ตำรวจกราดยิง 16 นัด เมียโดดหน้าต่างหนีตาย-แม่ยายสาหัส ก่อนฆ่าตัวตาย

(6 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิชอบ เกิดเกลี้ยง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี และชุดสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ฯ เข้าตรวจสอบ ภายในอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ชั้นล่างใช้เป็นร้านขายของชำ หลังเกิดเหตุยิงกันจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในช่วงดึกของคืนที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องทำการเฝ้ารักษาที่เกิด เพื่อให้ชุดพิสูจน์หลักฐานเข้ามารวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง

โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้น เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. ของคืนวันที่ 5 ส.ค.61 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขุนทะเล ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันที่บ้านหลังดังกล่าว จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบทำให้ พบผู้บาดเจ็บ 2 ราย คือนางราตรี อายุ 70 ปี มีบาดแผลถูกยิงสะโพกทะลุโดนลำไส้อาการสาหัส และ ด.ต.ฐานันต์ มีสาย อายุ 50 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานจราจร สภ.ขุนทะเล มีบาดแผลที่ขมับขวาทะลุกลางศีรษะนอนหายใจรวยรินอยู่บนที่นอน เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำทั้ง 2 รายส่ง รพ.สุราษฎร์ธานี

หลังจากนั้นตรวจสอบพบ นางสาววนิดา อายุ 43 ปี อดีตภรรยาของ ดต.ฐานันต์ ได้รับบาดเจ็บจากการกระโดดหน้าต่างชั้นสองของบ้านเกิดเหตุเพื่อหนีตายไปหลบอยู่ในบ้านของเพื่อนบ้าน ซึ่งห่างไกลจากบ้านที่เกิดเหตุ

จากการสอบสวน นายประสิทธิ์ อายุ 74 ปี อดีตพ่อตาของ ด.ต.ฐานันต์ เล่าว่า ด.ต.ฐานันต์กับลูกสาวของตนอยู่ในสถานะหย่าร้างมาประมาณ 5 ปี แต่ยังอยู่บ้านเดียวกันและแยกกันอยู่คนละห้อง ก่อนเกิดเหตุ ด.ต.ฐานันท์ มีปากเสียงกันกับน.ส.วนิดา อดีตภรรยา อย่างรุนแรง โดยมีลูกชายอายุ 20 ปี ที่เป็นตำรวจและคนในบ้านพยายามห้ามแต่ก็ไม่ฟัง จนบานปลายจนถึงขั้นใช้อาวุธปืนยิงกราดไปหลายนัด กระสุนโดน นางราตรี อดีตแม่ยาย 1 นัด จากนั้นไปยิงที่ลูกบิดประตูห้องของลูกสาว ซึ่งมีน.ส.วนิดากับลูกสาวคนเล็กอายุ 10 ขวบ อยู่ในห้อง พร้อมถีบประตู แต่ไม่พบน.ส.วนิดา ที่ตัดสินใจกระโดดหน้าต่าง วิ่งหลบหนีไปก่อนหน้า เมื่อไม่พบตัวอดีตภรรยา ดต.ฐานันต์ จึงกลับมาที่ห้องนอนพร้อมยิงตัวเอง 2 นัดจนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตที่ รพ.สุราษฎร์ฯในเวลาต่อมา

ด้านมูลเหตุความขัดแย้งเบื้องต้นทราบจาก อดีตพ่อตาบอกว่าเกิดจากปมขัดแย้งในครอบครัว โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้รวบรวมพยานและหลักฐาน เพื่อส่งพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้บาดเจ็บได้รับการรักษาตัวที่ รพ.สุราษฎร์ธานี โดยอาการล่าสุดพ้นขีดอันตรายแต่ยังต้องได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด

สำหรับร่างของ ดต.ฐานันต์ จะได้ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดใหม่พัฒนาราม ตามพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป