หากินง่าย-ทัวร์ปีนผาแอบเจาะ "ผาม้าพยศ" ยึดตะขอให้บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติ

หากินง่าย-ทัวร์ปีนผาแอบเจาะ "ผาม้าพยศ" ยึดตะขอให้บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติ

หากินง่าย-ทัวร์ปีนผาแอบเจาะ "ผาม้าพยศ" ยึดตะขอให้บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บุกจับทัวร์ปีนผาแอบเจาะผาม้าพยศยึดตะขอให้บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตำรวจ ศปทส.เผยใช้พื้นที่ไม่ได้รับอนุญาต เตรียมขอผู้เชี่ยวชาญประเมินมูลค่าความเสียหายพร้อมขอศาลสั่งชดใช้

ตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการลักลอบทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ศปทส. นำกำลังเข้าตรวจสอบบริเวณหน้าผาม้าพยศ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ หลังได้รับการร้องเรียนมีบริษัทท่องเที่ยวเอกชน เข้าไปบุกรุกพื้นที่ ให้บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนไต่หน้าผามานานหลายปี โดยมีการขุดเจาะหน้าผาโดยไม่ได้รับอนุญาต

จากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ด้านหลังถ้ำเมืองออน ซึ่งไม่ได้อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติหรือเขตอุทยานแห่งชาติ แต่เป็นพื้นที่ป่าสาธารณะสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันเนื้อที่ประมาณ 125 ไร่  84 ตารางวา

การเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวดังกล่าว ไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัดตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยเรื่องการขออนุญาตใช้พื้นที่สาธารณประโยชน์ประเภทพลเมืองใช้ร่วมกัน

ตรวจสอบบริเวณหน้าผา พบถูกเจาะนำห่วงเหล็กหรือตะขอเกี่ยวชนิดแกนหมุน และนอตตัวยู เพื่อใช้สำหรับเชือกโรยตัวปีนเกาะหน้าผาหลายจุด ทำให้หน้าผาได้รับความเสียหาย ขณะที่ด้านล่างมีป้ายแนะนำและแผนที่แนะนำนักท่องเที่ยว 

หลังพบว่าเป็นการเปิดให้บริการที่ไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงให้นายบุญช่วย เวชกิจ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านสหกรณ์ เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษในความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน          

พ.ต.ท.กิตติ์ธนัตถ์ มหาวันแจ่ม สารวัตรป้องกันปราบปรามสถานีตำรวจภูธรดอยเต่า ช่วยราชการ ศปทส.ภ. 5 กล่าวว่า ในการแจ้งความได้มีคำขอให้ศาลสั่งให้ผู้บุกรุกรื้อถอนเหล็กยึดเจาะหน้าผาให้คืนสภาพเดิม และเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่รัฐตามมูลค่าเสียหายทั้งหมดของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย

ตรวจสอบด้านหน้าของหน้าผาที่เป็นสำนักงานภาคสนามของบริษัทท่องเที่ยวดังกล่าวปิดให้บริการ ไม่มีพนักงานอยู่แม้แต่คนเดียว แต่กลับพบว่ามีรถยนต์กระบะจอดอยู่และมีเสียงชาวต่างชาติดังมาจากหน้าผาด้านใน ทำให้เชื่อว่าอาจมีการลักลอบเข้าไปปีนผากันอยู่

ขณะที่ตำรวจ ศปทส.ภาค 5 จะร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว เข้าตรวจสอบอีกครั้ง หากพบฝ่าฝืนเปิดให้บริการจะถูกจับกุมดำเนินคดีทันที 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook