รวบอันธพาลครองเมือง ยกพวกตีกลางข่วงประตูท่าแพ เผยเป็นกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่น-โจ๋ไทใหญ่

จากกรณีที่โลกโซเชียลได้มีการแชร์คลิปเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นประมาณ 3-4 คน ก่อเหตุทะเลาะวิวาท และใช้อาวุธทำร้ายร่างกายกันบนลานท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงค่ำคืนของวันที่ 23 ก.ค. 61 ที่ผ่านมา ขณะที่บริเวณในที่เกิดเหตุมีประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก

และเมื่อเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปบนโลกโซเชียลส่งผลทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้นจำนวนมาก และได้มีการเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ได้เร่งติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดี 

ล่าสุดช่วงเย็นวานนี้  ( 24 ก.ค. 61 ) โดยการอำนวยการของ  รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ และ พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ ศรีประเสริฐ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ เร่งสืบสวนเบาะแสของกรณีที่เกิดขึ้น 

จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ได้ทั้งหมด โดยทราบว่า ผู้ต้องหามีด้วยกันทั้งหมด 4 คน  จนสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดได้ที่บริเวณ ร้านดอกไม้  อำเภอเมือง  จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองเชียงใหม่

ทั้งนี้จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งเป็นเยาวชนชาวไทย และมีเพื่อนเป็นกลุ่มชาวไทใหญ่ ได้ขับรถเที่ยวเล่นไปตามถนนรอบเมืองเชียงใหม่ โดยเมื่อถึงจุดเกิดเหตุ ทางกลุ่มผู้เสียหายซึ่งเป็นชาวไทใหญ่ซึ่งมีจำนวนมากกว่าได้ตะโกนท้าทาย ด้วยความโมโหทางกลุ่มของตนจึงได้จอดรถ ก่อนจะวิ่งเข้าไปชกต่อยกัน

โดยหลังจากเกิดเหตุ ตนได้ขับรถกลับไปพักผ่อนยังที่พัก จนกระทั่งช่วงเช้าถึงทราบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากลางดึกที่ผ่านมากลายเป็นกระแสดังทางโลกโซเชียล จนสุดท้ายทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมตัวไว้ได้ในที่สุด แม้ว่าทางตำรวจจะไม่ได้รับแจ้งความจากเจ้าทุกข์ แต่ก็ส่งตัวดำเนินคดีในข้อหาสร้างความเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณะ ขับขี่รถประมาทหวาดเสียว คนต่างด้าวไม่พกบัตรสำคัญประจำตัว กับกลุ่มผู้ก่อเหตุไว้เบื้องต้นพร้อมทำประวัติไว้

ทางด้าน พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ ศรีประเสริฐ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังจากที่พบว่า มีการนำเรื่องราวและคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวไปเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย ทางตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่และตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด ยืนยันว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเข้มงวดตรวจตราเฝ้าระวังตามจุดเสี่ยงต่างๆ อยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการป้องปรามและป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น

ซึ่งเหตุครั้งนี้เป็นเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และไม่มีสิ่งบอกเหตุมาก่อน จึงทำให้ไม่สามารถป้องกันได้  อย่างไรก็ตามจากนี้จะกำชับให้เจ้าหน้าที่สายตรวจเพิ่มความเข้มงวดยิ่งขึ้น 

ตามปกติในพื้นที่ไม่ค่อยจะมีเหตุทะเลาะวิวาทรุนแรงของกลุ่มวัยรุ่น อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปพบว่ากลุ่มวัยรุ่นในเชียงใหม่ที่มักจะมีการรวมกลุ่มมั่วสุมกันนั้นแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ และกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงาน ซึ่งกลุ่มที่มีปัญหาส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวัยรุ่นต่างด้าว โดยที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการประสานการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่องในการปูพรมออกตรวจตรากวาดล้างจุดมั่วสุมต่างๆ