เปิดอาณาจักร 100 ล้าน “เสี่ยอ้วน” ผู้ต้องสงสัยบงการฆ่าคู่เพื่อนซี้ที่เขาชีจรรย์
![เปิดอาณาจักร 100 ล้าน “เสี่ยอ้วน” ผู้ต้องสงสัยบงการฆ่าคู่เพื่อนซี้ที่เขาชีจรรย์](http://s.isanook.com/ns/0/ud/1477/7389238/1589.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/jpg)
ท่ามกลางอากาศแจ่มใสหน้าพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ พลันเกิดเสียงดังกัมปนาทสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณ เป็นสัญญาณเสียงของจุดสิ้นสุดจากทูตมรณะปลายกระบอกปืนของเพชฌฆาตผู้ปลิดชีพสองหนุ่มสาว
โดยไม่เกรงกลัวต่อบาปบุญคุณโทษและพระพุทธรูปแกะสลักที่เป็นตัวแทนแห่งความทำดี เมื่อความชั่วคืบคลานจากไปเหลือไว้เพียงเถ้าธุลีดินและคราบน้ำตาของครอบครัวผู้เสียชีวิตที่ผ่านโลกมาเพียงแค่ 20 ปี พร้อมปริศนาการฆาตกรรมโหดครั้งนี้คืออะไรกันแน่?
ซึ่งเหตุการณ์สังหารโหด น้องสปาย อายุ 20 ปี และ น้องฟอส อายุ 21 ปี เกิดขึ้นที่บริเวณลานจอดรถ หน้าพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ม.6 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
คนร้ายน่าจะโกรธแค้นผู้ตายทั้งสองคนเป็นอย่างมาก เนื่องจากสภาพศพถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 มม. จำนวนกว่า 7 นัด และคนร้ายน่าจะรู้ความเคลื่อนไหวผู้ตายเป็นอย่างดีเพราะทริปมรณะครั้งนี้ ไม่ได้เกิดเป็นกิจวัตรประจำวันที่สำคัญอยู่ในช่วงฉลองวันเกิดของหญิงสาว 1 ในผู้ตายอีกด้วย
ซึ่งเบาะแสชี้มูลเหตุไปถึงคนใกล้ตัวที่น่าจะเคยเกี่ยวข้องกับผู้ตายและมีความแค้นที่ไม่อาจให้อภัยได้ สอดคล้องกับเฟซบุ๊กญาติของเหยื่อฝ่ายหญิง ที่โพสต์ข้อความว่า "คนชั่วมันทำได้หมด มันคิดว่าตัวเองรวยล้นฟ้า อยากได้ปาย เขาไม่เล่นด้วย"
ทั้งนี้จากเบาะแสทั้งหมดชี้ไปที่ “เสี่ยอ้วน” เจ้าของบาร์ จ.ภูเก็ตที่น้องสปาย เคยทำงานเป็นพนักงานต้อนรับอยู่ที่นั่นพร้อมกับเพื่อนซี้น้องฟอส ก่อนที่ทั้งคู่จะย้ายที่ทำงานมาหากินไปที่ จ.นครปฐม
>> แฉแผน “เสี่ยอ้วน” ให้ลูกน้องจีบเพื่อนสนิทของ “ฟอส-สปาย” ก่อนชี้เป้าให้ทีมฆ่า
โดยสาเหตุมาจากที่เสี่ยอ้วนมาติดพันชอบพอกับน้องสปายทุ่มเทเปย์ให้ไม่อั้น แต่น้องสปายไม่เล่นด้วยและเคยเอาปืนจ่อหัวทั้งสองคนมาแล้วหลายครั้ง ทั้งคู่จึงหนีมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่สุดท้ายก็ถูกตามฆ่าตายอย่างน่าเศร้า
เสี่ยอ้วนคือใครกันแน่ ? รวยกว่า 100 ล้าน ? แล้วทำไมต้องฆ่า ?
