"ฟอส-สปาย" ไม่ใช่คู่รัก! แม่ยันลูกชายใจเป็นหญิง เผยลางร้ายยายฝันเห็นทั้งคู่เลือดท่วมตัว

"ฟอส-สปาย" ไม่ใช่คู่รัก! แม่ยันลูกชายใจเป็นหญิง เผยลางร้ายยายฝันเห็นทั้งคู่เลือดท่วมตัว

"ฟอส-สปาย" ไม่ใช่คู่รัก! แม่ยันลูกชายใจเป็นหญิง เผยลางร้ายยายฝันเห็นทั้งคู่เลือดท่วมตัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีคนร้ายก่อเหตุอุกฉกรรจ์ใช้อาวุธปืนยิง นายอนันตชัย หรือ ฟอส อายุ 20 ปี และ น.ส.ปวีณา หรือ สปาย อายุ 20 ปี ชาวอำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ลานจอดรถฝั่งตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเข้าชีจรรย์ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี 

>> คืบหน้า ยิงคู่รักดับที่เขาชีจรรย์ ล่าสุด ตำรวจจับมือปืนได้แล้ว  

ล่าสุด (31 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์รายงาน เจ้าหน้าที่มูลนิธิจากจังหวัดชลบุรี ได้นำศพของ นายอนันตชัย หรือ ฟอส อายุ 20 ปี และ น.ส.ปวีณา หรือ สปาย อายุ 20 ปี เดินทางมาถึงบ้านเกิด และเจ้าหน้าที่ได้นำศพตั้งแยกกัน โดยมีชาวบ้านพากันมาทำบุญบำเพ็ญกุศลศพ ท่ามกลางความโศกเศร้า 

นางวันเพ็ญ อายุ 41 ปี แม่ของ น.ส.ปวีณา หรือ สปาย กล่าวว่า สปายและฟอสเป็นเพื่อนที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ซึ่งที่ผ่านมาก็จะเรียนอยู่ที่โรงเรียนประจำอำเภอ และได้ไปเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานีประมาณ 1 เทอมแล้วลาออก เพราะต้องการที่จะหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัวด้วยการไปทำงานตามสถานบันเทิง

โดยไปทำงานที่จังหวัดภูเก็ตตั้งแต่ต้นปี 2559 เพราะพี่สาวที่รู้จักกันในหมู่บ้านทำงานที่นั่นบอกได้เงินดี และที่ผ่านมาก็ส่งเงินกลับบ้านเดือนละ 2-3 หมื่นบาท ที่แรกก็ตกใจจึงได้แอบไปดูลูกเพราะกลัวว่าจะไปขายตัว แต่ลูกก็ยืนยันว่าในชีวิตไม่เคยคิดที่จะขายตัวจึงปล่อยให้ลูกทำงาน

และลูกบอกว่ามีเสี่ยอ้วนมาติดพัน และบอกว่าต้องการที่จะได้น้องสปายเป็นเมีย แต่ตนให้ไม่ได้เพราะหากต้องการก็จะต้องมาสู่ขอ แต่ปรากฏว่าเมื่อถามลูกสาวเค้าก็ไม่ยอมรับ เพราะเสี่ยอ้วนเป็นคนอารมณ์รุนแรงมีอิทธิพลในจังหวัดภูเก็ต

“ความรุนแรงเริ่มเกิดขึ้นในช่วง ปลายปี 2559 ลูกสาวได้โทรมาเล่าให้ฟังตลอดว่าทุกครั้งที่ “เสี่ยอ้วน” เห็นลูกสาวไปอยู่ในกลุ่มเพื่อนก็จะเดินเข้าไปฉุดกระชาก บางครั้งก็จะเดินเข้าไปบีบคอ ทำร้ายร่างกาย ปลายปี 2560 จึงได้ไปทำงานที่จังหวัดนครปฐม แต่เสี่ยอ้วนก็ยังคงติดตามหา

จนในช่วงต้นปี 2561 ตนกับลูกสาวมีความคิดที่จะซื้อรถลูกสาวก็ได้บอกว่าจะโอนเงินมา และเสี่ยอ้วนก็รู้ว่าจะซื้อรถ และบอกว่าจะโอนเงินให้ไปซื้อรถ 1 ล้านบาท ซึ่งขณะนั้นครอบครัวปฏิเสธ แต่แล้วก็มีเงินเข้ามาในบัญชีถึง 1 ล้านบาท ซึ่งเสี่ยอ้วนก็โทรมาบอกว่าให้พ่อกับแม่ไปซื้อรถ” นางวันเพ็ญ กล่าว

