"สปาย" เหยื่อเสี่ยอ้วน วิญญาณหวนกลับบ้าน แม่ได้ยินเสียงลูกสะอื้นทั้งคืน

ขนหัวลุกทั้งบ้านวิญญาณ “สปาย” โผล่ให้ญาติเห็นสภาพเลือดท่วม ช่วงกลางคืนแม่ยังได้ยินเสียงสะอื้น ลูกสาวร้องไห้ลั่นบ้าน ตั้งแต่ห้าทุ่มถึงตีสาม เชื่อแค้นที่ถูกเสี่ยอ้วนฆ่าโหดเหี้ยม

จากกรกรณีที่ นายอนันตชัย หรือ ฟอส อายุ 20 ปี และ น.ส.ปวีณา หรือ สปาย อายุ 20 ปี ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนจ่อยิงอย่างโหดเหี้ยมจนเสียชีวิตที่บริเวณลานจอดรถฝั่งตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรพ์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยร่างไว้วิญญาณของน้องฟอส หนึ่งในผู้เสียชีวิต ได้ทำพิธีฌาปนกิจไปแล้วเมื่อวานนี้ (1 ส.ค.) ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดในวันนี้ (2 ส.ค.) ครอบครัวของน้องสปาย ได้จัดเตรียมสิ่งของและต้อนรับแขกเหรื่อ ที่จะเดินทางมาร่วมพิธีฌาปนกิจศพในช่วงบ่าย โดยมีญาติพี่น้อง เพื่อน และคนรู้จักเดินทางมาร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพจำนวนมาก ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจ โดยวันนี้ในเวลา 14.00 น. จะเคลื่อนร่างไร้วิญญาณของน้องสปายไปยังเมรุ วัดป่านาตาล ซึ่งเป็นวัดเดียวกันกับที่ทำพิธีฌาปนกิจศพ น้องฟอส ไปเมื่อวานนี้

นางวันเพ็ญ แม่ของน้องสปาย ที่ยังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ กล่าวด้วยน้ำตาว่า ตั้งแต่เด็กจนโตน้องสปาย เป็นคนเลี้ยงง่าย ไม่ดื้อ ไม่ซน แม้ว่าจะเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นก็ไม่เคยประพฤติตัวเสียหายและเพื่อนฝูงที่คบส่วนใหญ่ก็จะคบกับสาวประเภทสอง

ถึงแม้ว่าน้องสปายจะมีหน้าตาดี เป็นธิดาท่าคันโท ธิดาวังสามหมอ และรองชนะเลิศการประกวดธิดาแพรวาของ จ.กาฬสินธุ์ สปายก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องคนมาติดพัน โดยครอบครัวหวังให้น้องสปายได้เรียนสูงๆ จบปริญญา ซึ่งตัวน้องเองก็พร้อมจะเรียนโดยเลือกเรียน คณะนิติศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี แต่เรียนได้เพียง 1 ปี ก็หยุดเรียนเพราะต้องการหาเงินมาดูแลครอบครัว ดูแลพ่อแม่

น้องสปายจะพูดอยู่เสมออยากให้พ่อแม่สบายไม่อยากให้ลำบาก แต่วันนี้น้องสปายไม่อยู่ ครอบครัวก็เหมือนขาดเสาหลักไป ทุกๆ คนยังเสียใจ เรื่องอนาคตยังไม่คิดอะไร คิดไม่ออก ส่วนภาระที่มีตอนนี้คืองวดรถของน้องสปาย ที่ครอบครัวจะต้องรับผิดชอบต่อไป

นางวันเพ็ญ กล่าวอีกว่า แรกๆ ก็สงสัยการทำงานของลูกที่มีเงินมากมายแต่ตัวเองได้ไปพิสูจน์แล้วและเชื่อใจลูกว่าทำอาชีพสุจริต ขณะที่เรื่องของเสี่ยอ้วน ได้คุยทางโทรศัพท์และวิดีคอลพูดคุยทุกวัน เสี่ยอ้วนเองมักจะพูดอยู่เสมอว่ารักน้องสปาย อยากดูแล ตนก็ยังขอบคุณไป แต่เวลานี้อยากจะถามว่ารักแล้วทำไมต้องฆ่า ฆ่าทำไม และทำไมต้องฆ่ากันอย่างโหดเหี้ยมขนาดนี้ ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้เสียใจมาก

นอกจากนี้แล้ว ยังมีเรื่องลี้ลับที่เกิดขึ้นในครอบครัว โดยผู้เป็นแม่ได้เล่าว่า ตั้งแต่ไปรับร่างไว้วิญญาณของสปาย กลับมาบ้าน ตลอดระยะเวลาเดินทางจาก อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มาที่ อ.ท่าคันโทจ.กาฬสินธุ์ จะได้ยินเสียงสะอื้นร้องไห้อยู่เป็นระยะๆ และยังรู้สึกคล้ายกับมีคนมาสวมกอดตัวแม่

หลังการตั้งศพบำเพ็ญกุศลช่วงกลางดึกยังได้ยินเสียงสะอื้นไม่หยุด จะทำอะไรก็จะได้ยินเสียงตลอดเวลา เวลาประมาณ 03.00 น. จึงตัดสินใจเคาะโลงศพบอกลูกให้เข้มแข็ง อย่าร้องไห้ ไม่ได้สอนให้อ่อนแอ เสียงนั้นจึงเงียบไป

ขณะที่น้องชายและลูกหลานหลายคน บอกว่าได้เห็นภาพใบหน้าของน้องสปาย ชุ่มไปด้วยเลือด เดินวนเวียนอยู่รอบๆ บ้าน ญาติพี่น้องเชื่อว่าวิญญาณของน้องสปายได้กลับมาถึงบ้าน แต่ยังคงอาฆาตและแค้นที่ถูกฆาตกรรมเช่นนี้