ครม.ยังไม่คลอดพรบ.รปภ.ผู้นำอาเซียน

ครม.ยังไม่คลอดพรบ.รปภ.ผู้นำอาเซียน

ครม.ยังไม่คลอดพรบ.รปภ.ผู้นำอาเซียน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผบ.ทร. เผย 3 เหล่าทัพแยกดูแลผู้นำ 3-4 ประเทศ สั่งทัพเรือภาค 3 ดูแลทางน้พ ระดมรบพิเศษ-นาวิกฯ-มนุษย์กบ-ต่อสู้อากาศนานและรักษาฝั่งคุมพื้นที่ เชื่อนายกฯ ตั้งกก.2ชุดช่วยให้สถานการณ์บ้านเมืองดีขึ้น ครม.ยังไม่คลอดพรบ.รปภ.ผู้นำอาเซียน เผยสั่งนิติวิทยาศาสตร์จสอบตู้คอนเทรนเนอร์ที่แสมสาร ตำรวจปรับภาพลักษณ์ใหม่วางตัวเป็นกลางสร้างสมานฉันท์

พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้สัมภาษณ์ถึงการมีส่วนร่วมของกองทัพเรือในการดูแลความสงบเรียบร้อยในช่วง การประชุมสุดยอดอาเซียนกับ ประเทศคู่เจรจา วันที่ 13-14 มิ.ย.นี้ที่จ.ภูเก็ต ว่า กองทัพเรือจะดูแลความปลอดภัยทางทะเลเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าสามารถดูแล ความปลอดภัยให้กับผู้นำแต่ละประเทศได้ รวมทั้งให้การประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะเดียวกันจะมีกำลังทางบกช่วยดูแลความปลอดภัยรอบ ๆ อาคารสถานที่จัดประชุม โดยประสานร่วมกับกองทัพบก กองทัพอากาศ และตำรวจ ดูแลความปลอดภัยผู้นำประเทศที่จะได้รับมอบหมาย ซึ่งคาดว่าจะได้รับมอบหมายให้ดูแลผู้นำประเทศหน่วยละ 3-4 ประเทศ

สำหรับกำลังที่ใช้ในครั้งนี้จะใช้กำลังของทัพเรือภาคที่ 3 จ.ภูเก็ต โดยประสานงานร่วมกับตำรวจน้ำ พาณิชยนาวี และมีกำลังทางอากาศ เตรียมเฮลิคอปเตอร์เพื่อการลำเลียง ส่วนเรือก็มีหลายประเภท ทั้งเรือตรวจการ เรือลำเลียง และสปีดโบ๊ท นอกจากนี้ยังมีกำลังพลจากหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ หรือมนุษย์กบ หน่วยทางทหารบกของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เข้ามาช่วยกันดูแลด้วย

พล.ร.อ.กำธร กล่าวด้วยว่า แม้ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์อะไรก็ตาม แต่ทหารต้องเตรียมวางแผนไว้เพื่อความไม่ประมาท นอกจากนี้คนในพื้นที่ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะถือเป็นหน้าตาของประเทศ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนานาชาติ คิดว่าทุกฝ่ายคงจะร่วมมือกัน

เชื่อนายกฯ ตั้งกก. 2 ชุดช่วยให้สถานการณ์บ้านเมืองดีขึ้น

พล.ร.อ.กำธร กล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ว่า ดูสงบเรียบร้อยดี การที่นายกรัฐมนตรีตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 ชุด ก็น่าจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น ไม่ห่วงอะไร เอาใจช่วยให้ทุกฝ่ายร่วมมือกัน

ส่วนกรณีที่หากรัฐบาลขึ้นภาษีน้ำมัน อาจจะมีการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อนตามแนวชายแดนทางทะเล ว่า เป็นหน้าที่ประจำของกองกำลังตามแนวชายแดนทางทะเลที่จะต้องดูแลอยู่แล้ว ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม ซึ่งหน่วยปฏิบัติงานของกองทัพเรือจะต้องดูแลกฎหมาย 28-29 ฉบับ รวมถึงการป้องกันการลักลอบค้าของเถื่อนด้วย และเมื่อมีแนวโน้มว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนั้น จะต้องเพิ่มความเข้มงวดกวดขันให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีรายงานอะไรผิดปกติ

ครม.ยังไม่คลอดพรบ.รปภ.ผู้นำอาเซียน

เมื่อเวลา 13.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.วันนี้ ( 13 พ.ค.) ยังไม่มีการหารือถึงการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะมีการประชุมอีกครั้งที่รัฐสภา

