“ธันวา” ผ่านฉลุย เวลาช่วยพิสูจน์ ทำผ่านด่านพ่อของหวานใจ “กรีน อัษฎาพร”

ขึ้นชื่อเรื่องความหวงลูกสาวสุดๆ สำหรับคุณพ่อของนางเอกสาว กรีน-อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล งานนี้จึงทำเอาหลายคนอดเป็นห่วงหวานใจหนุ่ม ธันวา สุริยจักร ว่าจะผ่านด่านของคุณพ่อไปได้หรือไม่

ล่าสุด กรีนและธันวา ได้ควงคู่ออกงานร่วมกันเป็นครั้งแรก โยทั้งสองได้เผยว่าไม่ได้เป็นการเปิดตัวอะไร เพราะที่ผ่านมาก็ทำตัวปกติมาตลอด ส่วนเรื่องครอบครัวก็ถือว่าแฮปปี้ทั้งสองฝ่าย ดีใจที่คุณพ่อฝ่ายหญิงเอ็นดูเหมือนตนเป็นอีกคนในครอบครัว

เป็นงานคู่ครั้งแรกของคู่เรา ?
กรีน - “ใช่ค่ะ”

ทำไมถึงตัดสินใจรับงานคู่ ?
ธันวา - “จริงๆ ก็ไม่ได้ปิดกั้นครับ เขาติดต่อมาเราก็ยินดี“

มีงานคู่คิดต่อมาเยอะไหม ?
ธันวา - “ก็มีมาเรื่อยๆ นะครับ แต่อันนี้คือเราตรงกันพอดีบวกกับเราพร้อมพอดี ที่โอเคจะออกงานคู่กัน”

เรียกว่าเป็นการเปิดตัว ?
ธันวา - “(หัวเราะ) ก็ไม่ได้ปิดนะครับ ก็ทำตัวปกติ จริงๆ ค่าตัวเราก็คิดปกติครับ เป็นเรตปกติของเราสองคนอยู่แล้ว ไม่ได้มีการอัพค่าตัวขึ้นหรืออะไร”

รับเงินค่าตัวเป็นคู่หรือแยกกัน ?
ธันวา - “ผมก็มีเรื่องจำเป็นต้องใช้เหมือนกันนะครับ (หัวเราะ) ไม่ต้องขอครับ เหมือนผมพูดคนเดียวเลยนะครับ”

กรีน - “ปกติกรีนพูดเยอะงาน คราวนี้ออกงานคู่กันก็ให้เขาพูดบ้างอะไรบ้าง”

ความรักครั้งนี้เป็นไปได้สวยเพราะผ่านด่านครอบครัวแล้ว ?
ธันวา - “เรียกว่าผ่านด่านไหม ก็แฮปปี้กันทั้งคู่เพราะผมกับทางครอบครัวกรีนก็เข้ากันด้วยดี และครอบครัวผมก็เอ็นดูและรักกรีนเหมือนคนในครอบครัวคนหนึ่ง”

ดีใจไหมเพราะคุณพ่อกรีนค่อนข้างหวงลูกสาว ?
ธันวา - “ก็ดีใจครับ เราก็คุยกันตลอด”

ธันวาเคยทราบข่าวไหมว่าคุณพ่อของกรีนหวง ?
ธันวา - “ตอนแรกผมทราบข่าว ผมก็รู้สึกเกร็งๆ นิดหนึ่ง และกลัวด้วยครับ พอเวลาไปเจอเขาจริงๆ แล้วเขาเป็นคนน่ารักและเป็นคนคุยเก่งครับ ถือว่าเป็นผู้ใหญ่ที่ให้คำปรึกษาที่ดีกับทุกๆ เรื่องครับ”

 IG: green_ausadapornวันว่างๆ ของ กรีน-ธันวา

มีแพลนเรื่องอนาคตไหม ?
ธันวา - “ไม่ถึงขนาดนั้นครับ คือจริงๆ เราไม่ได้วางแผนอะไรมากมาย แต่ว่าเรามีแพลนว่าเราจะทำธุรกิจร่วมกันเร็วๆ นี้ เป็นเกี่ยวกับร้านอาหารครับ เป็นเฟนไชน์ชื่อดังจากญี่ปุ่น เราก็มีหุ้นส่วนที่แข็งแรงและเราจับมือกันไปเปิดที่เชียงใหม่ครับ”

