รันทดดช.กำพร้าถือรูป ไล่ถามหาพ่อชาวญี่ปุ่น
สลดเด็กชายกำพร้าวัย 9 ขวบ ถือรูปพ่อชาวญี่ปุ่น วิ่งไล่ถามนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่มาเที่ยววัดดังเมืองพิจิตรรู้จักพ่อไหม สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้พบ เห็น หนูน้อยเผยแม่เพิ่งป่วยตายไป ทิ้งไว้แต่รูปถ่ายพ่อที่ตัวเองไม่เคยเห็นตัวจริง เลยอยากเห็นหน้าพ่อ อยากให้พ่อมาช่วยเหลือ แต่ที่ผ่านมา ยังไม่มีวี่แววจะเจอ ทางด้านป้าที่รับอุปการะ เผยเรื่องราว แม่เด็กทำงานอยู่กทม. เคยพาสามีญี่ปุ่นมาเที่ยวบ้านพิจิตร ก่อนกลับมาอีกทีเอาทารกน้อยมาทิ้งไว้ให้ญาติๆ ช่วยเลี้ยง ก่อนล้มป่วยจนเสียชีวิตเมื่อเดือนก่อน ก่อนสิ้นใจเพ้อ ถึงสามีญี่ปุ่น ทั้งบอกให้ลูกรอหน้าโบสถ์ สักวันจะเจอพ่อ
เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ผู้สื่อข่าวทราบว่า มีเด็กชายลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น วัย 9 ขวบ เดินโชว์ภาพชาวญี่ปุ่น ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่าเป็นพ่อแท้ๆ บริเวณหน้าอุโบสถวัดท่าหลวงพระอารามหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร เที่ยวสอบถามกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เป็นชาวเอเชีย ที่เดินทางมากราบไหว้หลวงพ่อเพชร วัดท่าหลวง ที่เป็นพระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองพิจิตร ว่ารู้จักพ่อหนูหรือไม่ เพราะแม่ที่เป็นคนไทยเสียชีวิตไปหลายเดือนแล้ว อยากเจอพ่อที่เป็นคนญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวที่พบเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวต่างรู้สึกรันทดใจไปตามๆ กัน
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ได้พบ ด.ช.เคอิโงะ ซาโต ชื่อเล่น เคโงะ อายุ 9 ปี ซึ่งเล่าเรื่องราวชีวิตของตนให้ฟังว่า มีแม่ชื่อ นางทิพย์มณฑา ซาโต อายุ 33 ปี เสียชีวิตไปแล้วเมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ด้วยโรคร้าย ส่วน พ่อชื่อนายคัทซูมิ ซาโต เป็นชาวญี่ปุ่น ได้ทิ้งแม่ไปตั้งแต่ตนยังเล็กๆ อยู่ หลังจากแม่เสียชีวิต ต้องมาอาศัยอยู่กับป้าชื่อ นางปัทมา จตุพิศ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 686 ถ.บุษบา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิจิตร อาชีพขายปลาปล่อยหน้าโบสถ์วัดท่าหลวงพระอารามหลวง อ.เมืองพิจิตร มีฐานะยากจน
หนูน้อยเคโงะเล่าต่อว่า หลังจากนางปัทมา ผู้เป็นแม่เสียชีวิตลง ตนมาช่วยป้าขายปลาปล่อยอยู่หน้าวัด ปัจจุบันเรียนหนังสืออยู่โรงเรียน ท่าหลวงสงเคราะห์ กำลังขึ้นชั้น ป.4 ทุกวันจะ นั่งหน้าอุโบสถหลวงพ่อเพชร วัดท่าหลวงพระอารามหลวงทุกวัน พร้อมถือรูปพ่อชาวญี่ปุ่นที่เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่แม่ให้ไว้ก่อนตาย สอบถามกับรถทัวร์ที่พานักท่องเที่ยวต่างชาติมาลง โดยจะถามก่อนว่าเป็นรถชาวญี่ปุ่นหรือเปล่า ถ้าใช่ ก็จะถามนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นว่ารู้จักพ่อตนไหม พร้อมกับโชว์รูปให้ดู ก็ไม่มีวี่แววจะมีใครรู้จักพ่อ ตนอยากเห็นหน้าอยากรู้จักพ่อผู้ให้กำเนิด เพราะตั้งแต่เกิดมาก็เห็นแต่ในภาพเท่านั้น ยังไม่เคยเห็นตัวจริง และยังอยากให้พ่อมารับผิดชอบและช่วยเหลือตนด้วย