นายปัญญา หรือ เสี่ยอ้วน ภูเก็ต อายุ 39 ปี เดิมพื้นเพเป็นคนสุรินทร์ มีนิสัยขยันขันแข็งหนักเอาเบาสู้จึงสร้างฐานะได้อย่างรวดเร็ว จากผู้จัดการดิสโกเธค พัทยา เมืองชลบุรี ระเห็จมาขุดทองที่ป่าตอง จ.ภูเก็ต ถือว่าเป็นรุ่นบุกเบิก เพราะ 20 ปีก่อนยังไม่มีสถานบริการหนาแน่นขนาดนี้
เสี่ยอ้วนเริ่มต้นทำธุรกิจ “เด็กห้องน้ำ”คือการขอเข้าดำเนินการภายในห้องน้ำสถานบริการต่างๆทั่วทุกแห่งในหาดป่าตอง โดยก่อนหน้านี้ “เสี่ยอ้วน”เป็นเพียงเด็กบริการนวด จัดผ้าเย็น ผ้าร้อนให้กับบรรดานักเที่ยวเวลาเข้าไปปล่อยหนัก หรือเบาในห้องสุขาแลกกับทิปสิบบาทยี่สิบบาท
กระทั่งขยับตัวกลายเป็นผู้รับเหมาสัมปทาน ครอบคลุมห้องสุขาไปทั่วเกาะภูเก็ต จากนั้นจึงเริ่มเปิดสถานบริการเป็นของตนเองจากบาร์เล็กๆ 1 ห้องจนถึงปัจจุบัน มีสถานบริการที่โกยเงินทุกคืนเรียงกันเป็นตับอยู่ในซอยแห่งหนึ่งของถนนป่าตอง ซึ่งเขาเป็นเจ้าของทั้งหมด
และกิจการบาร์ของเสี่ยอ้วนรุดหน้าอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีการระดมสาวโคโยตี้ ที่มีคุณภาพรูปร่างหน้าตาดีจำนวนมากจึงเป็นขวัญใจของนักท่องราตรีทั้งไทยและเทศ ทำให้ธุรกิจบาร์ของเขาก้าวเข้าสู่อาณาจักร 100 ล้านในปัจจุบัน
แต่แล้วบททดสอบก็เข้ามาในชีวิตเสี่ยอ้วน เมื่อประมาณปี 2559 เสี่ยอ้วน เคยต้องคดีฆ่าคนตายโดยการยิงเพียงนัดเดียวตัดขั้วหัวใจชายขายไอศกรีมตายคาหอพักหญิงสาวที่อยู่ในการอุปการะของเสี่ยอ้วน
แต่ทั้งนี้รูปคดีกลับออกมาในทำนองว่าเป็นการยิงป้องกันตัวเพราะคนตายถืออาวุธปืนอยู่ คดีจึงนี้จบลงด้วยการสั่งไม่ฟ้องของอัยการทำให้เสี่ยอ้วนหลุดคดีอย่างง่ายดาย ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง
โดยมีข้อสังเกตว่าเสี่ยอ้วน เป็นผู้มีฐานะส่วนคู่กรณีเป็นเพียงคนขายไอศกรีม แต่เมื่อญาติผู้เสียชีวิตไม่ติดใจอะไรเรื่องราวต่างๆจึงค่อยๆเงียบลง
ส่วนฉนวนเหตุการณ์สังหารโหดสองเพื่อนซี้ที่เขาชีจรรย์นั้น มีข้อมูลว่าเสี่ยอ้วน หลงรักน้องสปาย อย่างหัวปักหัวปำถึงขั้นเสนอเงินถึง 4 ล้านบาท เพื่อเป็นสินสอดทองหมั้นตกแต่งเป็นเมียตามประเพณี
แต่ประเด็นนี้มีรายละเอียดค่อนข้างสลับซับซ้อนมีการเรียกคนตายไปต่อว่าหลายครั้งที่ไม่ทำตามสัญญา และเคยใช้ปืนจ่อศีรษะน้องฟอส กับ น้องสปาย เป็นการข่มขู่มาแล้ว จนทั้งคู่ต้องหนีตายจาก ภูเก็ต มาทำงานที่ จ.นครปฐม แต่สุดท้ายแล้วก็หนีเงื้อมมือมัจจุราชไปไม่ได้
คดีนี้มีเงื่อนงำที่น่าสงสัยหลายประการ โดยเฉพาะการสั่งฆ่าหญิงสาวที่ตนแอบหลงรัก ช่างเป็นสิ่งที่ยากจะเข้าใจได้ มีเพียง “เสี่ยอ้วน” เท่านั้นที่จะให้คำตอบได้ พร้อมกับคำถามคำโตว่า เศรษฐีรวยกว่า 100 ล้าน ไม่สามารถหาความสุขได้เลยหรือ???