อภิสิทธิ์มั่นใจ 2 คนไทยติดเชื้อหวัดไม่กระทบจัดประชุมอาเซียน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่องค์การอนามัยโลกขึ้นบัญชีประเทศไทยเป็นประเทศที่มีผู้ติด เชื้อในลำดับที่ 31 จะมีผลต่อการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนหรือไม่ว่า องค์การอนามัยโลกนับตามประเทศที่มีการยืนยันว่ามีผู้ติดเชื้อ และไม่คิดว่าจะกระทบกับการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและประเทศคู่เจรจา เพราะมีหลายประเทศที่มีผู้ติดเชื้อ แม้แต่ประเทศคู่เจรจาก็มีการยืนยันมีการพบผู้ติดเชื้อ

"ชวรัตน์" ยันส่งนายกฯ ขึ้นรถกับมือ วันเสื้อแดงบุกมหาดไทย

ที่กระทรวงมหาดไทย เมื่อเวลา 14.30น. นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีข้อถกเกียงว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี อยู่ในรถในวันที่คนเสื้อแดงบุกกระทรวงมหาดไทยในวันที่ 12 เม.ย.ว่า ยืนยันว่านายกฯ อยู่ในรถ เพราะตนเป็นคนไปส่งถึงรถด้วยตัวเอง ส่วนจะมีการเปลี่ยนรถหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ "เพราะผมไม่รู้ว่านายกฯ เป็นเดวิด คอปเปอร์ฟิวหรือเปล่า"

ชี้ถือเป็นสิทธิ์หากพท.-ปชป.จับมือยุติปัญหา

นายชวรัตน์ กล่าวถึงกรณีที่นายเสนาะเทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการสมานฉันท์ และศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ออกมาเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)และ พรรคเพื่อไทย(พท.)จับมือกันเพื่อยุติความขัดแย้ง ว่า ถ้าทั้งสองพรรคสามารถจับมือกันได้ ก็ถือเป็นสิทธิ์ เพราะเป็นเรื่องที่บังคับกันไม่ได้ ส่วนถ้าทำได้จริงๆ พรรคภูมิใจไทย(ภท.) ก็ต้องเป็นฝ่ายค้าน อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากพูดซ้ำหรือพูดอะไรมาก เพราะนายชำนิ ศักดิ์เศรษฐ์ กรรมการคณะกรรมการชุดดังกล่าวได้พูดชัดในที่ประชุมแล้ว

ตำรวจปรับภาพลักษณ์ใหม่วางตัวเป็นกลางสร้างสมานฉันท์

เมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร พลตำรวจตรี ชวลิต ชาญเวชช์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ได้กล่าวมอบนโยบายให้ข้าราชการตำรวจในสังกัด กำชับการวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ตามหนังสือสั่งการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ระบุว่าที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจบางคนประพฤติตนไม่เหมาะสมทั้งการเป็น ผู้กระทำผิดเสียเองหรือเข้าไปเกี่ยวข้องการเมือง ซึ่งทำให้ภาพลักษณ์ของตำรวจเปลี่ยนแปลงไป

ดังนั้น จึงให้ตำรวจทุกสังกัด วางตัวเป็นกลางทางการเมือง เพื่อเสริมสร้างความสมานฉันท์ของคนในชาติ และร่วมกันยุติความรุนแรง รวมทั้งการประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในกรอบระเบียบวินัยของตำรวจ

ในครั้งนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ยังได้ฝึกทักษะให้ตำรวจในสังกัดทุกนาย ฝึกยิ้มหวานบริการประชาชนด้วยความจริงใจ เป็นการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ตำรวจไทยเป็นมิตรกับประชาชน และมีการให้รางวัลเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยิ้มหวานเป็นแบบอย่างด้วย

ดีเอสไอ เตรียมส่งชุดสืบตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ที่แสมสาร

เมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผอ.สำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ในวันที่ 18 พ.ค.นี้ จะส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ที่จมอยู่ก้นทะเลอ่าวแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยเบื้องต้นตนได้รับรายงานว่าพบตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวจำนวน 3 ตู้ แต่อยู่คนละจุด โดยแต่ละตู้อยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 10 , 20 และ 30 ไมล์ทะเลตามลำดับ ซึ่งพิกัดยังไม่แน่นอน ที่ผ่านมา พ.ต.อ.วีระศักดิ์ มีนะกนิษฐ์ ช่วยราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษเคยลงไปตรวจสอบแล้ว แต่นักประดาน้ำไม่สามารถเข้าไปงมได้เนื่องจากอยู่ในระดับที่ลึกมาก และอาจไม่คุ้มกับงบประมาณเพราะอาจไม่พบกระดูกมนุษย์ตามที่เป็นข่าวได้ จึงไม่ได้ดำเนินการต่อ