แม่น้องสปาย ยืนยันว่า ครอบครัวและน้องสปายไม่เคยคิดที่จะไปปอกลอกเลย แต่เสี่ยอ้วนแม้แต่หยิบยืนเงินให้ทั้งที่น้องสปายปฏิเสธ แต่ลูกสาวไม่ชอบเพราะเป็นผู้มีอิทธิพลจึงพยายามออกห่าง แต่ก็ต้องมาเจอเช่นนี้ ขอให้ตำรวจจับคนร้ายมาให้ได้และให้เสี่ยอ้วนมารับกรรม

ความเสียใจนั้น หากฆ่าคนไม่ผิดกฎหมายตนก็อยากจะฆ่ามันให้ตายเหมือนกันหากไม่ผิดกฏหมาย สิ่งห่วงขณะนี้คือความยุติธรรมเพราะเสี่ยอ้วนเคยโทรมาขู่ว่าเป็นผู้มีอิทธิพล เงินสามารถซื้อได้ทุกเรื่องและเคยซื้อตำรวจมาแล้ว เพราะก่อนหน้ายิงคนตายก็ไม่ติดคุก แต่ก็เชื่อว่ากฎหมายจะดำเนินคดีได้

ขณะที่บ้านของ นายอนันตชัย หรือ ฟอส พ่อแม่และญาติยังอยู่ในภาวะความเสียใจ และต้องการให้จับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีและยืนยันว่า ทั้งสองคนไม่ใช่คู่รักกันแน่นอน เพราะน้องฟอสมีจิตใจเป็นผู้หญิง

ด้าน นางจอมศรี อายุ 43 ปี แม่ฟอส กล่าวว่า ตั้งแต่รู้ข่าวว่าลูกชายถูกยิงตายไปกับน้องสปายรู้สึกเสียใจมาก และไม่เข้าใจว่ายิงลูกชายทำไม เพราะทั้งฟอสและสปายไม่ใช่คู่รักกัน เป็นเพื่อนสนิท เป็นญาติด้วยซ้ำไปเพราะพ่อของตนกับพ่อของน้องสปายเป็นพี่น้องกัน

ซึ่งทั้งคู่ก็เติบโตมาด้วยกันอีกทั้งลูกชายจะมีนิสัยเป็นผู้หญิง และฟอสชอบแต่งหญิงเมื่อมีงานรำก็จะแต่งหญิงออกไปรำ เพราะอะไรที่ทำแล้วได้เงินลูกชายก็จะทำเพราะเค้ารักแม่

“อยากถามว่ามายิงลูกของฉันทำไม เค้าไปทำอะไรให้ ไปเกี่ยวข้องอะไรด้วย ลูกชายจะออกเป็นผู้หญิงด้วยซ้ำทำไมถึงทำอย่างนี้ ขอให้ผู้ที่ได้ยินข่าวนี้ให้ช่วยติดตามจับตัวคนร้ายมาลงโทษให้ด้วย” นางจอมศรี กล่าว

นางจอมศรี กล่าวต่อว่า ก่อนที่จะเกิดเรื่องร้ายสองวัน ยายของน้องฟอส ได้ฝันว่าเห็นลูกทั้งสองคนเดินมามีเลือดท่วมตัว ซึ่งก่อนหน้าก็เตือนว่าอย่าออกไปไหนจะไปเมืองนอกก็ไม่ต้องไป ในส่วนของตนก็ฝันว่ามีคนมาขอลูกชายไปอยู่ด้วย ซึ่งในฝันตนก็ให้ไปก็ไม่นึกว่าจะเป็นเรื่องนี้

ส่วนประวัติของ น.ส.ปวีณา ชื่อเล่น ปลาย แต่เพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกันมักเรียกชื่อกันว่า สปาย ถือเป็นหญิงสาวที่หน้าตาดี และเคยเข้าประกวดนางงามท่าคันโท รณรงค์ไม่กินปลาดิบ จากนั้นก็จะเดินสายไปประกวดเวทีต่างๆ แต่เนื่องจากเป็นคนตัวเล็กก็จะไม่ชนะการประกวด

ขณะที่ นายอนันตชัย หรือ ฟอส ถือเป็นเพื่อนที่โตขึ้นมาด้วยกัน นิสัยร่าเริงแต่มีจิตใจเป็นหญิง ในหมู่บ้านจะเรียกกันว่า “สาวฟอส”

สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้ตำรวจเข้าดูแลความปลอดภัย ให้กับครอบครัวผู้เสียหาย โดยในส่วนของทางอำเภอท่าคันโท ก็พร้อมที่จะให้คำปรึกษาทางด้านกฏหมายอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ศพของ นายอนันตชัย หรือ ฟอส มีกำหนดจะฌาปนกิจ ในวันที่ 1 ส.ค. ส่วนศพของ น.ส.ปวีณา หรือ สปาย จะฌาปนกิจในวันที่ 2 ส.ค. ที่วัดบ้านนาตาล ตำบลนาตาล อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook