หุ้นเฟซบุ๊กยังร่วงต่อ หลังผู้ใช้งานยุโรปหด - "มาร์ค" จนลง รวยแค่อันดับ 6 ของโลก

ราคาของ เฟซบุ๊ก อิงค์ บริษัทโซเชียลมีเดียอันดับ 1 ของโลก เมื่อปิดตลาดวันศุกร์ (27 ก.ค.) ตามเวลาในสหรัฐ ลดลง 1.37 จุด (0.78%) มาอยู่ที่ 174.89 ดอลลาร์ (5,828.30 บาท) ต่อหุ้น เท่ากับว่า ราคาหุ้นของเฟซบุ๊กลดลงต่อเนื่อง เพราะวันพฤหัสบดี (26 ก.ค.) ก็ลดลงอย่างหนักถึง 19% มาปิดที่ 176.26 ดอลลาร์ (5,873.95 ดอลลาร์) ต่อหุ้น

สาเหตุหนึ่งที่นักลงทุนไม่มันใจต่อบริษัทนี้ จนต้องขายหุ้นทิ้ง เป็นเพราะยอดจำนวนผู้ใช้งานแต่ละวันในทวีปยุโรปของเฟซบุ๊กในไตรมาส 2 ลดลงถึง 3 ล้านคน เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 1 ของปีนี้ เหลือแค่ 279 ล้านคน ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของบริษัท ส่วนจำนวนผู้ใช้งานในทวีปอเมริกาเหนือ ก็ยังทรงตัวอยู่ที่ 185 ล้านคน หรือแทบไม่เพิ่มขึ้นนัก

ไม่ใช่แค่นั้น เฟซบุ๊กยังทำรายได้ไตรมาส 2 ของปีนี้ ได้แค่ 13,200 ล้านดอลลาร์ (439,897 ล้านบาท) เท่านั้น ไม่ถึงเป้าหมายที่นักลงทุนคาดไว้ว่าน่าจะทำได้ถึง 13,400 ล้านดอลลาร์ (446,561 ล้านบาท)

ด้านนายมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของเฟซบุ๊ก กลับโทษว่า สาเหตุที่ผู้ใช้งานในยุโรปลดลงเป็นเพราะกฎหมายควบคุมข้อมูลออนไลน์ฉบับใหม่ของสหภาพยุโรป ที่บังคับใช้เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งกฎหมายนี้ทำให้เว็บไซต์ต่างๆ ต้องเปิดเผยว่า เก็บข้อมูลส่วนตัวอะไรบ้างของผู้ใช้งาน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่างๆ 

นอกจากนี้ ราคาหุ้นที่ลดลงรวมแล้วประมาณ 20% ทำให้ความรวยของนายมาร์ค ลดลงจากอันดับ 4 ของโลกมาอยู่ที่อันดับ 6