ด้าน พ.ต.อ.วีระศักดิ์ กล่าวว่า เคยได้รับร้องเรียนในปลายปี 2550 ว่าพบตู้คอนเทนเนอร์ 2 ตู้จมอยู่ในทะเลแสมสาร ต่อมาในปี 2551 จึงได้นำทีมชุดนักประดาน้ำเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งบริเวณดังกล่าวลึกมาก และไม่พบความผิดปกติ แต่พบชิ้นส่วนกะโหลกมนุษย์ โครงกระดูก ในบริเวณใกล้เคียงซึ่งเป็นเรื่องปกติเนื่องจากอาจมีชาวประมงจมน้ำ ส่วนสาเหตุที่ยุติการขุดค้นเพราะเห็นว่าหากทำต่อไปก็ต้องใช้งบประมาณมาก

มาร์คสั่งนิติวิทยาศาสตร์จสอบตู้คอนเทรนเนอร์ที่แสมสาร

เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบตู้คอนเทรนเนอร์ ในทะเลอ่าวไทย บริเวณ ต.แสมสาร อ..สัตหีบ จ.ชลบุรี ตามที่คณะกรรมการญาตวีรชนพฤษภา 2535 ยื่นหนังสือขอให้ดำเนินการเนื่องจากมีเบาะแสว่าพบโครงกระดูกจำนวนมาก ว่า ตอนนี้กำลังประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รวมทั้งขอข้อมูลคนที่มีความพร้อมที่จะลงไป ขณะนี้ได้ประสานด้วยวาจาลงไปแล้ว แต่คงจะต้องดูเนื่องจากมีเรื่องเก่าอยู่กำลังให้มีการรวบรวมมา

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการประสานกับทางกองทัพเรือด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่มีความจำเป็น " เรื่องนี้มันมีเรื่องเก่าอยู่ที่ผมทราบมา เนื่องจากมันเคยมีข้อสงสัยว่าจะเป็นเรื่องของกระบวนการค้ามนุษย์หรือเปล่า ด้วย เพราะฉะนั้นก็จะให้นำข้อมูลทั้งหมดมารวมกันก่อน แล้วจะให้คนที่มีความพร้อมในด้านการปฏิบัติไปตรวจสอบต่อไป "

เมื่อถามว่าการตรวจสอบจะให้ดำเนินการทันทีหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็จะทำให้เร็ว

ระบุตั้งรัฐบาลเพื่อชาติไม่ใช่คำตอบและแก้ปัญหาไม่ได้

นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงแนวคิดของนายเสนาะ เทียนทอง ที่ปรึกษาคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในการตั้งรัฐบาลเพื่อชาติ โดยกล่าวย้อนถามว่า " ทุกพรรคเป็นรัฐบาลน่ะหรือครับ ผมคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นประเด็นที่เป็นคำตอบ เพราะไม่ใช่เรื่องของหลักการที่พูดถึงว่ารัฐธรรมนูญมีปัญหาหรือว่ากระบวนการยุติธรรมมีปัญหา มันจะกลายเป็นถูกมองว่าเป็นเรื่องของทุกพรรคจะมาแบ่งปันผลประโยชน์กัน มากกว่า จะเห็นว่าช่วงที่เป็นฝ่ายค้านก็เคยมีข้อเสนออย่างนี้ แต่ผมก็เห็นว่ามันไม่ใช่คำตอบ ผมไม่ได้มองว่ามันจะแก้ปัญหาได้ เพราะประเด็นพื้นฐานที่มีการเรียกร้องกันนั้นเป็นเรื่องอื่น "

เมื่อถามว่ามองเจตนาของนายเสนาะอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็เป็นความเห็นของนายเสนาะ เพราะท่านก็เคยเสนอในลักษณะคล้ายๆ อย่างนี้อยู่หลายครั้งแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าในการประชุมของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ มีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 3 ชุดแต่ไม่มีคนนอกเป็นกรรมการเลยเท่ากับไม่ได้เป็นการเปิดกว้างให้ประชาชน เข้ามามีส่วนร่วม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความจริงตัวกรรมการชุดใหญ่ก็มีบุคคลภายนอกเป็นกรรมการอยู่ ซึ่งตนเชื่อว่าอนุกรรมการฯแต่ละชุดก็คงไปหากรอบความคิดหรือกรอบการทำงานใน ส่วนของเขาก่อน คิดว่าคงไม่มีการไปปิดกั้นการมีส่วนร่วมจากภายนอก

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook