สกลฯ ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ 7 อำเภอ-อีก 24 ชม.หากฝนไม่หยุดท่วมชัวร์
( 31 ก.ค. 61 ) ที่ สนาม ฮ ชั่วคราว กก.ตชด.23 อ.เมือง จ.สกลนคร นายนภดล ไพฑูรย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร พร้อมด้วย พันเอกธเนตร จุลโนนยาง รอง ผบ.มณฑลทหารบกที่ 29 พ.ต.อ.สิปปนันท์ สรณ์คุณแก้ว ผกก.ตชด.23 นายทแกล้ว นุศรีวอ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 7 สกลนคร ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติสำรวจสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสกลนคร เพื่อวางแผนแก้ไขปัญหาจัดการน้ำ ป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วมเหมือนปีที่ผ่านมา
โดยขณะนี้พื้นที่สกลนครถูกน้ำท่วมเป็นวงกว้างในหลายอำเภอ ระดับความสูงของน้ำแตกต่างกันไปสูงสุดประมาณ 1 เมตร ที่บ้านโพนแค ตำบลนาตงวัฒนา อำเภอโพนนาแก้ว สร้างความเสียหายกับบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรเป็นวงกว้าง ซึ่งขณะนี้พื้นที่ที่ถูกประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย (อุทกภัย) แล้ว 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสกลนคร อำเภอคำตากล้า อำเภอเจริญศิลป์ อำเภอพรรณานิคม อำเภอสว่างแดนดิน อำเภอพังโคน และอำเภอโพนนาแก้ว รวม 7 อำเภอ 22 ตำบล 107 หมู่บ้าน
โดย ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 2,009 ครัวเรือน 5,625 คน นาข้าวที่คาดว่า จะได้รับความเสียหาย 13,187 ไร่ และมี 2 หมู่บ้านที่น้ำท่วมบ้านเรือนราษฎร ประมาณ 0.80 -1.00 เมตร คือบ้านปู่พึ้ม , บ้านโพนแคใหญ่ ต.นาตงวัฒนา อ.โพนนาแก้ว จังหวัดสกลนคร
นายนภดล ไพฑูรย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า ขณะนี้หนองหารมีปริมาณน้ำ 320.009 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 119.89% เกิน 100% ถือว่า มีมีปริมาณมากน่าเป็นห่วง ภายใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า ถ้ามีฝนตกหนักเกิน 70 มิลลิลิตร อาจเกิดสถานกาณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่อีกครั้ง
ทั้งนี้ ปริมาณน้ำจากเทือกเขาภูพานไหลลงสู่หนองหาร มี 2 ส่วน คือ 1.น้ำที่มาจากเทือกเขาภูพาน ถ้าหากฝนตกลงหน้าเขื่อนลำพุงก็จะไหลลงเขื่อนน้ำพุงไป แต่ถ้าฝนตกมาด้านนี้จะไหลลงมาทางเมือง ก็จะมีห้วยทรายและห้วยโมงที่คอยรองรับอยู่ ทางเจ้าหน้าที่ก็พยายามผลักดันมวลน้ำนี้ลงสู่หนองหาร แต่หลังจากที่ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินดูสถานการณ์น้ำโดยรวมแล้ว สามารถบริหารจัดการได้ เนื่องจากปริมาณน้ำยังไม่สูงถึงขั้นวิกฤต
สำหรับเขื่อนน้ำพุง มีปริมาณน้ำ 97.710 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 59.05% พบว่า เขื่อนน้ำพุงเกินระดับเก็บกักประมาณ 4 เมตร จึงต้องรีบปล่อยน้ำลงมา ซึ่ง ณ ขณะนี้ปล่อยน้ำลงมาแล้ว 600,000 ลบ.ม. แล้ว
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