ตัดไม่เลิก! คนร้านบุกตัด "ต้นพะยูง" กลางดึก ก่อนขนขึ้นรถหนีลอยนวล

วันที่ 6 สิงหาคม 2561 เวลา 10.30 น. ร.ต.อ.ประมาณ ยวนยี่ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจากนายธีระชัย สระโสม ผู้ใหญ่บ้านกุดโง้ง หมู่ที่ 6 ตำบลโพนข่า อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ

ว่ามีกลุ่มคนร้ายเข้ามาลักลอบตัดต้นพะยูงกลางทุ่งนาของท้ายหมู่บ้านกลางดึก พร้อมขนไม้พะยูงขึ้นรถหลบหนี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมรุดมาตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน พบว่าที่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 2 ถนนสายบ้านกุดโง้ง-บ้านบก ตำบลโพนข่า ห่างจากถนนเข้าไปทุ่งนาประมาณ 30 เมตร

พบพะยูงต้นใหญ่ อายุประมาณ 70 ปี ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้เลื่อยยนต์ตัดจนล้มโค่นลง พร้อมมีร่องรอยการลากท่อนไม้จนต้นข้าวล้มเป็นแนวยาว ขึ้นมาบนถนนเป็นรอยยาวประมาณ 30 เมตร เพื่อขนขึ้นรถหลบหนี

สอบสวนนายธีระชัย สระโสม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 กล่าวว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. ได้มีนางศุภนิดา ศรีเมือง อายุ 47 ปี ลูกบ้าน โทรมาแจ้งว่า ต้นพะยูงที่อยู่ใกล้กับที่นาของตนถูกคนร้ายลักลอบตัด จึงเดินทางมาตรวจสอบ

พร้อมโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองให้มาตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ ซึ่งต้นพะยูงในหมู่บ้านนี้เป็นต้นพะยูงที่เกิดขึ้นมาตามธรรมชาติ ปัจจุบันเหลืออยู่เพียงไม่กี่ต้นแล้ว

โดยต้นพะยูงดังกล่าวอยู่ห่างจากถนนลาดยางประมาณ 30 เมตร และมีนาข้าวของชาวบ้านที่ต้นข้าวกำลังเจริญเติบโต และมีน้ำขังในนาข้าวล้อมรอบ ยากต่อการขนย้ายแต่ก็ไม่วายถูกคนร้ายใช้ความสามารถลักลอบตัดโค่นขนไม้พะยูงไปได้

นางศุภนิดา ศรีเมือง อายุ 47 ปี ชาวบ้าน บอกว่า ตนเดินทางมาดูต้นข้าวอยู่ที่นา ที่อยู่ติดกับต้นพะยูงที่ถูกตัด ก็ตกใจเมื่อเห็นต้นพะยูงโค่นล้มและมีร่องรอยการใช้เลื่อยตัด จึงโทรแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้มาตรวจสอบ

โดยต้นพะยูงต้นนี้น่าจะมีอายุไม่ต่ำกว่า 70 ปี เพราะว่าตั้งแต่ตนเกิดมาจนจำความได้ก็เห็นต้นพะยูงต้นนี้แล้ว นึกสลดหดหู่ใจที่ต้นพะยูงกว่าจะเจริญเติบโตเป็นต้นใหญ่ต้องใช้เวลานานหลายสิบปี แต่ต้องมาถูกตัดโค่นลงเพียงไม่กี่นาที

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า คนร้ายคงมาดูและวางแผนมาเป็นอย่างดี จนได้เวลาประจวบเหมาะซึ่งใช้เวลาน่าจะเป็นช่วงดึกสงัดที่ชาวบ้านนอนหลับสนิทลงมือตัดต้นพะยูง จากนั้นใช้เลื่อยตัดเป็นท่อนๆ ซึ่งนาจะได้ไม้ท่อนใหญ่ประมาณ 3 ท่อน

แล้วใช้เชือกลากผ่านนาข้าวขนขึ้นรถที่ริมถนนแล้วรีบหลบหนี ซึ่งจะได้ประสานเจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัดศรีสะเกษ นำของกลางที่เหลือนำไปเก็บรักษาไว้ และจะได้สืบสวนหาตัวกลุ่มคนร้ายที่ลักลอบตัดไม้พะยูงมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป