คุมตัวเข้าห้องขัง! ศาลไม่ให้ประกันอดีต ผอ.พศ.และพวกคดีทุจริตเงินทอนวัด
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่งการประกันตัวให้ผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ในคดีทุจริตเงินทอนวัด โดยพิเคราะห์ข้อเท็จจริงตามคำร้องฝากขังเเล้วเห็นว่า กลุ่มผู้ต้องหาร่วมกับวัด สมคบกันวางแผนโดยอาศัยฐานะความเป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ อนุมัติงบประมาณสนับสนุนการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกสามัญให้กับวัดที่ไม่มีโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา สังกัดหรือตั้งอยู่ แล้วกลุ่มผู้ต้องหาก็ให้วัดคืนเงินงบประมาณบางส่วนให้กับกลุ่มผู้ต้องหา อันเป็นการเบียดบังงบประมาณของสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ จึงเป็นต้นตอทำให้เกิดความเสียหายแก่พุทธศาสนา
นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ต้องหาบางคนร่วมกระทำผิดในลักษณะนี้อีกหลายคดี พฤติการณ์แห่งคดีจึงเป็นเรื่องร้ายแรง อีกทั้งคดีมีอัตราโทษสูงและพนักงานสอบสวนก็คัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราว เชื่อว่า หากให้ปล่อยชั่วคราวแล้วผู้ต้องหาอาจหลบหนี
ดังนั้น จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ให้ยกคำร้องของผู้ต้องหาที่ยื่นขอปล่อยชั่วคราว หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป
>> บุกจับ "พนม ศรศิลป์" อดีต ผอ.พศ.กับพวกรวม 10 ราย คดีเงินทอนวัด
>> กองปราบฯ คุมตัวอดีต ผอ.พศ.กับพวก 10 คน สอบคดีเงินทอนวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนายพนม ศรศิลป์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (อดีต ผอ.พศ.) นางพรเพ็ญ กิตติธรางกูร อดีตนักวิชาการศาสนาชำนาญการ พศ. นายแก้ว ชิดตะขบ อดีตนักวิชาการศาสนา กองพุทธศาสนศึกษา ทั้ง 3 ราย ที่ยื่นประกันในช่วงแรกแล้ว ก็ยังมีนายบุญเลิศ โสภา อดีต ผอ.กองพุทธศาสนศึกษา พศจ.ลำปาง (ปัจจุบันเป็น ผอ.พศจ.กาญจนบุรี) นายณรงค์เดช ชัยเนตร อดีต ผอ.กองส่งเสริมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา พศ. (ปัจจุบันเป็น ผอ.พศจ.สิงห์บุรี) อีก 2 รายมายื่นประกันเพิ่มเติมภายหลัง ซึ่งศาลก็ได้ยกคำร้องโดยใช้เหตุผลเดียวกัน