อายัด "ไม้ประดู่" เตรียมส่งออกประเทศเพื่อนบ้าน ด้านเจ้าของเร่งเข้าอ้างสิทธิ์

อายัด "ไม้ประดู่" เตรียมส่งออกประเทศเพื่อนบ้าน ด้านเจ้าของเร่งเข้าอ้างสิทธิ์

อายัด "ไม้ประดู่" เตรียมส่งออกประเทศเพื่อนบ้าน ด้านเจ้าของเร่งเข้าอ้างสิทธิ์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปัจจุบันความพยายามในการส่งออกไม้ไปยังประเทศเพื่อนบ้านโดยผ่านชายแดน อ.เชียงแสน ยังมีอย่างต่อเนื่องและหลายครั้งมักจะไม่แสดงหลักฐานระบุที่มาอย่างชัดเจนหรือหาที่มาของไม้ไม่ได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความเข้มงวดในการนำไม้ออกนอกราชอาณาจักร

วันที่ 7 สิงหาคม 2561 นายพินิจ แก้วจิตคงทอง นายอำเภอเชียงแสน จ.เชียงราย ร่วมกับนายสมศักดิ์ เจียมสงวนวงค์ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 พร้อมด้วย ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรเชียงแสน เข้าตรวจสอบไม้ประดู่ที่บรรทุกมากับรถเทรลเลอร์ 5 คัน จำนวน 134 ท่อน ซึ่งถูกกองไว้ในบริเวณลานท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน ต.บ้านแซว เตรียมไว้เพื่อส่งออกไปยังประเทศจีน

ต่อมาตัวแทนของ บริษัท คุ้งเวียงไม้ จำกัด จ.หนองคาย เจ้าของไม้นำเอกสารที่ระบุว่าเป็นไม้ประดู่ ซึ่งตัดในที่ดินกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดินที่เก็บไว้ที่ จ.หนองคาย มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่

แต่เจ้าหน้าที่ขออายัดไว้ตรวจสอบ เนื่องจากมีประเด็นข้อสงสัยว่า ไม้ประดู่ที่ปลูกในที่ดินมีเอกสารสิทธิ์เป็นไม้ที่ตัดจากสวนป่า สามารถส่งออกได้ตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์หรือไม่

นายสมศักดิ์ เจียมสงวนวงค์ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 กล่าวว่า ไม้ที่สามารถส่งออกได้ มี 2 ประเภทคือไม้สนและไม้จากสวนป่า ซึ่งไม้ที่จะส่งออกได้ต้องมีใบรับรองจากกรมป่าไม้ และใบรับรองของกระทรวงพาณิชย์ว่าอนุญาตให้ส่งออกได้ ผู้ประกอบการจึงจะสามารถทำพิธีการทางศุลกากรได้

ซึ่งจากการตรวจสอบเอกสารไม้ประดู่ 134 ท่อนพบว่า ตัดมาจากตอไม้ในโฉนดที่ดิน 6 แปลง อยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์ 4 แปลง และอยู่ในจังหวัดกาฬสินธุ์ 2 แปลง ตรวจสอบเนื้อไม้พบว่าไม้ประดู่ 134 ท่อน ตัดมาจากตอไม้ 39 ตอ

แต่เจ้าหน้าที่พบเพียง 12 ตอ จึงต้องอายัดไว้ เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเนื้อไม้ได้ตรวจพิสูจน์เสียก่อน ว่าไม้ท่อนไหนตัดมาจากตอไหน โดยจะตรวจสอบไปถึงต้นทางตอไม้ในแปลงโฉนดที่ดินที่ถูกอ้างว่าไม้ได้ถูกตัดมา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook