ปะทะคารม! จนท.ปกครองขอดูใบอนุญาตจำหน่ายสุราเสียงดุดัน เจ้าของร้านเดือด (มีคลิป)

เจ้าของร้านจำหน่ายของชำเผยคลิปที่เจ้าหน้าที่ปกครองจังหวัดขอนแก่น ใช้น้ำเสียงที่ดุดันในการขอดูใบอนุญาต จนเจ้าของร้านมีการปะทะคารม ด้านรองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ปกครองที่ออกจัดระเบียบสังคมระวังการปะทะคารม

วันที่ 1 ส.ค. 61 ภาพจากกล้องวงจรปิดร้านเฮียหนึ่งของชำ ริมถนนศรีจันทร์ วงเวียนบ้านศรีฐาน เขตเทศบาลนครขอนแก่น ได้บันทึกเหตุการณ์เมื่อเวลา 00.10 น. ของวันที่ 25 ก.ค. 61 ที่ผ่านมา

ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดจัดระเบียบสังคมของฝ่ายปกครองจังหวัดขอนแก่น ได้เข้ามาขอดูใบอนุญาตจำหน่ายสุรา โดยมีการปะทะคารมกับเจ้าของร้านอย่างรุนแรง

นายพิเชษฐ์ พฤกษ์พิริยะกุล เจ้าของร้าน เล่าว่า ตนเองจะเปิดร้านจำหน่ายของชำรวมทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตั้งแต่เวลา 17.00 ถึงเวลา 00.00 น. ทุกวัน เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนก็จะปิดร้านทันที

โดยในวันเกิดเหตุได้มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้ามาตรวจที่ร้านเวลาประมาณเที่ยงคืนเศษ จากนั้นได้บอกให้เปิดร้าน เพื่อเข้าไปดูใบอนุญาตจำหน่ายสุรา ซึ่งตนเองได้ติดไว้ข้างตู้โชว์หลังโต๊ะเก็บเงิน

แต่ทางเจ้าหน้าที่คนหนึ่งกลับใช้อารมณ์พูดให้ตนเองแกะใบอนุญาตออกมาให้ดู แต่เนื่องจากตนเองได้ใช้กาว 2 หน้าติด กลัวใบอนุญาตจะขาด จึงไม่อยากแกะออกมา

ทางเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวก็ใช้น้ำเสียงที่ดุดันไม่พอใจ จนมีการปะทะคารม ซึ่งตนเองเห็นว่าเจ้าหน้าที่รัฐควรจะแนะนำโดยไม่ต้องใช้อารมณ์ เพราะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจมาขอดู ตนเองก็ให้ดูแต่ก็ไม่มีการปะทะคารมแต่อย่างใด

ด้านนายสันติ เหล่าบุณเสงี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากประชาชนว่า ที่ร้านดังกล่าวมีวัยรุ่นไปนั่งกินนั่งดื่มจำนวนมาก ทำให้เกิดเสียงดังรบกวนชาวบ้านที่จะพักผ่อน

จึงได้ให้ชุดจัดระเบียบสังคมของปกครองจังหวัดขอนแก่นไปตรวจสอบ จนกระทั่งมีการปะทะคารมกันระหว่างเจ้าหน้าที่นายหนึ่งกับทางเจ้าของร้าน ซึ่งตนเองได้กำชับไปยังนายอลงกต วรกี ปลัดจังหวัดขอนแก่น ว่าการออกปฏิบัติหน้าที่ต่อไปให้เจ้าหน้าที่ห้ามใช้อารมณ์ในการพูดคุยกับสถานประกอบการ

และจากนี้ให้เอาจริงกับเจ้าของสถานประกอบการที่ทำผิดกฎ ซึ่งขณะนี้พบว่าร้านขายของชำที่มีการนำโต๊ะมาให้ลูกค้านั่งจำนวนมากหลายโต๊ะ เข้าข่ายเป็นสถานประกอบการร้านอาหาร ต่อไปจะมีการตรวจสอบอย่างจริงจัง พร้อมขออภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้