ทางด้านนางปัทมา ป้าของเคโงะ เปิดเผยว่า นางทิพย์มณฑา น้องสาวตน ออกจากบ้านไปตั้งแต่เป็นสาวอายุราว 15-16 ปี บอกเพียงว่าไปทำงานในกรุงเทพฯ จากนั้นก็หายไป กลับมาอีกทีก็อุ้มท้องมาบ้านที่พิจิตร พร้อมกับสามีซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่นชื่อ นายคัทซูมิ ซาโต มาหาพ่อชื่อนายปรีชา จันทร์ประทุม อายุ 60 ปี ปัจจุบันป่วยเป็นอัมพาตมากว่า 5 ปีแล้ว แนะนำสามีให้รู้จักกับพ่อและคนในครอบครัว จากนั้นก็หายไปอีก 3-4 ปี กลับมาอีกครั้งตอนประมาณพ.ศ.2543 คราวนี้นางทิพย์มณฑาหอบเอาลูกชายที่เกิดกับนายคัทซูมิมาด้วย เป็นทารกอายุเพียง 4 เดือน มาทิ้งไว้ให้ญาติๆ ที่พิจิตรเลี้ยงดู โดยไม่ยอมบอกว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วก็กลับไปทำงานแถวสถานบันเทิงในกรุงเทพฯอีก โดยส่งเงินมาให้ทางบ้านเพียง 2-3 ครั้ง เป็นค่านมลูกแล้วก็ขาดการติดต่อไป จนกระทั่งปี 2545 นางทิพย์มณฑา กลับมาพิจิตรเพื่อเยี่ยมลูกเป็นครั้งสุดท้าย ในคราวนั้นลูกอายุได้ 3 ขวบ แล้วก็เงียบ หายไป
นางปัทมา กล่าวอีกว่า กระทั่งวันสงกรานต์ ปี 2551 นางทิพย์มณฑากลับมาบ้าน ซึ่งล้มป่วยรุนแรง โดยนางทิพย์มณฑามักจะกอดลูกและพร่ำเพ้อถึงพ่อชาวญี่ปุ่นให้ลูกฟัง บอกว่าพ่อจะต้องกลับมาหาลูก จะต้องมาที่วัดท่าหลวง ซึ่งเป็นที่สาบานรักระหว่างแม่กับพ่อ ซึ่งลูกชายก็เฝ้า ปรนนิบัติแม่ คอยป้อนข้าวป้อนน้ำ เช็ดสิ่งขับถ่าย ให้กำลังใจแม่ไม่ห่างกาย
จน เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา นางทิพย์มณฑา มีอาการหนักใกล้ตาย เพ้อละเมอเรียกหาสามีชาวญี่ปุ่น แล้วสั่งเสียลูกก่อนตาย บอกให้รอพ่อที่หน้าอุโบสถวัดท่าหลวงพระอารามหลวง จะได้เจอพ่อชาวญี่ปุ่น ทั้งๆ ที่เรื่องจริงไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะนางทิพย์มณฑาขณะนั้นสติไม่อยู่กับร่องกับรอย แต่ก็เป็นความหวังเดียวของ ด.ช.เคโงะที่จะได้พบพ่อ จากนั้นนางทิพย์มณฑา ก็สิ้นใจไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด.ช.เคโงะยังเฝ้ารอพ่อที่หน้าโบสถ์ ตามคำสั่งเสียของแม่ พร้อมวิงวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยดลบันดาลให้ได้เจอพ่อ ผู้มีจิตเมตตาสามารถติดต่อช่วยเหลือเด็กกำพร้าคนนี้ได้ ด้วยการวิธีบริจาคผ่านบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยแฮปปี้ พลาซ่า (พิจิตร) ชื่อบัญชี ด.ช.เคอิโงะ ซาโต บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 401-455925-7