อนุมัติหมายจับ "มด-บ่าว" ลูกสมุน "เสี่ยอ้วน" ตร.เล่าฉากต่อฉาก ใครสังหารใครก่อน
จากเหตุการณ์ยิงสังหาร น.ส.ปวีณา หรือ สปาย อายุ 20 ปี และ นายอนันตชัย หรือ ฟอส อายุ 21 ปี เสียชีวิตบริเวณลานจอดรถถนนฝั่งตรงข้าม หน้าพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ม.6 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ล่าสุดศาลจังหวัดพัทยาได้อนุมัติหมายจับ ลงวันที่ 4 สิงหาคม 2561 ที่ 343/2561 ให้แก่ นายกฤษณะ หรือ มด อายุ 22 ปี ชาว อ.ข้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช และ หมายจับเลขที่ 342/2561 ให้แก่ นายณรงค์ หรือ บ่าว อายุ 22 ปี ชาว อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน, พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
พ.ต.อ.ศักดิ์รพี เพียวพนิช รอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี ได้เปิดแผนขั้นตอนการสังหาร โดยระบุว่า นายสายันต์ ผู้ต้องหาที่ถูกจับก่อนหน้านี้ เป็นคนส่งเป้าหมายสถานที่ให้กับ นายบ่าว มือปืนของเสี่ยอ้วนตลอดเวลา ก่อนที่จะรายงานต่อไปยังเสี่ยอ้วนที่มาด้วยกันได้ทราบ
โดยที่ขณะกลุ่มผู้ตายได้เข้ามาจอดบริเวณลานจอดรถ เพื่อเที่ยวชมบริเวณเขาชีจรรย์ ขณะกลับมาที่รถ นายป๊อปปี้ เป็นคนขับรถยนต์โตโยต้ายาริสได้เข้ามาปิดท้ายรถคันที่กลุ่มผู้ตายขับมา เพื่อให้ถอยหนีไปไหนไม่ได้ โดยมี นายมด ซึ่งเป็นหลานของนายสายันต์ นั่งมาข้างๆ เพื่อคอยคุ้มกัน
หลังจากนั้น นายบอล ได้ขับรถยนต์ฮอนด้าซีอาร์วี พร้อมด้วยเสี่ยอ้วนกับนายบ่าว เข้ามาขณะที่คนตายทั้งคู่ยืนอยู่ ด้านท้ายรถ โดยเสี่ยอ้วนลงมาจากรถและใช้อาวุธปืนจ่อหัวน้องสปายเพื่อข่มขู่ แต่ทั้งคู่พยายามจะหนี ทำให้เสี่ยอ้วนเปิดฉากยิงใส่ น้องฟอส จำนวน 1 นัด ขณะที่กำลังจะเปิดประตูหน้ารถ ก่อนที่นายบ่าวจะยิงใส่ น้องสปาย จำนวน 4 นัด และยิงซ้ำไปที่ น้องฟอส อีก 2 นัด ทำให้ทั้งคู่เสียชีวิตทันที ก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนี
พ.ต.อ.ศักดิ์รพี เพียวพนิช รอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า นายบ่าว หรือ นายณรงค์ เป็นมือปืน ส่วนอีกคนคือ นายมด หรือ นายกฤษณะ เป็นคนคอยคุ้มกัน ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นหลานของนายสายันต์ ถูกชักนำให้เข้าวงการมือปืนทั้งหมด และยังเป็นคนแนะนำให้รู้จักเสี่ยอ้วนด้วย
จากการสอบสวนผู้ต้องหา เสี่ยอ้วนยิงใส่ น้องฟอส ก่อน และ นายบ่าว ได้ยิงใส่ น้องสปาย ตามมา และเล็งยิงซ้ำใส่ น้องฟอส อีกครั้ง แต่ตอนนี้ต้องรอผลทางวิทยาศาสตร์ รายละเอียดขอให้เป็นเรื่องของการสอบสวนก่อน แต่จากพฤติการณ์ทางกฎหมายถือว่าเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจ
ขณะที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 มีความเป็นห่วงเป็นใยในคดีนี้ และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ได้กำชับเร่งดำเนินการคดีนี้ให้เร็วที่สุด ตอนนี้ทางตำรวจรู้เบาะแสแล้วว่า หลบหนีไปอยู่ที่ไหนกันบ้าง ยังอยู่ระหว่างการจับกุม แต่ยังเปิดเผยไม่ได้มาก เพราะจะเสียต่อรูปคดี
สำหรับเหตุการณ์นี้มีการวางแผนเอาไว้แล้วจากเสี่ยอ้วน เพราะ นายสายันต์ ปลอมตัวคลุกคลีกับผู้ตาย เนื่องจากความแค้นส่วนตัวที่มีกับฝ่ายหญิงที่เสียชีวิต ที่แอบคบหาอยู่กับเพื่อนชาย ทำให้เสี่ยอ้วนไม่พอใจ เพราะทุ่มเทให้กับคนคนนี้ไปเยอะมาก แต่ทั้งนี้ประเด็นเรื่องเงิน 4 ล้านบาท ยังต้องหาพยานหลักฐานมายืนยันให้ครบถ้วนก่อน