ฮู ชี้ไวรัสไข้หวัดใหญ่พัฒนาดื้อยาทามิฟลู

ฮู ชี้ไวรัสไข้หวัดใหญ่พัฒนาดื้อยาทามิฟลู

ฮู ชี้ไวรัสไข้หวัดใหญ่พัฒนาดื้อยาทามิฟลู
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

WHO ระบุไวรัสไข้หวัดใหญ่ กำลังพัฒนาตัวเองให้ดื้อยาต้านไวรัส ทามิฟลู

นิกกิ ชินโด ผู้เชี่ยวชาญด้านการระบาดของไข้หวัดใหญ่ของ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO แถลงในช่วงบรรยายสรุปประจำวัน เกี่ยวกับการระบาดของ ไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่มีขึ้นเมื่อวันอังคารที่นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ว่า การที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นจำนวนค่อนข้างมากในสหรัฐฯ และเม็กซิโก คือระหว่างร้อยละ 9-10 เป็นแรงกระตุ้นที่ถูกต้องให้มีการพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสไข้หวัดใหญ่ เพราะเมื่อปีที่แล้ว ได้พบหลักฐานอย่างกว้างขวางว่า เชื้อไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดตามฤดูกาล กำลังพัฒนาตัวเองให้ดื้อยาต้านไวรัส ทามิฟลู หรือ โอเซลทามีเวียร์ ซึ่งเป็นตัวยาสำคัญในทามิฟลูที่ผลิตโดยบริษัทเวชภัณฑ์ โรช ของสวิส

เธอกล่าวด้วยว่า ปัจจุบัน หลายประเทศในอเมริกาใต้และส่วนอื่นๆของซีกโลกใต้กำลังเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งเป็นฤดูที่ไข้หวัดใหญ่จะระบาดหนักที่สุด จึงมีความเสี่ยงสูงที่ไวรัสจะดื้อยา ขณะที่โรชประกาศในวันเดียวกันเรื่องกำลังบริจาคยาทามิฟลู 5.65 ล้านชุดเพื่อช่วย WHO รับมือกับการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 กับเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตยาสำหรับช่วง 5 เดือนข้างหน้าด้วย จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีวัคซีนที่ใช้ได้ผลในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 มีแต่ยาต้านไวรัสทามิฟลูของ "โรช" กับ "เรเลนซ่า" ของ"กลั๊กโซ สมิทธ์ไคลน์ "เท่านั้น ที่ถือว่ามีคุณภาพใช้รับมือกับไวรัสชนิดนี้ได้

ปัจจุบัน สหรัฐกับเม็กซิโกพบผู้ติดเชื้อมากสุดคือรวมเกือบร้อยละ 90 ของผู้ติดเชื้อรวม 5,251 คนใน 30 ประเทศ ที่ได้รับการยืนยันจาก WHO แต่ในสัปดาห์นี้มีสิ่งบ่งชี้ว่าไวรัสอาจแพร่กระจายเป็นวงกว้างกว่าที่คาด ไว้ เพราะแอนน์ ชูช้าต รักษาการผู้อำนวยการสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค สหรัฐ หรือ CDC กล่าวว่า ยอดผู้ติดเชื้อ 2,600 คนในสหรัฐฯ เป็นเพียงเศษเสี้ยวของทั้งหมด เพราะมีคนจำนวนมากที่ติดเชื้อและหายป่วยเอง เหมือนคนเป็นไข้หวัดใหญ่ธรรมดา จึงไม่ได้ตรวจในห้องแลป ส่วนเว๊ปไซต์ของวารสารการแพทย์ "ไซเอนซ์" ได้เปิดเผยผลการศึกษาโดยกลุ่มความร่วมมือประเมินการระบาดอย่างรวดเร็วของ WHO ซึ่งมีนักวิทยาศาสตร์จาก CDC รวมอยู่ด้วย ประเมินว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสนี้มากถึง 23,000 คนแล้วในเม็กซิโก

ชินโดเน้นด้วยว่า WHO กำลังเตรียมตีพิมพ์เผยแพร่แนวทางปฏิบัติทางคลีนิคสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ เกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่ 2009 ในสัปดาห์นี้ โดยจะเน้นว่าผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือ ได้รับยาต้านไวรัส พร้อมเตือนว่าหลายประเทศในยุโรปกำลังใช้ยาต้านไวรัสมากเกินจำเป็น ในขณะที่สหรัฐฯกับเม็กซิโกใช้กับเฉพาะผู้มีความเสี่ยงสูง เช่นผู้ป่วยเรื้อรังหรือสตรีมีครรภ์เท่านั้น

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook