บั้งไฟพุ่งตัดหัวหนุ่มสกลนครขาด
หนุ่มสกลนคร นั่งก๊งเหล้ากับเพื่อนกลางงานบุญบั้งไฟในเขตห้ามเข้า เจอบั้งไฟพุ่งใส่จนตกลงไปในน้ำ เพื่อนช่วยกันดึงร่างขึ้นมาถึงกับผงะ มีแต่ตัวไม่พบศีรษะ เจ้าหน้าที่มูลนิธิลงงมหาศีรษะพบเศษชิ้นส่วนกะโหลกแตกกระจัดกระจาย
เหตุการณ์สุดสยองหนุ่มนั่งก๊งเหล้าถูกบั้งไฟพุ่งตัดหัวขาด รายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 11 พฤษภาคม พ.ต.ท.ภาณุพล เรพล สารวัตรใหญ่หัวหน้า สภ.ดงมะไฟ อ.เมือง จ.สกลนคร รับแจ้งจากชาวบ้านดงขวาง ว่า มีคนถูกบั้งไฟพุ่งชนเสียชีวิต จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.อุดม จำปาจันทร์ ผบก.ภ.จว.สกลนคร และเจ้าหน้าที่เมตตาธรรมมูลนิธิออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านจำนวนมากอยู่ที่ริมสระน้ำ บริเวณทุ่งนาบ้านดงขวาง หมู่ 3 ต.ดงมะไฟ ซึ่งกำลังมีการจัดงานบุญบั้งไฟประจำปี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณฐานจุดบั้งไฟประมาณ 50 เมตร พบร่างชายนอนเสียชีวิต ในสภาพหันมาทางฐานจุดบั้งไฟ ใต้ต้นพุทราข้างสระน้ำ ผู้ตายสวมเสื้อแขนยาวสีน้ำตาล กางเกงยีน โดยไม่มีส่วนของศีรษะ
ใกล้กันพบบั้งไฟยาวประมาณ 3 เมตรจมอยู่ริมสระน้ำ ส่วนหัวบั้งไฟ ซึ่งทำด้วยท่อพลาสติกพีวีซี มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 3-4 นิ้ว ยาวประมาณ 50 เซนติเมตร มีร่องรอยการระเบิด เจ้าหน้าที่เมตตาธรรมมูลนิธิ จึงลงน้ำเพื่อหาชิ้นส่วนศีรษะ จนพบเศษชิ้นส่วนทั้งกะโหลก กรามฟัน และชิ้นส่วนหนังศีรษะซึ่งมีเส้นผมติดอยู่จมใกล้กับจุดที่พบบั้งไฟ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายปรีดา วงนาตาล อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 หมู่ 4 ต.บึงทวาย อ.เต่างอย จ.สกลนคร
จากการสอบถามนายศักดา ดวงสุภา ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการจัดงานบุญบั้งไฟประจำปีของชาวบ้านดงขวาง ซึ่งมีประชาชนร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยก่อนเกิดเหตุชาวบ้านได้ปล่อยบั้งไฟขึ้นสู่ท้องฟ้าไปแล้ว 2 ลูกโดยไม่มีปัญหา และเมื่อจุดลูกที่ 3 บั้งไฟลูกดังกล่าวได้พุ่งออกจากฐานจุดออกไปด้านขวาในแนวราบ โดยไม่พุ่งขึ้นท้องฟ้า และส่ายไปมาจนพุ่งใส่กลุ่มวัยรุ่นประมาณ 6-8 คน ที่นั่งดื่มสุราอยู่ริมสระน้ำ ห่างออกไปจากจุดปล่อยบั้งไฟราว 50 เมตร ซึ่งเป็นเขตแนวกั้นหวงห้ามประชาชนเข้าไปนั่งอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันอันตราย แต่กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวไม่เชื่อการเตือนของผู้จัดงาน โดยไม่คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งบั้งไฟลูกดังกล่าวได้พุ่งชน ทำให้คนในวงเหล้าแตกกระเจิง
ส่วนนายปรีดา ผู้ตาย ซึ่งนั่งหันหลังให้สระน้ำพอดี อาจหลบไม่ทัน เนื่องจากวิถีการพุ่งชนของบั้งไฟมีความเร็วประมาณ 3-4 วินาทีจากจุดปล่อย และพุ่งเข้าใส่ร่างนายปรีดา จนตกลงไปในสระน้ำ เมื่อบั้งไฟตกลงไปในน้ำ เพื่อนๆ ที่อยู่ด้วยกันจึงวิ่งกลับมาดึงนายปรีดา ขึ้นจากน้ำ แต่แล้วก็ถึงกับตกตะลึงเมื่อไม่พบส่วนหัวของนายปรีดา จึงรีบมาบอกเจ้าหน้าที่ และชาวบ้านในบริเวณจัดงานครั้งนี้ เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกข้อมูลจากผู้จัดงาน และผู้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวโดยละเอียด เพื่อตรวจสอบว่าสาเหตุการตายเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ หรือจากการประมาทของผู้ตายเอง พร้อมกับนำศพส่งตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลสกลนครต่อไป