เค้นสอบสวน อดีตผู้ใหญ่บ้าน ผู้ต้องหาข่มขืนสาวม้ง ยังปฏิเสธไม่ได้ทำ

เค้นสอบสวน อดีตผู้ใหญ่บ้าน ผู้ต้องหาข่มขืนสาวม้ง ยังปฏิเสธไม่ได้ทำ

เค้นสอบสวน อดีตผู้ใหญ่บ้าน ผู้ต้องหาข่มขืนสาวม้ง ยังปฏิเสธไม่ได้ทำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจ ปคม. คุมเค้นสอบอดีตผู้ใหญ่บ้านข่มขืนสาวม้งสอบปากคำ เจ้าตัวอ้างไม่ได้ข่มขืน

ตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ ปคม. คุมตัว นายนพดล นวอริยะ อายุ 42 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดลำปาง ในข้อหาข่มขืน สาวม้ง อายุ 22 ปี ชาวจังหวัดลำปาง มายังกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อสอบปากคำ

กรณีตกเป็นผู้ต้องหาข่มขืนสาวม้งและถ่ายภาพไว้จนหญิงสาวอับอาย กินยาฆ่าแมลง ฆ่าตัวตาย โดยหญิงสาวถูกส่งไปรักษาตัวที่ โรงพยาบาลลำปาง ล่าสุดเสียชีวิตแล้ว เมื่อคืนวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังตำรวจภูธรจังหวัดตาก และตำรวจ ปคม. จับกุมนายนพดล ได้ในที่พื้นที่จังหวัดตาก ก่อนจะนำตัวไปตรวจค้นที่บ้านพักในเขตอำเภอพบพระ จังหวัดตาก

>> รวบแล้ว! อดีตผู้ใหญ่บ้านข่มขืนสาวม้ง สีหน้าเรียบเฉย บอกจะมอบตัวอยู่แล้ว

ขณะที่ นายนพดล ยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ข่มขืน แต่ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับและรู้จักกับสาวม้งคนดังกล่าวจริง อ้างว่ารู้จักฝ่ายหญิงผ่านเฟซบุ๊กนาน 20 วัน ก่อนที่เขาจะนัดเจอกับหญิงสาวที่สถานีขนส่งจังหวัดลำปางเพื่อนำยาสมุนไพรให้ที่จังหวัดลำปาง

จากนั้นพากันเข้าโรงแรมและมีเพศสัมพันธ์กัน โดยที่ฝ่ายหญิงยินยอม ซึ่งระหว่างที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม มีชายคนหนึ่งทักข้อความในแชทของฝ่ายหญิงมา เขาจึงถ่ายภาพที่อยู่ด้วยกันในโรงแรมส่งกลับไป เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ ก่อนจะลงไปทานข้าวและซื้อยาคุมฉุกเฉินมาให้หญิงสาวทาน เช้าวันรุ่งขึ้นได้ไปส่งหญิงสาวที่บ้าน ก่อนจะมาทราบภายหลังว่าฝ่ายหญิงกินยาฆ่าตัวตาย พร้อมขอโทษครอบครัวหญิงสาวไม่ได้ตั้งใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น

>> "อยู่ไปก็ทำให้คนอื่นอาย..." เปิดข้อความสั่งเสีย สาวม้งเหยื่อกามอดีตผู้ใหญ่บ้าน

พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และพลตำรวจตรีกรไชย คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจ ปคม. ยืนยัน แม้ผู้ต้องหาจะปฏิเสธ แต่ตำรวจมีหลักฐานชัดเจน โดยคำให้การของหญิงสาวก่อนเสียชีวิตที่บันทึกภาพไว้ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่มีน้ำหนักเพียงพอ พร้อมยืนยันว่าผู้ต้องหาไม่ได้เข้ามอบตัว แต่ตำรวจจับกุมได้

เรายังพบได้ว่าผู้ต้องหามีความพยายามที่จะหลบหนี โดยมีการทำลายเสื้อที่ใส่ในวันเกิดเหตุ รวมถึงบันทึกในโทรศัพท์มือถือซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญ และมีการเตรียมความพร้อมในการหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จากการสอบสวนยังพบว่าผู้ต้องหาเคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาก่อน จนทำให้ถูกปลดจากการเป็นผู้ใหญ่บ้าน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook