม่ไหวก็เลยบอกว่าเลิกกันเถอะ เจ็งไม่เหมาะกับพี่พีทเลย"
พีท : ก็รู้ว่าเขาท้อ โดนกดดันเยอะ เราไม่ได้ยึดติดตรงนั้น เป็นผู้ชายก็ต้องเข้มแข็งและมั่นคง ต้องแสดงให้เขาเห็นว่าเราไม่อ่อนไหวกับความรู้สึกที่เขาเป็น และทำให้เขารู้สึกเหมือนเราให้ได้ สุดท้ายเขาก็ผ่านมันไปได้
ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน คำว่าเลิก ออกมาจากปากใคร
เจ็ง : "เจ็งคนเดียวเลย"
พีท : "ผู้หญิงมันเซนซิทีฟ"
แล้วพี่พีทรั้งไว้ยังไง
พีท : "ก็อย่างที่บอกเราเป็นผู้ชายต้องหนักแน่น แต่เวลาที่เขาใจร้อนจะคุยยากนิดนึง เราต้องเป็นน้ำเย็นรับฟังไปก่อน"
เมีย 2018 พี่ต้องอยู่ในสภาวะนั้นไหม
เจ็ง : "จริงๆ พอดูละครมันก็ใกล้เคียงกับชีวิตเรานะ คือหมายถึงว่าเบสิกทั่วๆ ไปถ้าตัดเรื่องคุณพระเอกไปมีคนอื่นก็คือชีวิตเรานี่แหละ คือแต่งงานมาชีวิตเราก็คือทำอะไรเพื่อเขา พอมีลูกก็ทำอะไรเพื่อลูก คือเราไม่ได้ใช้ชีวิตของเราเต็มร้อย"
แล้วเวลาเขาแข่งรถต้องตามไปด้วยไหม
เจ็ง : "ไปค่ะ คือจริงๆ ไลฟ์สไตล์ชีวิตคู่ตั้งแต่ยังไม่มีลูกเขาจะหนีบเจ็งไปไหนด้วยตลอด แต่พอมีลูกก็มีบ้างที่เขาไปคนเดียว แต่ชีวิตส่วนใหญ่เราจะไปด้วยกัน"
ด้วยเสน่ห์ของพี่มันต้องมีคนอยากเข้ามาบ้างแหละ
พีท : เข้ามาแต่เขาไม่กล้าทำอะไรมากเท่าไหร่ เต็มที่ก็คุยนิดหน่อย แต่ถ้าอยู่ข้างนอกจะไม่ค่อยพูดเท่าไหร่ ถามคำ ตอบคำเขาก็บุกอะไรไม่ได้มาก แต่ถ้าหนักๆ เจ็งก็จะยื่นคำขาดว่าห้ามถ่ายรูปกับพริตตี้"
เจ็ง : เหตุการณ์ที่ห้ามถ่ายรูป เพราะว่ามีบางคนที่เขาถ่ายและไปโพสต์ประมาณเชิงชู้สาว เพื่อนเราส่งมาให้ดูเราก็ไปถามเขา เขาก็บอกว่าไม่มีอะไร ถ่ายรูปเฉยๆ"
ทำยังไงไม่ให้หวั่นไหวกับพริตตี้
พีท : มันเห็นจนชินครับ แต่บางทีก็กวนสมาธิมาก คืออยู่ในรถเตรียมออกสตาร์ทแล้วจะมีน้องๆ ถือป้ายเดินไปเดินมา เพราะตอนนั้นเรากำลังคิดว่าออกไปจะขับยังไงดี
พี่พีทสาบานไหมว่ารักพี่เจ็งมาก รักคนเดียว ไม่เคยวอกแวก
พีท : "ได้ครับ"
ติดตามรายการคุยแซ่บ Show ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 14.00-15.00 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บ Show รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
อัลบั้มภาพ 14 ภาพ