กรีนสบายใจขึ้นไหม เขาผ่านด่านพ่อแม่เราแล้ว อะไรที่ทำให้เขาผ่านด่านคุณพ่อ คุณแม่มาได้ ?
กรีน - “อะไรที่ทำให้เขาผ่านด่าน จริงๆ ก็เป็นที่ตัวเขาแหละค่ะ จริงๆ พ่อแม่ทุกคนเขาก็รักลูกเนอะ ถ้าคนคนหนึ่งจะเข้ามาในชีวิตลูกของเราก็คือต้องเข้าหาผู้ใหญ่ด้วย และเขาก็เป็นคนที่เข้าหาไม่ได้ปฏิเสธอะไร”

กับการลงขันทำธุรกิจด้วยกันเรากลัวไหม เป็นคู่รักจะทำให้มีปัญหาในอนาคต ?
ธันวา - “สำหรับผม ผมว่าไม่กลัวครับ พวกเราสองคนค่อนข้างจะมีวิสัยทัศน์ และมีทัศนคติในการทำธุรกิจค่อนข้างตรงกันและมีวิธีคิดคล้ายๆ กันและมีเป้าหมายเดียวกัน เลยไม่ได้รู้สึกว่ากลัวอะไร”

นอกจากธุรกิจแล้วจะมีงานละครคู่กันไหม ?
ธันวา - “อันนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับทางช่องว่าเขาดูความเหมาะสมของบม และความเหมาะสมของเราสองคนว่าจะเป็นไปได้ไหมที่จะลงละครเรื่องนั้นๆ อันนี้ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ครับ”

ถามถึงเรื่องไปช่วยน้ำท่วมที่ลาวไปลงพื้นที่ช่วยผู้ประสบภัยที่ลาวมาเป็นยังไงบ้าง ?
ธันวา - "มีความสุขมากครับ จริงๆ แล้วแบบผมรู้สึกครั้งแรกที่ทราบข่าว ผมรู้สึกสั่นสะเทือนมาก เพราะว่าเราเคยไปมาตั้งแต่เด็ก มันก็ค่อนข้างรู้สึก และภาพเก่าๆ มันก็ย้อนกลับมาตอนที่เราเคยไปกับครอบครัว พอได้ข่าวผมคงอยู่ไม่ไหว คือทนอยู่เฉยๆ ไม่ไหวลุกขึ้นมาทำบางสิ่งบางอย่าง ตอนแรกผมไม่คิดว่าคนในวงการ มีพี่ๆ คนไทยคอยสนับสนุนเยอะขนาดนี้ ตอนแรกผมกะว่าจะลงพื้นที่ช่วยอะไรได้ก็ช่วย แรงกายแรงใจเท่าที่ทำได้ ต้องขอขอบคุณพี่น้องคนไทยทุกๆ คน และทุกคนที่ร่วมทำบุญกับผมในครั้งนี้ ภาพที่เห็นคือคนที่นั่นมีความสุขมากๆ เขาเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม"

รายได้ที่ได้จากการบริจาคประมาณเท่าไหร่ ?
ธันวา - "ประมาณสองแสน และผมก็เพิ่มเงินส่วนตัวเข้าไปและซื้อของบางส่วน และมีหุ้นส่วนทางธุรกิจของผมร่วมทำบุญด้วย"

ตอนนี้สถานการณ์ที่นั่นเป็นไงบ้าง ?
ธันวา - "ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว ทุกอย่างก็คงเข้าที่เข้าทางขึ้นเรื่อยๆ แค่รอให้น้ำลดลงกว่านี้ตอนนี้ก็ลดลงมากๆ แล้ว"

จะมีโอกาสไปเยียวยาเขาที่นั่นอีกไหม ?
ธันวา - "ก็ต้องรอดูโอกาสครับ ว่ามีโอกาสไปอีกหรือเปล่า เพราะครั้งนี้ที่ไปมันมีความสุขมาก มันเหมือนเราทำตามความฝันเราสำเร็จ มันมีความรู้สึกดี กลับมาปุ๊บก็คิดถึงภาพเก่าๆ คิดถึงภาพที่เราไปช่วยเหลือเขา"