ไล่จับทุลักทุเล หนุ่มใบ้ขโมยรถเมล์สาย 7 ออกจากอู่ ขับซิ่งชนกำแพงบ้านพัง

ไล่จับทุลักทุเล หนุ่มใบ้ขโมยรถเมล์สาย 7 ออกจากอู่ ขับซิ่งชนกำแพงบ้านพัง

ไล่จับทุลักทุเล หนุ่มใบ้ขโมยรถเมล์สาย 7 ออกจากอู่ ขับซิ่งชนกำแพงบ้านพัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(29 ก.ค. 2561) เมื่อเวลา 18.30 น. ร.ต.ท.นิธิวิทย์ สัตตธนชัยภัทร รอง สว.(สอบสวน) สน.หนองแขม รับแจ้งเหตุชายขโมยรถประจำทางขับพุ่งชนรั้วบ้านประชาชน บริเวณฝั่งตรงข้ามหมู่บ้านเดอะเนเจอร์ซิตี้ ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ (คลองขวาง) แขวงและเขตหนองแขม กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ ตำรวจจราจร และชุดปฏิบัติการฝ่ายสืบสวน

ที่เกิดเหตุฝั่งทิศทางมุ่งหน้าบางบอน 5 เจ้าหน้าที่พบรถประจำทาง ขสมก.สาย 7 สีครีมแดง ทะเบียน 12-0196 กรุงเทพมหานคร เลขข้างรถ 6-504-7 วิ่งระหว่างคลองขวาง-หัวลำโพง ในสภาพแล่นย้อนศรเกยบาทวิถีขึ้นไปพุ่งชนกำแพงบ้านเลขที่ 5 หมู่ 14 ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ แขวงและเขตหนองแขม กทม. จนได้รับความเสียหายกระจกด้านหน้า กันชน และไฟส่องสว่างซีกขวาพังทั้งแถบ ส่วนรั้วบ้านมีปูนแตกร่อนลงมาเล็กน้อย

ผู้ขับขี่รถประจำทางคันดังกล่าว ชื่อ นายทอม (นามสมมติ) อายุ 37 ปี เป็นใบ้พูดจาสื่อสารไม่ได้ ถูกชาวบ้านไล่จับกุมตัวเอาไว้ได้อย่างทุลักทุเล จากนั้นควบคุมตัวไปสงบสติอารมณ์และนำไปสอบสวนที่โรงพัก

จากการสอบสวน นายอดิเทพ อายุ 42 ปี โชเฟอร์รถประจำทางคันดังกล่าว ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนำรถมาจอดที่ท่ารถคลองขวาง อยู่ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร เพื่อรอคิววิ่งออกไปให้บริการประชาชน โดยตนไม่ได้สตาร์ทเครื่องเอาไว้ แต่ทิ้งกุญแจคาอยู่ที่รถ จากนั้นก็มีคนวิ่งมาบอกว่า มีผู้ชายคล้ายคนสติไม่สมประกอบ แอบขึ้นไปบนรถสตาร์ทเครื่องยนต์ขับหลบหนีออกมา โดยขับออกจากท่ารถหักพวงมาลัยเลี้ยวขวาไปได้เพียง 300 เมตร ก็เสียหลักย้อนศรเกยฟุตปาทพุ่งใส่กำแพงรั้วบ้านดังกล่าว 

ด้าน ร.ต.ท.นิธิวิทย์ กล่าวว่า จากการสอบถามชาวบ้านในละแวกที่เกิดเหตุ ไม่มีใครเคยพบเห็นหรือรู้จักกับผู้ต้องหารายนี้ แต่เมื่อนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพักแล้วพบว่า แม้จะพูดไม่ได้และสื่อสารไม่รู้เรื่องคล้ายผู้บกพร่องทางจิต แต่สามารถเขียนชื่อ-นามสกุลตัวเองได้ เมื่อตรวจสอบประวัติทางทะเบียนราษฎรจริง และสามารถติดต่อญาติได้

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้เจรจากับทางญาติแล้ว พบว่าผู้ก่อเหตุมีอาการบกพร่องทางจิตจริง จึงได้ประสานญาติเดินทางมาพบที่โรงพัก และนำหลักฐานด้านการรักษามายืนยัน ซึ่งหลังจากนี้จะต้องให้ญาติเจรจาชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ ขสมก. และเจ้าของบ้านที่กำแพงได้รับความเสียหายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook